Quantcast
Channel: บล็อก อ้อยหวาน
Viewing all 244 articles
Browse latest View live

ชมสวนสวย..เมืองเกียวโต 2

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

 

 

วันนี้มาพาไปชมสวนพฤษศาสตร์เมืองเกียวโตกันต่อค่ะ สวนนี้กว้างมาก เสียดายที่เขาไม่ให้เอาจักรยานเข้าไป อ้อยหวานเดินเสียขาขวิดเลย

 

 

นอกจากกุหลาบพันปีแล้วที่สวนยังมีสวนต้นซากุระ (จะออกดอกในช่วงเดือนมีนาคม) สวนคามิเลีย (จะออกดอกในช่วงเดือนเมษายน) สวนโบตั๋นพันธ์ฝรั่งซึ่งตอนที่อ้อยหวานไปดอกยังตูมอยู่ยังไม่บาน แต่ก็ไม่เสียใจเพราะได้กลับมาดูที่บ้าน ดูได้จากบล็อกนี้ค่ะ โบตั๋น..อีกสักครั้ง

 

 

และสวนเมเปิ้ลญี่ปุ่น ที่มีต้นเมเปิ้ลญี่ปุ่นปลูกอยู่เต็ม ร่มรื่นน่านั่งพักมาก ตรงกลางมีสระน้ำที่มีนกและเป็ดอยู่หลายตัว ที่นี่ไม่มีตาข่ายหรือกรงครอบ นกจะบินไปไหนก็ได้ ที่ตรงนี้คงจะน่าอยู่ จึงมาออกันอยู่ที่นี่

 

 

ไม่ไกลกันเป็นดงสนญี่ปุ่นต้นใหญ่ มีลุงนั่งวาดรูปสีน้ำอยู่ตรงกลาง

 

 

มาถึงโซนพรรณไม้สะสม ซึ่งจะมีอย่างละต้นสองต้น เช่นต้นนี้ แม็กโนเลีย สายพันธ์หนึ่ง

แม็กโนเลียเป็นพืชตระกูลใหญ่มีทั้งหมด 210 สายพันธ์ รวมถึงดอกจำปี จำปา จำปูน ยี่หุบ และมณฑา รวมเรียกกันว่า แม็กโนเลียเขตร้อน (Tropical Magnolia)

ขอบคุณ ข้อมูลจาก  WIKIPEDIA

 

 

ต้นผ้าเช็ดหน้า (Handkerchief Tree) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Davidia involucrate ดอกสวยน่ารัก

 

 

ต้นนี้มีดอกคล้ายดอกราชพฤกษ์ แต่ไม่ใช่  มีชื่อว่าต้นสร้อยทอง (golden chain tree)  มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Laburnum มีถิ่นกำเนิดในยุโรปตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียไมเนอร์หรือตุรกี

ขอบคุณ ข้อมูลจาก  WIKIPEDIA

 

 

ส่วนต้นนี้ก็สวยแปลกมาก มีชื่อว่า Tower of Jewels..หอคอยอัญมณี ถ้าบานเต็มที่คงจะสวยจริงๆ

หอคอยอัญมณี (Tower of Jewels) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Echium wildpretii หอคอยนี้จะสูงถึง 3 เมตร และมีดอกเล็กเหมือนอัญมณีประดับอยู่เป็นร้อยๆดอก หอคอยอัญมณีมีถิ่นกำเนิดในหมู่เกาะคะเนรี (canary islands) ซึ่งอยู่นอกชายฝั่งทะเลโมร็อกโก

ขอบคุณ ข้อมูลจาก  WIKIPEDIA

 

 

ดูกันชัดๆ อัญมณีที่ประดับอยู่บนหอคอย

 

 

ดอก Chinese fringe flower มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Loropetalum chinense มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน มีสีชมพูอ่อน ชมพูแก่ และสีขาว

 

 

ดอก Chinese fringe flower

 

 

คุซะโมะโนะ (Kusamono) เป็นศิลปะในการปลูกไม้กระถางจิ๋วของญี่ปุ่น ส่วนมากจะใช้หญ้า มอส เฟริน และดอกไม้ป่า ที่สวนนี้มีตั้งโชว์อยู่ยาวเยียดเลย

 

 

อ้อยหวานชอบไม้กระถางจิ๋วพวกนี้มาก ปลูกในกระถางเล็กๆ เป็นศิลปะที่ดูเป็นธรรมชาติ ปลูกในบ้าน หรือระเบียงอาพาทเม้นก็ได้

 

 

ตัวกระถางเองก็เป็นศิลปะอยู่ในตัว

 

 

ดูกระถางอันนี้สิ ดูเป็นธรรมชาติจริงๆ

โซนบอนไซของที่นี่ก็มีแต่ดูเหมือนว่าจะถูกปล่อยปละละเลย โทรมมาก อ้อยหวานได้ไปดูบอนไซที่หมู่บ้านบอนไซ สวยมากๆ ถ้ามีเวลาจะเอามาให้ชมกัน

 

 

สวนไผ่ก็มีค่ะ สำหรับคนชอบไผ่

 

 

มีไผ่อยู่หลายประเภทเหมือนกัน

 

 

วันที่อ้อยหวานไปที่สวนตรงกับวันอาทิตย์ มีตลาดต้นไม้อยู่มุมหนึ่งของสวน ขายดีเชียวละ

 

 

ส่วนมากจะเป็นไม้ดอกไม้ประดับ เช่นกล้วยไม้ ไฮเดรนเยีย และไม้ประดับอื่นๆ

 

 

กล้วยไม้ของร้านนี้ราคาไม่แพงเลย

 

 

ร้านนี้ไม่ติดราคา คงจะแพง

 

 

โคะเคะดะมะ (kokedama) เป็นศิลปการปลูกต้นไม้ของญี่ปุ่นชนิดหนึ่ง เป็นสไตล์การปลูกต้นไม้ที่นิยมในสมัยเอโดะ (ปี 1603) ดินที่ใช้ทำโคะเคะดะมะ (kokedama) จะเป็นดินผสมสำหรับปลูกบอนไซ แล้วปั้นเป็นก้อน หุ้มด้วยดินเหนียว แล้วหุ้มด้วยมอสอีกทีหนึ่ง ดูรายละเอียดวิธีทำได้ที่นี่ Japanese Art of Kokedama

ของญี่ปุ่นทำขึ้นเพื่อตั้งโชว์บนโต๊ะหรือบนพื้น แต่ฝรั่งเอาไปเลียนแบบ ตั้งชื่อว่า Moss ball แล้วเอามาห้อยแขวนโตงเตงเสียนี่ ดูรูปโคะเคะดะมะ (kokedama) หลายๆแบบได้ที่นี่

 

 

อันนี้ก็คงไว้สำหรับตั้งโชว์บนโต๊ะเหมือนกัน ไอเดียดีและเก๋มาก ตั้งบนโต๊ะทำงานคงจะทำให้สดชื่นและคลายเครียด

 

 

ร้านนี้ขายพวกพืชอวบน้ำ (Succulent plants หรือ succulents) เจ้าหัวโตๆ ตรงกลางมีชื่อว่า Bowiea เป็นพืชทะเลทรายของแอฟริกาตะวันออกและแอฟริกาใต้ Bowiea ไม่มีใบที่เห็นเป็นเส้นเขียวๆ เล็กๆ คือดอกของต้น Bowiea ที่สำคัญคือทั้งหัวทั้งก้านมีพิษร้ายแรง

ขอบคุณ ข้อมูลจาก  CACTUSPEDIA

 

โปรดติดตามอ้อยหวานเล่าเรื่องญี่ปุ่น ในตอนต่อไป

 

อ่านอ้อยหวานเล่าเรื่องญี่ปุ่น ตอนแรกๆได้ที่นี่่ค่ะ

โปสการ์ดจากญี่ปุ่น

4 อาทิตย์ที่ดินแดนอาทิตย์อุทัย

ดอกซากุระสุดท้ายของปี

ปั่นจักรยานกลางเมืองโตเกียว..เป็นไปได้และสนุกสุดๆ

ธรรมชาติ ศาสนา ศรัทธา รวมกันเป็นความงามที่โดดเด่น

ลืมเธอไม่ลง..คามาคุระ ตอน 1

ลืมเธอไม่ลง..คามาคุระ ตอน 2

ลืมเธอไม่ลง..คามาคุระ ตอน 3

เกียวโต..เมืองหมื่นวัดและศาลเจ้า

เดินชมตลาดนิชิกิ..สุดยอดตลาดของเกียวโต

ชมเมืองเกียวโต..บนจักรยาน

ชมสวนสวย..สวนพฤษศาสตร์เมืองเกียวโต

 

ขอให้เพื่อนๆมีแต่ความสุข

 

ขอบคุณค่ะ

 

อ้อยหวาน

 

 

 


เผชิญหน้ากับวาซาบิตัวจริง

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

 

ใช่แล้ว! อ้อยหวานได้ดั้นด้นไปพบกับวาซาบิตัวจริงที่ฟาร์มวาซาบิที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น หลังจากที่แปลบทความให้เว็ป 'เจเปน เทรเวิล'แล้วได้รู้จักกับฟาร์มวาซาบิ ความอยากรู้มีมากขึ้น ได้ค้นคว้าหาอ่าน แล้วได้เขียนบล็อก เล่าสู่กันฟัง “เรื่องของวาซาบิ”

 

 

ยังไม่สมใจตัวเอง สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น ว่าแล้วอ้อยหวานจึงดั้นด้นตามไปดู ไปสัมผัส ไปทักทาย และไปชิม จนถึงที่

กว่าจะไปถึงฟาร์มวาซาบิ ไดโอะ อ้อยหวานต้องขึ้นรถไฟจากที่พักซึ่งอยู่นอกเมืองโตเกียวถึงสองต่อเพื่อไปขึ้นรถไฟชินกันเซ็นที่สถานีโตเกียว ต่อจากนั้นก็ขึ้นรถไฟอีกสองต่อ แล้วก็ปั่นจักรยานอีกหลายกิโลไปจนถึงฟาร์มวาซาบิ ไดโอะ

อ่านเวอร์ชั่นที่มีรายละเอียดการท่องเที่ยวและการเดินทางได้ที่ลิงค์ข้างล่างค่ะ

พบกับวาซาบิตัวจริงที่นากาโนะ

ชมและชิมวาซาบิที่ฟาร์มไดโอะ

 

 

เป็นทริปปั่นจักรยานอีกทริปหนึ่งที่ชอบมาก ฟาร์มวาซาบิ ไดโอะ อยู่ในระหว่างหุบเขาที่อุดมสมบูรณ์ในเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น (Japanese Alps) ทำให้มีทิวทัศน์ที่ผสมผสานกันของนาข้าวและภูเขา

 

 

ถึงแม้ว่าในวันที่อ้อยหวานไป (ปลายเดือนพฤษภาคม) ชาวนาเพิ่งจะเริ่มปลูกข้าวกัน แต่ทิวทัศน์ก็ยังสวยงดงาม ‘นาข้าวกับภูเขาหิมะ’ 

 

 

ไปยืนดูลุงๆ ปลูกข้าวกันอยู่นาน

 

 

อ้อยหวานเพิ่งเคยเห็นเครื่องปลูกข้าวเป็นครั้งแรก ใช้เวลาไม่นานเลย

 

 

อีกแปลงที่ปลูกข้าวเสร็จแล้ว มีป้าคนนี้เดินตรวจความเรียบร้อย

 

 

นอกจากนาข้าวแล้ว ระหว่างทางยังมีฟาร์มเลี้ยงปลาเรนโบว์เทราท์ ดูคล้ายกับนากุ้งของบ้านเรา

 

 

และฟาร์มวาซาบิเล็กๆ

 

 

ปั่นจักรยานมาห้ากิโลเมตรก็มาถึงฟาร์มวาซาบิ ไดโอะ เป็นฟาร์มที่มีเนื้อที่กว้างขวาง ปลูกวาซาบิแบบซะวะ คือปลูกในกึ่งน้ำกึ่งกรวด มีน้ำบริสุทธิจากภูเขาแอลป์ญี่ปุ่นไหลผ่าน และอุณหภูมิของ น้ำก็อยู่ประมาณ 13 องศาตลอด วาซาบิที่ปลูกวิธีนี้ รสชาติจะใกล้เคียงกับพวกที่ขึ้นตามธรมชาติมากที่สุด

 

 

ฟาร์มยาวเยียดเลียบแม่น้ำดูคล้ายนาข้าว เพราะต้องให้น้ำภูเขาจากแม่น้ำไหลผ่านและไหลออกไป ช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคมแปลงวาซาบิจะมีตาข่ายขึงกันแดด

 

 

ต้องหมุดไปดูใต้ตาข่ายกันหน่อย วาซาบิเขาปลูกกันแบบนี้ มีแบ่งแปลงใหญ่ๆ เป็นแนวยาวและมีน้ำไหลผ่านกลาง ในแปลงใหญ่ยังซอยย่อยเป็นแปลงเล็กๆ ให้น้ำไหลเข้าไปได้

 

 

วาซาบิ เป็นพืชน้ำชนิดหนึ่ง ในตระกูลแบร์สิคาซีแอร์ (Brassicaceae) มีกะหล่ำปลี ฮอสแรดดิส และต้นมัสตาร์ด เป็นพี่น้องร่วมตระกูล

 

 

แปลงเพิ่งจะเก็บเกี่ยว เขากั้นน้ำแล๊้วสูบน้ำที่เหลือออก

 

 

สะพานข้ามทุ่งวาซาบิ

 

 

หลังจากเก็บเกี่ยวก็มาถึงการล้างทำความสะอาด แยกหัว ก้าน และใบ เพราะนอกจากกินหัวแล้ว ใบ ก้าน และดอก ยังกินอร่อยด้วย กินสดเป็นสลัด ผัดน้ำมัน ลวกกินกับซีอิ้ว ตากแห้งใส่กับอาหารอื่นๆ หรือหมักดองเป็นไวน์และเบียร์

 

 

อ้อยหวานไปแอบดูที่ห้องสอนทำอาหาร เขากำลังทำครีมทาหน้าขนมปังวาซาบิกัน

 

 

ทำออกมาแล้วหน้าตาเยี่ยงนี้

 

 

ภายในบริเวณฟาร์มวาซาบิ ไดโอะ มีร้านอาหารและร้านขายของอยู่หลายร้าน มีขายของกินทุกอย่างที่ใส่วาซาบิ ตั้งแต่ข้าวโพดคั๋วใส่วาซาบิ ไปจนถึงน้ำและเบียร์วาซาบิ อ้อยหวานกินอะไรบ้าง?

 

 

อ้อยหวานซื้อกินแค่สองอย่างค่ะ ข้าวเกรียบวาซาบิ อร่อยมาก อร่อยจริงๆ รสชาติหวาน มัน เค็ม และเผ็ด

 

 

ไอศครีมวาซาบิไม่มีรสวาซาบิอยู่เลย รสชาติมันๆ คล้ายไอศครีมถั่วเหลือง (ถ้ามี)

 

 

วาซาบิสด หัวเล็กหัวละ 1000 เยน= 300 บาท หัวใหญ่หัวละ 2000 เยน= 600 บาท อ้อยหวานไม่ได้ลองทาน เพราะในร้านอาหารคนเยอะ แค่กินสองอย่างกับชิม (ฟรี) ในร้านอย่างละนิดหน่อย อร่อยทุกอย่างเลย โดยเฉพาะก้านวาซาบิดอง

 

 

ในฟาร์มวาซาบิก็มีจิตรกรมานั่งวาดรูปสีน้ำกันเป็นกลุ่มเหมือนกัน แต่เป็นกลุ่มสาวๆ ทั้งนั้น รูปที่วาดสวยมากด้วย รูปนี้คงต้องให้ชื่อว่า "ความฝัน" (Dreams) เพราะกังหันน้ำแบบโบราณสองอันนั้นสร้างขึ้นเพื่อถ่ายหนังญี่ปุ่นเรื่อง"ความฝัน" (Dreams)

 

โปรดติดตามอ้อยหวานเล่าเรื่องญี่ปุ่น ในตอนต่อไป

 

อ่านอ้อยหวานเล่าเรื่องญี่ปุ่น ตอนแรกๆได้ที่นี่่ค่ะ

โปสการ์ดจากญี่ปุ่น

4 อาทิตย์ที่ดินแดนอาทิตย์อุทัย

ดอกซากุระสุดท้ายของปี

ปั่นจักรยานกลางเมืองโตเกียว..เป็นไปได้และสนุกสุดๆ

ธรรมชาติ ศาสนา ศรัทธา รวมกันเป็นความงามที่โดดเด่น

ลืมเธอไม่ลง..คามาคุระ ตอน 1

ลืมเธอไม่ลง..คามาคุระ ตอน 2

ลืมเธอไม่ลง..คามาคุระ ตอน 3

เกียวโต..เมืองหมื่นวัดและศาลเจ้า

เดินชมตลาดนิชิกิ..สุดยอดตลาดของเกียวโต

ชมเมืองเกียวโต..บนจักรยาน

ชมสวนสวย..สวนพฤกษศาสตร์เมืองเกียวโต

ชมสวนสวย..เมืองเกียวโต 2

 

 

ขอให้เพื่อนๆมีแต่ความสุข

 

ขอบคุณค่ะ

 

อ้อยหวาน

 

 

 

ดื่มชา..ชมสวน

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

 

 

วันนี้หยุดพักจากการท่องเที่ยวญี่ปุ่นสักบล็อกหนึ่ง โดยการชมสวนอ้อยหวาน และมาทำชาไว้ดื่มกัน ชาของวันนี้พิเศษหน่อยค่ะ เป็นชาใบงาม้อนแดง ที่มีชื่อภาษาอังกฤษว่า  Perilla  ชื่อภาษาจีนว่า  Zi Su Ye ชื่อภาษาญี่ปุ่นว่า  Aka Shiso ชื่อภาษาเวียตนามว่า  tía tô  ภาษาเกาหลีเรียกว่า  Deulkkae  ที่ญี่ปุ่นชาใบงาม้อนแดงเป็นที่นิยมกันมาก ไม่ว่าจะทำกันเอง หรือซื้อที่เขาทำสำเร็จบรรจุขวดขาย

อ้อยหวานเคยเอามาเล่าสู่กันฟังแล้ว ดูได้ที่บล็อกนี้

 

 

พาชมสวนก่อนนะค่ะ ปีนี้อ้อยหวานละเลยสวนไปมาก เพราะมัวแต่ไปเที่ยว  ช่วงเพาะปลูกก็ไปอยู่ที่ญี่ปุ่นทั้งเดือน แต่ดอกไม้ในสวนก็ดูแลตัวเองได้ดีพอใช้  บางอย่างหมดหนาวแล้วก็งอกแตกขึ้นมาใหม่ บางอย่างหว่านเมล็ดเองตั้งแต่ปีที่แล้ว มาปีนี้ขึ้นเองโดยไม่ง้อคนปลูก

 

 

ปีนี้มีฤดูหนาวที่ยาวนานกว่าปรกติ แล้วก็ยังมีฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนที่อากาศเย็นผิดปรกติ แถมด้วยฝนตกชุกมากกว่าปรกติด้วย แล้วยังมีสาราสัตว์ที่ไม่ได้เชิญมารุมกินดอกไม้ผักหญ้ากันอิ่มเอม

 

 

ฮอลลี่ฮ็อค (Hollyhock) ขึ้นมาจากรากเก่าทุกปี ส่วนป๊อปปี้หว่านเมล็ดเองขึ้นเอง ได้เก็บเม็ดป๊อปปี้มาทำขนมคุ๊กกี้บ่อยๆ

 

 

บราว์ อาย ซูซาน (Brown eye Susanne) เป็นไม้ดอกที่ปลูกง่ายขึ้นง่าย ขยายพันธ์เอง ลิลลี่ก็งอกมาจากหัวเก่า แต่ปีนี้บางหัวก็ไม่มีดอก อ้อยหวานคงจะต้องซื้อหัวลิลลี่มาปลูกทดแทน

 

 

ดอก Goose neck ..คอห่าน คงจะชอบอากาศเย็น ออกดอกสวยกว่าทุกปี

 

 

ฟร็อก (Phlox) เป็นต้นไม้ที่คงเส้นคงวา กี่ปีๆ ก็ยังออกดอกสวยและดก ไม่มีการงอแง

 

 

สวนหน้าบ้านรกเป็นป่าเลย ไฮเดรนเจีย (hydrangea) ออกดอกกันดกเช่นเคย

 

 

ต้นนี้มีดอกหลายเฉดสีม่วงและชมพู

 

 

มะเขือเทศพันธ์องุ่นที่ปลูกไว้ในบ้านตั้งแต่ต้นปีในฤดูหนาว หมดหนาวก็ได้ออกมาเฉิดฉายนอกบ้าน

 

 

ดูดิสูงปริ๊ดเลย ยาวถึง 4-5 เมตร

 

 

ต้นเสาวรสทั้งสองกระถางก็ได้ออกมาปีนรั้วนอกบ้าน

 

 

ตอนเอาเสาวรสออกมานอกบ้าน อ้อยหวานต้องตัดกิ่งก้านออกเกือบหมด แต่ก็ยังมีดอกให้ชื่นชมเป็นครั้งแรก หลังจากปลูกจากเมล็ดที่เอามาจากเมืองไทย อายุปีกว่าก็มีดอกให้ชื่นใจ ทำให้คิดถึงพ่อ เพราะอ้อยหวานซื้อเสาวรสมาให้พ่อกิน แล้วเก็บเม็ดจากที่พ่อกินเหลือติดค้างอยู่กับเปลือกเอากลับมาปลูกที่บ้าน

 

 

นี่ก็เผอิญมาเป็นดอกไม้ในสวน ผ้าห่มควิลท์ติ้ง (Quilting) ทำมือ ก่อนที่จะซอกแซกปั่นจักรยานเที่ยว ในสมัยที่ต้องอยู่บ้านเลี้ยงลูก อ้อยหวานทำผ้าห่มควิลท์ติ้งไว้มากมายหลายผืน ทำให้แม่ ให้น้องๆ ให้ลูกๆ

 

 

สองผืนนี้ของลูกสาว ผืนหัวใจทำให้เมื่อน้องเบลอายุได้สามขวบ  ส่วนผืนดาวทำให้เมื่ออายุสิบขวบ เดี๋ยวนี้ทิ้งการทำผ้าห่มควิลท์ติ้งไป เพราะมัวแต่เที่ยวและเขียนบล็อก อยากจะบอกว่าการเขียนบล็อกของอ้อยหวานนี้ ใช้เวลามากและทำด้วยใจ

 

 

ต้นงาม้อนแดงที่สวนขึ้นมาเองทุกปี ไม่ต้องหว่านเมล็ดเลย ตอนที่เก็บเมล็ดเอาไปแจกที่เมืองไทยเมื่อปีที่แล้ว คงจะมีเมล็ดหล่นอยู่มากมาย ปีนี้เลยขึ้นกันพรึบพรับ คุณผู้ชายต้องถอนทิ้งไปเยอะ ไม่อย่างนั้นสวนจะกลายเป็นป่างาม้อนแดง

 

 

ถึงเวลาเก็บใบงาม้อนแดงมาชงชากันแล้วค่ะ ตัดก้านแบบนี้จะทำให้ต้นงาม้อนแตกกิ่งและใบมากขึ้น ตัดมาเยอะหน่อยจะได้ทำชาไว้ดื่มหลายวัน

 

 

เด็ดเอาแต่ยอดและใบ แล้วล้างให้สะอาด ปลูกเอง กินเอง ปลอดสารแน่นอน

 

 

ตั้งหม้อต้มน้ำให้เดือด อ้อยหวานใช้กะเอา ถ้าต้องการสูตรก็ดูที่บล็อกนี้ค่ะ  Shiso juice

เป็นสูตรที่ทำไว้เข้มข้นหน่อย เวลาทานก็ผสมน้ำตามชอบ น้ำเดือดแล้วใส่ใบงาม้อนแดงลงไป หรี่ไฟลงและต้มจนสีของใบงาม้อนแดงจาง ประมาณ 3-5 นาที (บางคนต้มนานถึง 10 นาที)

 

 

กรองเอาใบงาม้อนแดงออก แล้วเติมน้ำตาล หรือน้ำผึ้ง และเติมน้ำมะนาวให้ได้รสชาติตามชอบ น้ำมะนาวจะเป็นตัวที่ทำให้น้ำชาใบงาม้อนแดงเป็นสีชมพูสวย ทิ้งไว้ให้เย็น แล้วกรอกใส่ขวด เก็บไว้ในตู้เย็น เวลาทานก็ผสมน้ำอีกทีหนึ่ง แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน

จะรับชาใบงาม้อนแดง ร้อนหรือเย็นคะ?..ขอบอกว่ารสดีจริงๆ ค่ะ แถมมีประโยชน์แก่ร่างกายด้วย

ใบงาม้อนแดง อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก แคลเซียม โพแทสเซียม มีสารต้านอนุมูลอิสระ สารต้านการอักเสบ และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย คนญี่ปุ่นนิยมดื่มชาใบงาม้อนแดงเพราะช่วยให้ผิวพรรณดี อ้อยหวานเป็นโรคโลหิตจาง ต้องทานธาตุเหล็กที่เป็นเม็ดทุกวัน ชาใบงาม้อนแดงช่วยได้เยอะ และอร่อยกว่าด้วย

นอกจากนี้ใบงาม้อนแดงยังสามารถนำมาแช่กับเหล้า ไว้ดื่ม ดูรายละเอียด ได้ที่นี่ค่ะ

http://norecipes.com/red-shiso-shochu-and-a-cocktail/

 

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับใบงาม้อน ได้ที่นี่ค่ะ

http://ezinearticles.com/?Health-Benefits-of-Shiso---What-Can-This-Herb-Do-For-You&id=4202748

http://shizuokagourmet.com/2010/05/04/health-nutrition-facts-in-japanese-food-2-perilla-leafshiso%E7%B4%AB%E8%98%87/

http://www.healthline.com/natstandardcontent/perilla

http://en.wikipedia.org/wiki/Shiso

 

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับชาใบงาม้อนแดง ได้ที่นี่ค่ะ

http://kokonuggetyumyum.blogspot.ca/2006/09/home-made-shiso-drink.html

https://en.cookpad.com/recipe/600293

http://blog.umamimart.com/2008/09/shiso-juice-a-healthy-mixer-for-unhealthy-boozing/

 

ขอให้เพื่อนๆมีแต่ความสุข

 

ขอบคุณค่ะ

 

อ้อยหวาน

 

 

แฉ!!! นักก็อปตัวยง

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

 

แฉนักก็อปตัวยง ไม่อายกันบ้างเลยหรือ ก็อปทั้งดุ้น ยกเว้นชื่อคนเขียน

http://forfang.blogspot.ca/2013/09/blog-post_22.html

 

ดูบล็อกของแท้ได้ที่นี่ค่ะ

 ผลไม้กินได้แปลกๆจากซอกมุมโลก ตอน 2

 น่าอายกิ้วๆๆๆๆ

โลกใบนี้ อาจจะกว้าง ใหญ่ไพศาล
แต่ดวงมาลย์ โลกในเน็ท มันแคบนะ
อยากจะแปลก ก็ต้องแปลก แบบจะจะ
เลิกลอกซะ จะได้ ไม่อายใคร

โอ้ละหนอ..โอซาก้า

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

 

 

คุณยุพินเขียนโน๊ตข้อคิดเห็นในบล็อกก่อนว่าได้ไปเดินเที่ยวโอซาก้า เกือบได้เจอกันนะคะ แต่อ้อยหวานไปก่อนหน้าสักอาทิตย์หรือสองอาทิตย์ ไปอยู่โอซาก้าห้าวัน เดินและปั่นจักรยานเที่ยวโอซาก้าแค่สองวัน นอกนั้นเอาจักรยานออกไปปั่นนอกเมือง เพราะโอซาก้าคนเยอะมากๆ เยอะจริงๆ

 

 

 

โอซาก้าเป็นเมืองใหญ่อันดับสามของญี่ปุ่น รองจากโตเกียวและโยโกฮามา สถานที่เด่นดังของโอซาก้า คงจะไม่มีที่ไหนดังไปกว่า ‘ปราสาทโอซาก้า’ ชนิดที่เขาว่ากันว่า “ถ้ามาโอซาก้าแล้วไม่ได้ไปชมปราสาทโอซาก้า ถือว่ามาไม่ถึงโอซาก้า”

‘ปราสาทโอซาก้า’ สร้างขึ้นในปี 1583 แต่ถูกทำลายลงและสร้างขึ้นใหม่หลายครั้งหลายหน ครั้งล่าสุดในสงครามโลกครั้งที่สอง ญี่ปุ่นใช้ปราสาทโอซาก้าเป็นคลังผลิตและเก็บอาวุธ เลยโดนสหรัฐอเมริกาถล่มระเบิดจนยับเยิน แต่ก็มีการสร้างขึ้นใหม่หลังจากนั้น ตัวปราสาทใช้เป็นพิพิธภัณฑ์มีการตั้งแสดงอาวุธ เสื้อเกราะ และของโบราณอื่นๆอีกมากมาย

 

 

วันที่อ้อยหวานแวะไปมีเด็กๆ มาทัศนศึกษากันหลายโรงเรียน อ้อยหวานจึงไม่ได้ขึ้นไปชมบนปราสาท อีกทั้งเคยขึ้นไปชมแล้ว

 

 

กลุ่มหมวกเหลืองถ่ายรูปกัน น่ารักมาก

 

 

อ้อยหวานไปปั่นจักรยานเที่ยวรอบปราสาทสนุกกว่าเยอะ ปราสาทโอซาก้ามีบริเวณกว้างขวางมาก มีสวนที่มีต้นไม้ร่มรื่น

 

 

เป็นสถานที่ยอดฮิตสำหรับชมดอกซากุระในเดือนเมษายน ที่นี่มีต้นซากุระมากมายกว่า 600 ต้น

 

 

สวนพลัมในวันนี้มีแต่อ้อยหวานมาชื่นชมอยู่คนเดียว แต่ในเดือนมีนาคมคงจะมีผู้คนมากมายมาชมดอกพลัม สวยไม่แพ้ดอกซากุระ และบานทนกว่าด้วย 2-3 อาทิตย์ ดอกซากุระบานบานแค่อาทิตย์เดียว

 

 

ยี่สิบกว่าปีก่อนอ้อยหวานกับคุณผู้ชายได้มาแบกเป้เที่ยวโอซาก้า มาคราวนี้อ้อยหวานปั่นจักรยานวนหาป้ายอันนี้ แต่หาไม่เจอ

 

 

ที่ตรงนั้นคงจะกลายเป็นสนามเบสบอลแห่งนี้

 

 

ดูดิ เขาเป็นระเบียบกันแค่ไหน เข้าแถวไปในสถานีรถไฟ เขาสอนกันตั้งแต่ตัวเล็กๆ เลย

อ่านเวอร์ชั่นที่มีรายละเอียดการท่องเที่ยวและการเดินทางได้ที่ลิงค์ข้างล่างค่ะ

ปั่นจักรยานวนเวียนรอบปราสาทโอซาก้า ชมสวน ชมปราสาท และเพลินไปกับการดูผู้คน

 

 

นอกจากปราสาทแล้ว โอซาก้ายังโด่งดังในเรื่องช็อปปิ้ง ที่ดังมากๆ คงไม่พ้น ‘โดะทอนโบะริ’ (Dotonbori) และบริเวณใกล้เคียงเช่น ชินไซบะชิ (Shinsaibashi)  อะเมริกะมุระ(Amerikamura) เซ็นนิชิเม โดะกุยะซุจิ (Sennichimae Doguyasuji) และตลาดคุโระมอน อิชิบะ (Kuromon-Ichiba) รวมเรียกกันว่าย่านมินะมิ หรือ นัมบะ (Minami, Namba)

ทุกแห่งที่กล่าวมามีคนเยอะมากมายมหาสาร ตั้งอยู่ติดๆ กัน เดินกันเพลินจนขาลากไม่รู้ตัว ส่วนนักช็อปก็คงจะกระเป๋าฉีกยับเยิน

 

 

คลองโดะทอนโบะริ ที่ขนานไปกับถนนช็อปปิ้ง  ‘โดะทอนโบะริ’ (Dotonbori)

 

 

โคมไฟปลาปักเป้ายักษ์

 

 

หมึกยักษ์เหล่ตามองปักเป้า

 

 

ปูยักษ์ก็มี ตอนกลางคืนคงตามไฟกันสวยงาม

อ่านเวอร์ชั่นที่มีรายละเอียดการท่องเที่ยวและการเดินทางได้ที่ลิงค์ข้างล่างค่ะ

ประกวดความเด่นที่โดะทอนโบะริ ป้ายโฆษณาร้านเกลื่อนถนนทั้งสายใจกลางโอซาก้า

 

 

เขามุงดูอะไรกัน แถวยาวเชียว แถมส่งกลิ่นหอมมากๆ

 

 

ไม่ใช่มุงดูหนุ่มหล่อหรอกนะ เขามุงดู ทะโกะยะกิ (Takoyaki) กันต่างหาก ทะโกะยะกิ ขนมที่สอดไส้หมึกยักษ์ อ้อยหวานเคยลองกินแล้ว ก็โอเคนะ ไม่ถึงกับติดใจ

 

 

ตลาดคุโระมอน อิชิบะ (Kuromon-Ichiba) ซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน ในความคิดของอ้อยหวาน ตลาดนิชิกิ (Nishiki)ของเมืองเกียวโตน่าสนใจกว่า 

 

 

แต่ที่นี่มีอาหารทะเลเยอะกว่า  ร้านคุโระมอน ซันเปะอิ  อย่าหลงเข้าไปเชียว

 

 

ของทุกอย่างในร้าน เย้ายวนชวนน้ำลายไหลมากๆ นี่แค่นอกร้านนะ

อ่านเวอร์ชั่นที่มีรายละเอียดการท่องเที่ยวและการเดินทางได้ที่ลิงค์ข้างล่างค่ะ

โป๊ะแตกที่ร้านคุโระมอน ซันเปะอิ อาหารทะเลสดๆ แบบญี่ปุ่น ใจกลางโอซาก้า

 

 

ถัดไปก็เป็น เซ็นนิชิเม โดะกุยะซุจิ (Sennichimae Doguyasuji) ย่านเครื่องใช้ในครัว น่าเดินมาก มีขายข้าวของน่าใช้  อ้อยหวานปั่นจักรยาน ได้แต่ดูและถ่ายรูปเท่านั้น ไม่รู้ว่าดี..ที่ไม่ต้องเสียสตางค์ หรือ สมน้ำหน้า..ซื้ออะไรไม่ได้เลย

 

 

ชอบถ้วยพวกนี้มาก ลายสวยน่าใช้

 

 

ย่านช็อปปิ้งอยู่ติดๆ กัน เดินดูทั้งวันก็ไม่หมด คนก็เยอะจริงๆ มีหลายร้านค้า ร้านอาหาร และเกมส์อาเขตอยู่หลายร้านที่เปิดกัน 24 ชั่วโมง

 

 

อ้อยหวานไปแถวนั้นแค่ครึ่งวัน แล้วไปปั่นจักรยานเที่ยวริมแม่น้ำอย่างเคย  เงียบสงบ ห่างไกลความวุ่นวาย

 

โปรดติดตามอ้อยหวานเล่าเรื่องญี่ปุ่น ในตอนต่อไป

 

อ่านอ้อยหวานเล่าเรื่องญี่ปุ่น ตอนแรกๆได้ที่นี่่ค่ะ

โปสการ์ดจากญี่ปุ่น

4 อาทิตย์ที่ดินแดนอาทิตย์อุทัย

ดอกซากุระสุดท้ายของปี

ปั่นจักรยานกลางเมืองโตเกียว..เป็นไปได้และสนุกสุดๆ

ธรรมชาติ ศาสนา ศรัทธา รวมกันเป็นความงามที่โดดเด่น

ลืมเธอไม่ลง..คามาคุระ ตอน 1

ลืมเธอไม่ลง..คามาคุระ ตอน 2

ลืมเธอไม่ลง..คามาคุระ ตอน 3

เกียวโต..เมืองหมื่นวัดและศาลเจ้า

เดินชมตลาดนิชิกิ..สุดยอดตลาดของเกียวโต

ชมเมืองเกียวโต..บนจักรยาน

ชมสวนสวย..สวนพฤกษศาสตร์เมืองเกียวโต

ชมสวนสวย..เมืองเกียวโต 2

เผชิญหน้ากับวาซาบิตัวจริง

 

ขอให้เพื่อนๆมีแต่ความสุข

 

ขอบคุณค่ะ

 

อ้อยหวาน

 

 

หยุดเวลาให้ช้าลงที่ทุ่งราบกิบิ

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

 

 

สองล้อจักรยานเล็กๆ ได้พาอ้อยหวานไปชื่นชมญี่ปุ่นอย่างช้าๆ  ถ้าไปเที่ยวแบบอื่น ในเวลาสี่อาทิตย์คงจะไปได้ทั่วประเทศ ยิ่งไปกับทัวร์เผลอๆ ทั่วประเทศภายในอาทิตย์เดียว แต่คิดดูสิว่าเราได้ไปถึงสถานที่แห่งนั้นจริงๆ หรือ เราจดจำอะไรได้บ้าง

สองล้อจักรยานที่หมุนด้วยสองขา ไปอย่างเงียบ ไร้เสียง ไร้กลิ่น ไม่ทำลายมลภาวะ ไม่ทำลายสภาพความเป็นอยู่ดั้งเดิม เงียบสงบเช่นไร ก็ยังคงเงียบสงบอยู่อย่างนั้น หอมอบอวลด้วยกลิ่นดอกไม้เช่นไร ก็ยังคงหอมอบอวลอยู่อย่างนั้น

 

 

สองล้อจักรยานที่หมุนด้วยสองขา ได้พาอ้อยหวานไปหลายที่ หลายแห่ง หลายซอกมุม ไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง แต่เป็นญี่ปุ่นที่แท้จริง ได้เห็นวัดวาอาราม บ้านเรือน ได้เห็นสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน ได้เห็นได้สัมผัสเม็ดทราย ก้อนหิน กรวดดิน ได้หยุดดมกลิ่นหอมของดอกไม้ หรือกลิ่นดินที่ชาวนากำลังพรวนดินอยู่ สองล้อได้พาอ้อยหวานไปในที่ธรรมดาๆ ที่วิเศษสุด

 

 

ทุ่งราบกิบิ (Kibi Plain) ที่เมืองโอะกะยะมะ (Okayama) เป็นสถานที่ที่อาจจะเรียกได้ว่าเป็น ‘เพรชในตม’ อ้อยหวานมองหาที่ไปปั่นจักรยานเที่ยวในเน็ท แล้วไปเจอชื่อทุ่งราบกิบิโดยบังเอิญ ไม่ค่อยจะมีข้อมูลมากนัก แสดงว่าไม่มีใครรู้จัก แสดงว่าต้องมีคนน้อยและเงียบสงบ และแน่นอนเป็นที่ๆ ควรจะตามไปดู

 

 

ก่อนไปอ้อยหวานไม่ได้หวังอะไรมากมาย รู้ว่ามีศาลเจ้ามีวัด  คงเป็นศาลเจ้าและวัดเล็กๆ ไม่มีชื่อเสียง เพราะไม่มีข้อมูลมากนักทั้งในภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่น รู้แต่ว่าเส้นทางจักรยานยาวประมาณ 17 กิโลเมตรเท่านั้นเอง ปั่นจักรยานเที่ยวเพียง 2-3 ชั่วโมง แล้วกลับมาชมในเมืองโอะกะยะมะ แต่ความเป็นจริงแล้วศาลเจ้าและวัดของทุ่งราบกิบิไม่เล็กเลย และสวยงดงามเกินความคาดหมาย

 

 

ในตอนนั้นอ้อยหวานเริ่มเกิดอาการเบื่อไปชมศาลเจ้าและวัด เริ่มจะเห็นว่าเหมือนเหมือนกันหมด แต่เมื่อไปถึงศาลเจ้ากิบิซึตฮิโกะ ก็ต้องร้อง ว้าว..สวยจัง

 

 

ศาลเจ้ากิบิซึตฮิโกะ (Kibitsuhiko) แห่งทุ่งราบกิบิ เป็นศาลเจ้าที่สร้างขึ้นในปี 1697 มีบริเวณกว้างขวางใหญ่โต และมีอาคารสวยๆ หลายหลัง มีคนน้อยเงียบสงบ และไม่ต้องเสียเงินค่าเข้าชม

 

 

แผ่นไม้เอะมะ (Ema) เป็นแผ่นไม้สำหรับเขียนคำอธิษฐาน และพวงเซ็นบะซุรุ (Senbazuru) นกกระเรียนพันตัว ในตำนานญี่ปุ่นกล่าวไว้ว่า ผู้ที่พับนกกระเรียนได้พันตัวจะมีอายุยืน ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ

อ่านเวอร์ชั่นที่มีรายละเอียดการท่องเที่ยวและการเดินทางได้ที่ลิงค์ข้างล่างค่ะ

ศาลเจ้ากิบิซึตฮิโกะแห่งทุ่งราบกิบิ ศาลเจ้าที่งดงามของโอะกะยะมะ

 

 

อ้อยหวานปั่นไปตามเส้นทางจักรยาน ผ่านบ้านเรือน นาข้าวที่เพิ่งจะเริ่มพรวนดิน สวนหลังบ้านที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี มีสองตายายช่วยกันทำงาน

 

 

แล้วมาถึงตรงนี้ ก็ได้หยุดยาว ไม่มีผู้คนอื่นใด มีแต่อ้อยหวานกับผึ้งพันตัว กลิ่นหอมของพุ่มอะเซลเลียขจรขจาย

 

 

ปั่นไปสุดทางก็เป็นกำแพงหินและบ้านเก่าๆ ให้ความรู้สึกเหมือนย้อนเวลา

 

 

ไม่ไกลกันมีสถานที่แห่งนี้ ไม่มีในแผนที่ ไม่มีภาษาอังกฤษ อ้อยหวานไม่แน่ใจว่าเป็นวัดหรือศาลเจ้า และไม่เปิดให้เข้าชม ได้แต่ยืนดูข้างนอก

 

 

แต่ก็ยังสวย วัดและศาลเจ้าทุกแห่งจะต้องมี เทะมิซุ (temizu) อ่างน้ำที่ใช้สำหรับชำระล้างก่อนเข้าวัดและศาลเจ้า วิธีทำก็คือ ใชกระบอกน้ำตักน้ำในอ่างล้างมือข้างซ้าย แล้วล้างมือข้างขวา ต่อจากนั้นให้เทน้ำบนฝ่ามือ แล้วป้วนปาก เป็นอันเสร็จพิธี

อ้อยหวานชอบอ่างน้ำหินนี้มาก เก็บรูปมากเป็นร้อย ถ้ามีโอกาสจะเอามาให้ชม

 

 

ปั่นมาได้อีกหน่อยก็มาเจอบ้านหลังหนึ่ง ปลูกผักกันข้างถนนเลย แล้วยังปลูกได้งาม

 

 

เส้นทางคดเคี้ยวไปบนถนนแคบๆ และมีรถน้อยคัน ผ่านบ้านคน เทือกสวนไร่นา

 

 

แล้วก็มาถึงศาลเจ้าอีกแห่งที่ต้องร้อง ว้าวววว..สวยจัง ศาลเจ้ากิบิซึต (Kibitsu) สร้างในปี 1425 ทีมีทางเดินลงเนินเขาที่มีความยาว 398 เมตรและมีหลังคาคลุมตลอด ที่สวยมาก

อ่านเวอร์ชั่นที่มีรายละเอียดการท่องเที่ยวและการเดินทางได้ที่ลิงค์ข้างล่างค่ะ

ศาลเจ้ากิบิซึตที่โอะกะยะมะ เพรชน้ำหนึ่งแห่งทุ่งราบกิบิ

 

 

ทางเดินลงเนินเขา

 

 

วันนั้นมีการแข่งขันคิวโดะ (Kyudo) ของเด็กนักเรียนโรงเรียนต่างๆ คิวโดะเป็นศิลปยิงธนูแบบโบราณของญี่ปุ่น

 

 

อ้อยหวานไปขอถ่ายรูปสาวๆ เธอเลยเรียงแถวเอคท่าให้ถ่ายรูปได้สวยมาก

 

 

หน้าศาลเจ้ากิบิซึตมีร้านขายขนมและของที่ระลึก อ้อยหวานก็ไม่พลาดโอกาสที่จะลิ้มลองไอศครีมรสชาติแปลกๆ มีรสชาเขียว งาดำ ถั่วอัลมอนด์ และลูกพีชญี่ปุ่น

 

 

เสร็จอ้อยหวานไปสองกรวย รสงาดำ มันอร่อย ได้กลิ่นงาหอมเข้มข้น ให้ดาวไปสิบดวงเลย

 

 

ไอศครีมรสลูกพีชญี่ปุ่นตามมาติดๆ อร่อยหอมลูกพีชจริงๆ อยากชิมรสอื่นอีก แต่คนชิมไม่มีที่ว่างในท้องเสียแล้ว เติมพลังแล้วไปต่อเลย แต่ต้องเป็นบล็อกหน้าค่ะ

 

โปรดติดตามอ้อยหวานเล่าเรื่องปั่นจักรยานเที่ยวที่ทุ่งราบกิบิ ในตอนต่อไป

 

อ่านอ้อยหวานเล่าเรื่องญี่ปุ่น ตอนแรกๆ ได้ที่นี่่ค่ะ

โปสการ์ดจากญี่ปุ่น

4 อาทิตย์ที่ดินแดนอาทิตย์อุทัย

ดอกซากุระสุดท้ายของปี

ปั่นจักรยานกลางเมืองโตเกียว..เป็นไปได้และสนุกสุดๆ

ธรรมชาติ ศาสนา ศรัทธา รวมกันเป็นความงามที่โดดเด่น

ลืมเธอไม่ลง..คามาคุระ ตอน 1

ลืมเธอไม่ลง..คามาคุระ ตอน 2

ลืมเธอไม่ลง..คามาคุระ ตอน 3

เกียวโต..เมืองหมื่นวัดและศาลเจ้า

เดินชมตลาดนิชิกิ..สุดยอดตลาดของเกียวโต

ชมเมืองเกียวโต..บนจักรยาน

ชมสวนสวย..สวนพฤกษศาสตร์เมืองเกียวโต

ชมสวนสวย..เมืองเกียวโต 2

เผชิญหน้ากับวาซาบิตัวจริง

โอ้ละหนอ..โอซาก้า

 

ขอให้เพื่อนๆ มีแต่ความสุข

 

ขอบคุณค่ะ

 

อ้อยหวาน

 

แด่แม่..ด้วยดวงใจ

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

 

 

สุขสันต์..วันแม่

 

 

เก็บดอกไม้ ในสวน นำมาร้อย           แล้วค่อยค่อย บรรจงแต้ม แต่งสีสรร

 

 

เติมความรัก ความคิดถึง ใส่เข้ากัน    เป็นของขวัญ ฝากให้แม่ จากแดนไกล

 

 

ส่งไอริส ช่องาม หลากสีสัน             รวมเข้ากัน ชวนพิศ ชวนหลงไหล

 

 

 กลีบบางอ่อน นุ่มนวล ลมุนลมัย        ดุจสายใจ แม่ลูก ที่ผูกพัน

 

 

 สีชมพู คือคำ บอกว่า‘รัก’               สีเหลืองจัก แทนคำว่า ‘คิดถึง’

 

 

ม่วงอมฟ้า บอกว่า‘ใจคำนึง’            ฟ้าใสซึ้ง แทนคำ ‘สุดประมาณ’

 

 

อธิษฐาน ขอให้ พระรักษา              ทุกเวลา นาที ไม่มีหมอง

 

 

 ขอเทวา ให้ช่วยกันคุ้มครอง           อย่าให้ผองทุกข์ล่วงล้ำ มากร้ำกราย

 

 

พนมมือ แล้วก้ม ตัวลงกราบ           ให้แม่ทราบ ว่าลูกหวง ห่วงเสมอ

 

 

จนกว่าจะ ถึงวันได้ กลับมาเจอ        คงต้องเพ้อ ส่งดอกไม้ มาให้แทน

 

 

รักแม่นะ

จากลูกคนอยู่ไกล

 

 ****************************************************************

ข้อมูลของดอกไอริส

 

 

ชื่อไอริส (Iris) มาจากภาษากรีกโบราณ เป็นชื่อของเทพธิดาแห่งสายรุ้ง เทพธิดาไอริส

 

 

ไอริส (Iris) เป็นพืชหัวใต้ดิน มีทั้งหมด 300 สายพันธ์ และอาจจะมีลูกผสมอีกมากมาย

 

 

ไอริส (Iris) เป็นพืชยอดนิยมสำหรับนักผสมพันธ์

 

 

 

 ไอริสสีเหลือง นิยมปลูกริมน้ำ เพราะรากของไอริสสีเหลืองสามารถดูดซึมปุ๋ยและสารอาหารต่างๆ ที่หลุดรอดออกจากเทือกสวนไร่นาลงสู่แม่น้ำลำคลอง ซึ่งถือว่าเป็นมลพิษชนิดหนึ่ง

 

 

หัวไอริสมีพิษ หากรับประทานจะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน และท้องเสีย หรือการระคายเคืองผิว

ขอบคุณ ข้อมูลจาก  WIKIPEDIA

 

 

สุขสันต์..วันแม่

 

ขอให้มีแต่ความสุข

อ้อยหวาน

หยุดเวลาให้ช้าลง..บนหลังอาน

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

 

ในการเดินทางท่องเที่ยว บ่อยครั้งที่อ้อยหวานรู้สึกว่าสิ่งต่างๆ ในระหว่างทางสวยงามน่าสนใจเช่นเดียวกลับจุดหมายปลายทาง และบ่อยครั้งก็น่าสนใจกว่าจุดหมายปลายทางเสียอีก ในเวลานั้นรู้สึกว่าโชคดีจังที่อยู่บนจักรยาน ได้หยุดชื่นชมสิ่งต่างๆ เหล่านั้น หากนั่งมาบนรถก็คงจะซูมผ่านมันไปอย่างรวดเร็ว ไม่มีโอกาสแม้แต่จะสังเกตุเห็นว่าได้พลาดอะไรไปมากมาย

 

วันนี้เราไปปั่นจักรยานเที่ยวทุ่งราบกิบิกันต่อ หลังจากเติมพลังด้วยไอศครีมรสลูกพีชและรสงาดำแล้ว อ้อยหวานก็ปั่นไปตามเครื่องหมายลูกศรชี้บอกทาง ซึ่งมีติดอยู่อย่างละเอียดตั้งแต่เริ่มต้น โดยไม่ได้ดูแผนที่ภาษาญี่ปุ่นที่ได้มาจากสถานีรถไฟเลย ทำให้ได้บทเรียนอีกแล้ว อ้อยหวานพลาดอะไร? ปั่นตามกันมาเลยค่ะ

 

อ้อยหวานปั่นจักรยานไปตามเครื่องหมายลูกศรชี้บอกทาง ดูดิบอกละเอียดเลย ใครเล่าจะต้องดูแผนที่

 

มาเจอบ้านหลังนี้สวยน่าอยู่เชียว

 

สวนหน้าบ้านก็มีดอกไม้เบ่งบานเต็มไปหมด ส่วนหลังบ้านก็มีสวนในมุ้งปลูกอะไรหนอ.. ต้องหยุดดูสักหน่อย

 

ทายสิว่าต้นอะไร? เก็บรูปผ่านมุ้งครอบที่มีตาถี่มาก รูปเลยไม่ค่อยชัด ไม่มีใครอยู่แถวนั้น ไม่อย่างนั้นจะขอเข้าไปดูข้างใน

เป็นสวนต้นฟิค ที่ใช้วิธีปลูกแบบโบราณของยุโรบที่เรียกว่า ‘เอสพาลเออร์’  (espalier) คือการเทรน ดัด ตัดแต่งต้นและกิ่งไม้ ซึ่งเป็นวิธีที่นิยมใช้กับต้นไม้ให้ผล เช่น แอปเปิ้ล แพร์  ‘เอสพาลเออร์’  (espalier) มีหลายแบบ

‘เอสพาลเออร์’ (espalier) เริ่มทำกันในสมัยโรมัน มีการปลูกต้นไม้ให้ผลขนานราบไปกับกำแพง หรือพนังบ้าน จนกลายเป็นศิลปแบบหนึ่ง

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ลิงค์ข้างล่างค่ะ

http://en.wikipedia.org/wiki/Espalier

ดูรูปต้นฟิค ‘เอสพาลเออร์’ ได้ที่ลิงค์ข้างล่างค่ะ

http://figs4funforum.websitetoolbox.com/post?id=5407398&trail=

อ้อยหวานคิดว่าที่นี่ใช้วิธีการ  ‘เอสพาลเออร์’ เพื่อจะช่วยประหยัดเนื้อที่ และเก็บผลได้ง่าย

 

มาถึงตรงนี้ป้ายจักรยานที่เคยมีลูกศรชี้บอกทางละเอียดลออ ก็มีแต่รูปจักรยาน แล้วทางแยกก็มีอยู่มากมาย แต่ละแยกก็มีป้ายจักรยานติดอยู่ อ้อยหวานก็เลยงงและมึนตึบเลย มาดูแผนที่ก็ไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ตรงจุดไหนในแผนที่ เพราะปั่นตามลูกศรชี้บอกทางลูกเดียว

เลยทำให้ได้บทเรียนว่า.. อย่านอนใจเกินไป ตามเขาลูกเดียว พอโดนเขาทิ้งแล้วจะงง  หลงทาง

อ้อยหวานปั่นวกไปวนมาอยู่หลายรอบ ในใจก็คิดว่า แย่แล้วสิตู จะไปทางไหนดี

 

แต่ที่นี่คือญี่ปุ่น ซึ่งอ้อยหวานได้กล่าวไว้ตั้งแต่เริ่มแรกแล้วว่า

‘ไม่มีที่ไหนในโลกที่ผู้คนสุภาพ เป็นมิตร ให้ความช่วยเหลือแก่คนต่างถิ่นเท่าคนญี่ปุ่น หลายครั้งที่อ้อยหวานหลงทาง (บ่อยมากวันละ 10 กว่าครั้ง) ต้องหยุดถามทางไปตลอด เริ่มต้นตั้งแต่สถานีรถไฟเลยทีเดียว ทุกครั้งได้รับความช่วยเหลือเป็นอย่างดี บางครั้งถึงกับจูงมือพาไปถึงที่เลย ซึ้งใจคนญี่ปุ่นจริงๆ’

อัศวินม้า (จักรยาน) ขาว ทั้งกลุ่มที่ช่วยนำทางจนไปถึงวัดอีกแห่งหนึ่ง

 

วัดบิทชุ-โกะโกะบุนจิ (Bitchu-Kokubunji) วัดดั้งเดิมสร้างขึ้นในปี 741 แต่ถูกทำลายลงในระหว่างสงครามกลางเมืองในศตวรรษที่ 14 และได้สร้างขึ้นใหม่อีกครั้งในปี 1821

 

พระพุทธรูปของวัดบิทชุ-โกะโกะบุนจิ

อ่านเวอร์ชั่นที่มีรายละเอียดการท่องเที่ยวและการเดินทางได้ที่ลิงค์ข้างล่างค่ะ

ปั่นจักรยานเที่ยวทุ่งราบกิบิ ชมวัด ศาลเจ้า และนาข้าวในโอะกะยะมะ

 

อีกวันหนึ่งอ้อยหวานเอาจักรยานขึ้นรถไฟ มุ่งหน้าไปยังเมืองนารา เมืองมรดกโลก

นารา อยู่ไม่ไกลจากโอซาก้า นั่งรถไฟไปประมาณ 30-50 นาที นาราเคยเป็นเมืองหลวงเก่าแก่ของญี่ปุ่น เป็นเมืองเล็กๆที่เพ็คเต็มไปด้วยวัดวา ศาลเจ้า และแน่นอนคือ นักท่องเที่ยว

เจดีย์ห้าชั้น วัดโคะฟุกุจิ (Kōfuku-ji) วัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่เมืองนาราเป็นเมืองหลวง สัญลักษณ์ของเมืองนารา เจดีย์ กวาง และนักท่องเที่ยว

 

อาคารแปดเหลี่ยม อาคารเก่าแก่ดั้งเดิมที่งดงามของวัดโคะฟุกุจิ

 

จากวัดโคะฟุกุจิ  ก็จะมาถึงนาราปารค์ (Nara Park) เป็นสวนสาธารณะที่กว้างใหญ่ มีต้นไม้ร่มรื่น มีวัดและศาลเจ้าสำคัญๆ อยู่ในบริเวณสวน และมีกวางอาศัยอยู่มากมาย ป้ายเตือนให้ระวังกวาง ถึงแม้ว่ากวางพวกนี้จะดูเชื่อง และคุ้นเคยกับคน แต่กวางที่นี่ก็เป็นสัตว์ป่า ไม่ใช่สัตว์เลี้ยง

 

ประตูของวัดโทะไดจิ (Todaiji) ประตูนันได-มอน (Nandai-mon) เป็นสิ่งเดียวที่เป็นของดั้งเดิมที่หลงเหลืออยู่ สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 วัดโทะไดจิเป็นวัดสำคัญของนารา และเนืองแน่นไปด้วยผู้คน

 

อาคารไม้วัดโทะไดจิ เป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อโต หลายปีก่อนเคยได้ชื่อว่าเป็นอาคารไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก หลังเก่าดั้งเดิมถูกไฟไม้เสียหาย หลังนี้สร้างขึ้นใหม่ในปี 1709 และเล็กกว่าหลังเก่าเกือบ 30%

 

หลวงพ่อโตวัดโทะไดจิ สูง 14.98 เมตร มีน้ำหนัก 500 ตัน

อ่านเวอร์ชั่นที่มีรายละเอียดการท่องเที่ยวและการเดินทางได้ที่ลิงค์ข้างล่างค่ะ

เพลิดเพลินเจริญใจ ชมนารากับจักรยาน ชมวัด ศาลเจ้า ทักทายกวางทั่วนาราปาร์ค

 

ทางเดินไปสู่ศาลเจ้าคะสึกะ ไทฉะ (Kasuga Taisha) ศาลเจ้าสุดโปรดของอ้อยหวาน ซึ่งอยู่อีกมุมหนึ่งในบริเวณอันกว้างใหญ่ของนาราปารค์  ถ้าไม่ปั่นจักรยานก็ต้องเดินกันขาลากเลยละ เพราะกว้างมาก

 

ประตูสีส้มสดใสของศาลเจ้า

 

ภายในบริเวณของศาลเจ้ามีโคมไฟหิน 2,000 อัน ยืนเรียงราย ต้อนรับผู้มาเยือน

 

ในเทศกาลโคมไฟ จะมีการจุดไฟกันเจิดจ้า คงจะงดงามมาก

อ่านเวอร์ชั่นที่มีรายละเอียดการท่องเที่ยวและการเดินทางได้ที่ลิงค์ข้างล่างค่ะ

หยุดเวลาไว้ที่นารา ไม่ว่าวันเวลาจะเลื่อนไหลไปนานเท่าใด โคมไฟหินของนารา ดูเหมือนกับหยุดเวลาไว้ ที่หลายร้อยปีก่อน

 

แวะทักทายกับโคมไฟหินเก่าแก่ที่นารา ยืนเรียงราย ต้อนรับผู้มาเยือนที่ศาลเจ้าคะสึกะ ไทฉะ

 

นอกจากโคมไฟหิน 2,000 อันแล้ว ศาลเจ้าคะสึกะ ไทฉะ ยังมีโคมไฟแขวนอีก 1,000 กว่าอัน

 

แขวนเรียงรายไปทั่วชายคาศาลเจ้า

 

แต่ละอันมีลายละเอียดอ่อนสวยงดงาม

 

จริงๆ แล้วนาราเป็นเมืองที่สวยงามมาก แต่มีผู้คนมากเกินไป ทำให้อ้อยหวานไม่สามารถชื่นชมนาราให้สมกับเป็นเมืองมรดกโลก  อ้อยหวานปั่นจักรยานชมเมืองชมกวางไปเรื่อยๆ แล้วเริ่มมองหาหนุ่มคนนี้ (คงจะคิดถึงบ้านแล้วสิเรา!!!) แต่นึกขึ้นมาได้ว่าหนุ่มคนนี้ได้รออยู่ที่บ้าน ถึงแม้จะหนุ่มน้อยไปสักยี่สิบกว่าปี แต่ก็ยังหล่อเหลาอยู่เหมือนเดิม

 

โปรดติดตามอ้อยหวานเล่าเรื่องเที่ยวญี่ปุ่น ในตอนต่อไป

 

อ่านอ้อยหวานเล่าเรื่องญี่ปุ่น ตอนแรกๆ ได้ที่นี่่ค่ะ

 

โปสการ์ดจากญี่ปุ่น

4 อาทิตย์ที่ดินแดนอาทิตย์อุทัย

ดอกซากุระสุดท้ายของปี

ปั่นจักรยานกลางเมืองโตเกียว..เป็นไปได้และสนุกสุดๆ

ธรรมชาติ ศาสนา ศรัทธา รวมกันเป็นความงามที่โดดเด่น

ลืมเธอไม่ลง..คามาคุระ ตอน 1

ลืมเธอไม่ลง..คามาคุระ ตอน 2

ลืมเธอไม่ลง..คามาคุระ ตอน 3

เกียวโต..เมืองหมื่นวัดและศาลเจ้า

เดินชมตลาดนิชิกิ..สุดยอดตลาดของเกียวโต

ชมเมืองเกียวโต..บนจักรยาน

ชมสวนสวย..สวนพฤกษศาสตร์เมืองเกียวโต

ชมสวนสวย..เมืองเกียวโต 2

เผชิญหน้ากับวาซาบิตัวจริง

โอ้ละหนอ..โอซาก้า

หยุดเวลาให้ช้าลงที่ทุ่งราบกิบิ

 

ขอให้เพื่อนๆ มีแต่ความสุข

 

ขอบคุณค่ะ

 

อ้อยหวาน

 

 


มหัศจรรย์..ฟูจิและดอกชิบะซะกุระ

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

วันนี้อ้อยหวานมาพาไปชมภูเขาฟูจิ ภูเขาที่โด่งดังและสวยที่สุดของญี่ปุ่น จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของประเทศ สูง 3776 เมตร ภูเขาฟูจิเป็นภูเขาที่สูงที่สุดของประเทศญี่ปุ่น และเป็นภูเขาไฟที่ยังระอุอยู่ แต่จัดว่าอยู่ระดับต่ำ ครั้งล่าสุดที่ปะทุคือในปี 1708

 

สถานที่ที่จะไปชมภูเขาฟูจิมีหลายแห่ง อ้อยหวานเลือกไปที่ชมที่ทะเลสาปคะวะกุชิโกะ (Kawaguchiko) หนึ่งในทะเลสาปทั้งห้าที่รายรอบภูเขาฟูจิ ด้วยเหตุผลสองประการคือ เดินทางสะดวกที่สุดจากโตเกียว ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงถึง 2 ชั่วโมงครึ่งโดยรถไฟ อีกประการหนึ่งก็คือ อยากไปชม งานเทศกาลดอกชิบะซะกุระ หรือดอกฟล็อก (phlox) ด้วย แล้วไม่ผิดหวังเลย ได้ชมทั้งภูเขาฟูจิและดอกฟล็อกในที่เดียวกัน

 

ภูเขาฟูจิถ่ายจากบนรถไฟสายฟูจิกิวโกะ (Fujikyuko Line) เป็นรถไฟสายท้องถิ่นของพื้นที่นี้  อ้อยหวานโชคดีมากที่วันนี้อากาศดี ท้องฟ้าสดใสและมีเมฆน้อย ฟูจิเลยไม่ขี้อาย เผยโฉมให้เห็นกันชัดๆ

 

กลุ่มหมวกแดงเพื่อนร่วมทางบนรถไฟ เด็กๆไปทัศนศึกษากันอย่างนี้ คงจะสนุกกันมากมาย ทุกคนก็เรียบร้อยมาก ไม่มีการวิ่งเล่นไล่จับ หรือทะเลาะกันเลย

 

ลงจากรถไฟแล้วก็ต้องขึ้นรถบัสอีก 30 นาที เพื่อไปที่งานเทศกาลดอกชิบะซะกุระ หรือดอก phlox เป็นสวนดอกฟล็อกที่อยู่กลางหุบเขา

 

ดอกไม้รายล้อมล้อมรอบสระน้ำ มองเห็นภูเขาสลับซับซ้อน เป็นภาพที่สวยงามมาก

 

 งานเทศกาลดอกชิบะซะกุระ หรือดอกฟล็อกมีขึ้นทุกปีในช่วงกลางเดือนเมษายน ไปจนถึงปลายเดือนพฤษภาคม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของแต่ละปี ในปี 2014 นี้ งานเทศกาลมีขึ้นตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน - 1 มิถุนายน หลังจากนั้นสวนแห่งนี้ก็จะปิดไปจนถึงฤดูดอกชิบะซะกุระ หรือดอกฟล็อกอีกครั้งในปีหน้า

 

ตอนที่อ้อยหวานแวะไปคือ กลางเดือนพฤษภาคม ดอกฟล็อกกำลังบานกันอย่างเต็มที่่ และไม่ต้องพูดถึงว่าคนมากมายมหาสารขนาดไหน

 

ดอกฟล็อกมีชื่อเรียกหลายชื่อเช่น creeping phlox, moss phlox, moss pink หรือ mountain phlox มีถิ่นกำเนิดในภาคตะวันออกและภาคกลางของสหรัฐอเมริกา

 

ดอกฟล็อกมีหลายเฉดสี ตั้งแต่สีม่วง สีฟ้า สีขาว และสีชมพู

ขอบคุณ ข้อมูลจาก  WIKIPEDIA

 

ดูกันชัดๆ สีฟ้า

 

 สีม่วง

 

สีขาวชมพู

 

สีชมพูสดจริงๆ

 

พรมดอกฟล็อก

 

แข่งกันบาน สีสดใสเสียจนฟ้าหมอง สีจืดไปเลย

 

ที่งานจะมีซุ้มขายขนม ของทานเล่น และของฝากหลายอย่าง ขายดีมากๆ

 

 แน่นอนต้องมีไอศครีม และชัวส์ๆ อ้อยหวานก็ไม่พลาด ไอศครีมดอกซากุระ หอมและอร่อย

 

ภูเขาฟูจิและภูเขาฟูจิดอกฟล็อก ฟูจิจริงมาเจอกับฟูจิปลอมที่ใส่ชุดดอกไม้สีหวานสวย ฟูจิจริงเลยจืดไปหน่อย เอาเมฆปิดหน้าดีกว่า

 

 ดอกฟล็อกสีขาวก็มี

 

สวรค์สีชมพู

 

อ่านเวอร์ชั่นที่มีรายละเอียดการท่องเที่ยวและการเดินทางได้ที่ลิงค์ข้างล่างค่ะ

หนึ่งวันกับภูเขาฟูจิ ที่ฟูจิโกะโคะ เที่ยวไปกลับวันเดียวจากโตเกียว

ชมวิวงามๆ หลายมุมของภูเขาฟูจิ จากรถไฟสายฟูจิกิวโกะ ในวันที่ฟ้าใส

โลกนี้สีชมพูที่ฟูจิโกะโคะ งานฟูจิ ชิบะซะกุระ มัตซึริ

 

โปรดติดตามอ้อยหวานเล่าเรื่องเที่ยวญี่ปุ่น ในตอนต่อไป

 

อ่านอ้อยหวานเล่าเรื่องญี่ปุ่น ตอนแรกๆ ได้ที่นี่่ค่ะ

โปสการ์ดจากญี่ปุ่น

4 อาทิตย์ที่ดินแดนอาทิตย์อุทัย

ดอกซากุระสุดท้ายของปี

ปั่นจักรยานกลางเมืองโตเกียว..เป็นไปได้และสนุกสุดๆ

ธรรมชาติ ศาสนา ศรัทธา รวมกันเป็นความงามที่โดดเด่น

ลืมเธอไม่ลง..คามาคุระ ตอน 1

ลืมเธอไม่ลง..คามาคุระ ตอน 2

ลืมเธอไม่ลง..คามาคุระ ตอน 3

เกียวโต..เมืองหมื่นวัดและศาลเจ้า

เดินชมตลาดนิชิกิ..สุดยอดตลาดของเกียวโต

ชมเมืองเกียวโต..บนจักรยาน

ชมสวนสวย..สวนพฤกษศาสตร์เมืองเกียวโต

ชมสวนสวย..เมืองเกียวโต 2

เผชิญหน้ากับวาซาบิตัวจริง

โอ้ละหนอ..โอซาก้า

หยุดเวลาให้ช้าลงที่ทุ่งราบกิบิ

หยุดเวลาให้ช้าลง..บนหลังอาน

 

ขอให้เพื่อนๆ มีแต่ความสุข

ขอบคุณค่ะ

อ้อยหวาน

 

 

 

เก็บไว้ในความทรงจำ

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

 

ทุกๆสถานที่ทุกๆแห่งมีเสน่ห์ในตัวของมันเอง

ขึ้นอยู่กับเราที่จะไปค้นพบค้นหา

สำหรับอ้อยหวานขอไปเก็บเกี่ยวกับจักรยาน ช้าๆ อ้อยอิ่ง และลึกซึ้ง

บางครั้งแม้แต่ถนนหลังบ้านก็มีสิ่งให้ค้นหา

 

 ญี่ปุ่นมีเสน่ห์ที่ทำให้อ้อยหวานประทับใจไม่ลืมเลือนเช่นเดียวกัน

 

และแล้วอ้อยหวานพาเที่ยวญี่ปุ่นก็มาถึงบล็อกสุดท้าย

อ้อยหวานขอขอบคุณ JapanTravelและ คุณผู้ชายที่บ้าน ที่ช่วยทำให้ "ความฝัน"เป็นความจริง

ขอขอบคุณทุกๆ ท่านที่ติดตามอ่านและให้กำลังใจกัน

ขอบคุณน้องโสทรที่ให้โอกาสและเนื้อที่ ให้อ้อยหวานได้ถ่ายทอดความฝันไปสู่ผู้อื่น

การได้ไปเยือนญี่ปุ่นของอ้อยหวานคราวนี้ เป็นเหมือนนอนหลับฝันที่ตื่นขึ้นมาแล้วเป็นความจริง เหมือนเล่นสอยดาวในงานกาชาด แล้วไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้รางวัล แต่ในความเป็นจริง มันไม่ใช่ได้มาง่ายๆ เช่นนั้น อ้อยหวานทุ่มเทกำลังกายและใจทั้งเขียนและแปลบทความ แต่ก็คิดอยู่เสมอว่า ถ้าไม่ได้ผลสำเร็จก็ไม่เสียใจ แต่จะเสียใจถ้าไม่ ลองดู ลองทำและต้องเป็น ลองดู ลองทำที่สุดกำลังด้วย

 

 

ขอเอาเพลง ‘ซุบะรุ’ ..ดาวลูกไก่ มาลงให้ฟังกันขณะอ่านบล็อก และเอาเนื้อเพลงซุบะรุมาลงใต้รูปแทนคำบรรยาย คุณ  Norio Shimizu แห่ง http://lyricstranslate.com/en/%E6%98%B4subaru-pleiades.htmlได้แปลจากภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาอังกฤษ และอ้อยหวานก็เอามาแปลเป็นภาษาไทยอีกทีหนึ่ง ขอบคุณมากค่ะ

ในปี 1980 เพลง ‘ซุบะรุ’ เป็นเพลงที่โด่งดังมากทั้งในญี่ปุ่นและเมืองไทย  แต่งและขับร้องโดย Shinji Tanimura ในตอนนั้นอ้อยหวานเป็นนิสิตในมหาวิทยาลัย เป็นเพลงที่เก็บไว้ในใจตลอดมา จะฮัมเพลง ‘ซุบะรุ’ ในใจทุกครั้งที่ได้แหนหน้ามองหมู่ดาราบนฟ้า และทุกครั้งที่ได้ใฝ่ฝัน ไม่ได้ขอดาวให้ฝันเป็นจริง แต่ขอพลังและกำลังใจจากดาว ขอให้ตัวเองมุ่งมั่นทำฝันให้เป็นจริง

ลองฟังดูเถิด..ลองฟังดู แม้จะเป็นภาษาญี่ปุ่น แต่มันเหมือนมีพลังพลักดันให้เรามุ่งมั่น ก้าวเดินขึ้นภูเขาสูงตรงหน้า แม้ในวันที่อ่อนล้าหมดแรงก็ยังเหมือนเป็นแรงหนุนลูบหลัง บอกว่า ‘เหนื่อยนักก็พักสักหน่อย..พรุ่งนี้มาเดินต่อ’

 

ขอบคุณ youtube และ คุณ linglingrock

และขอบคุณ คุณ Shinji Tanimura สำหรับเพลงที่วิเศษสุด

 

 

อีกเวอร์ชั่นหนึ่งที่ใหม่กว่า (แต่คนร้องแก่กว่าเดิม) คุณ Shinji Tanimura แสดงสดที่งาน World Expo 2010 เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน

ขอบคุณ youtube และ คุณ RationalSaneThinker

และขอบคุณ คุณ Shinji Tanimura สำหรับเพลงที่วิเศษสุด

 

ภูเขาทะกะโอะ (Mt. Takao)

 

เพลง ‘ซุบะรุ’ ....

 

ฉันปิดตาลง แต่รู้สึกเศร้าใจในความมืด

จึงเปิดตาขึ้นมาอีกครั้ง

 

เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น (Japanese Alps) เมืองอะซุมิโนะ (Azumino) นากาโนะ (Nagano)

 

ภาพที่ฉันเห็น

คือถนนเปล่าเปลี่ยว มุ่งหน้าไปท่ามกลางความวิเวก

 

 

Minato Mirai 21 โยโกฮามา

 

โอ้กลุ่มดาวลูกไก่.. ดวงดาวแห่งโชคชะตา ฟ้าลิขิตมาให้แยก ห่างกัน

ส่องแสงระหยิบระยับ ทักทายฉัน ในความเงียบ

 

 

ศาลเจ้าฮิกะวะ โอะมิยะ

 

ฉันจะก้าวเท้าออกไปข้างหน้า

แม้ว่าใบหน้าจะซีดขาว

 

ป่าไผ่ที่อะระชิยะมะ เกียวโต

 

แต่จะก้าวไป ให้ถึงจุดหมาย

ลาก่อน..ซุบะรุ..ลาก่อนดาวลูกไก่

 

 

กระเช้าไฟฟ้าขึ้นไปชมสวน Kobe Nunobiki Herb Gardens เมืองโกเบ

 

ในทุกๆ ลมหายใจ

ฉันสูดสายลมหนาวผ่านเข้าไปในอก

 

 สวนของวัดนาริตะซาน ชินโชะจิ  นาริตะ

 

แต่หัวใจของฉันนั้นอบอุ่น

และมุ่งมั่น..ที่จะก้าวเดินไปตามฝัน

 

 

ศาลเจ้าเมจิ จินกุ โตเกียว

 

โอ้..เหล่าดวงดาวนิรนาม

ช่างมีชิวิตที่สุกใสและงดงาม

 

ศาลเจ้ากิบิซึตฮิโกะแห่งทุ่งราบกิบิ

 

ดุจเดียวกับดาว..ฉันจะก้าวไปข้างหน้า

เดินตามเสียงร่ำร้องของหัวใจ

 

 วัดนาริตะซาน ชินโชะจิ  นาริตะ

 

ดุจเดียวกับดาว..ฉันจะก้าวไปข้างหน้า

ลาก่อน..ซุบะรุ..ลาก่อนดาวลูกไก่

 

เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น (Japanese Alps) เมืองอะซุมิโนะ (Azumino) นากาโนะ (Nagano)

 

คงจะมีสักวัน ที่ใครสักคนหนึ่ง ก้าวตามมาบนถนนสายนี้

ถนนสายดวงดาว และความใฝ่ฝัน

เนื้อเพลงซุบะรุ ขอบคุณ คุณ Shinji Tanimura

 

 

อ้อยหวานยังคงลงบทความในเว็ป  JapanTravel เป็นทั้งผลงานที่เขียนเอง และผลงานแปลบทความงานเขียนของผู้อื่น ติดตามอ่านได้ที่นี่

http://th.japantravel.com/author/suwannee.payne/articles

และในเร็วๆ นี้ เว็ป JapanTravelก็จะทำเว็ปอีกเว็ปหนึ่งมีชื่อว่า Thailand Travel?? (อ้อยหวานไม่แน่ใจว่าจะยังคงใช้ชื่อนี้หรือไม่) เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวไทย และแน่นอนต้องมีงานเขียนของอ้อยหวานรวมอยู่ในเว็ป อย่าลืมติดตามกันนะคะ

อ้อยหวานยังมีภาพถ่ายจากญี่ปุ่นอีกมากมาย คงจะเอามาให้ชมในตอนหลัง ช่วงนี้ขอพักเรื่องญี่ปุ่นไว้เพียงแค่นี้

 

 

 

อ่านอ้อยหวานเล่าเรื่องญี่ปุ่น ตอนแรกๆ ได้ที่นี่่ค่ะ

โปสการ์ดจากญี่ปุ่น

4 อาทิตย์ที่ดินแดนอาทิตย์อุทัย

ดอกซากุระสุดท้ายของปี

ปั่นจักรยานกลางเมืองโตเกียว..เป็นไปได้และสนุกสุดๆ

ธรรมชาติ ศาสนา ศรัทธา รวมกันเป็นความงามที่โดดเด่น

ลืมเธอไม่ลง..คามาคุระ ตอน 1

ลืมเธอไม่ลง..คามาคุระ ตอน 2

ลืมเธอไม่ลง..คามาคุระ ตอน 3

เกียวโต..เมืองหมื่นวัดและศาลเจ้า

เดินชมตลาดนิชิกิ..สุดยอดตลาดของเกียวโต

ชมเมืองเกียวโต..บนจักรยาน

ชมสวนสวย..สวนพฤกษศาสตร์เมืองเกียวโต

ชมสวนสวย..เมืองเกียวโต 2

เผชิญหน้ากับวาซาบิตัวจริง

โอ้ละหนอ..โอซาก้า

หยุดเวลาให้ช้าลงที่ทุ่งราบกิบิ

หยุดเวลาให้ช้าลง..บนหลังอาน

มหัศจรรย์..ฟูจิและดอกชิบะซะกุระ

 

ขอให้เพื่อนๆ มีแต่ความสุข

 

ขอบคุณค่ะ

 

อ้อยหวาน

 

ขอบคุณ ความใฝ่ฝัน

ขอบคุณพลังและกำลังใจ

ฉันจะเดินก้าวไป ด้วยใบหน้าที่มองฟ้า

อ้อยหวาน

 

 

มามะ..มาร่วมสนุกกันอีกที

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

 

ขอเชิญชวนเพื่อนๆ มาร่วมสนุกกันอีกครั้ง คราวนี้จะง่ายหน่อย แทนการเขียนบล็อก ก็จะเป็นการตอบคำถาม ใครตอบถูกสามคนแรก เมล็ดพืชในรูปจะไปถึงมือท่าน

คำถามก็คือ เมล็ดพืชในรูปข้างบนอ้อยหวานได้มาจากไหน งานอะไร?

แต่อย่าตอบว่าญี่ปุ่นนะ เพราะมันถูกต้องเกินไป บอกใบ้นิดนึง ถ้าไปตามอ่านบทความของอ้อยหวานที่ http://th.japantravel.com/author/suwannee.payne/articles

มีแค่ 320 กว่าบทความเอง..  บอกใบ้ให้อีกนิดนึงเป็นบทความล่ามาหน่อย คืออ้อยหวานเขียนเองจากญี่ปุ่น คือช่วงปลายเดือนเมษายนถึงปลายเดือนพฤษภาคม

 

**********************************

ยังไม่มีใครตอบถูกนะคะ บอกใบ้อีกหน่อยค่ะ
อยู่ระหว่างหน้า 8-9 และซ่อนอยู่ในรูปภาพ

 

 

รางวัลสำหรับคนที่ตอบถูกคนแรก

ใบงาม้อนขาว (Shiso) หน่อไม้ฝรั่ง (asparagus) มะระจิ๋วพันธ์ญี่ปุ่น? และทานตะวันพันธ์??

 

 

รางวัลสำหรับคนที่ตอบถูกคนเป็นคนที่สอง

ใบงาม้อนขาว (Shiso) หัวเรดิช (Radish) และดอก BRACTEANTHA (STRAW FLOWER)

 

 

รางวัลสำหรับคนที่ตอบถูกคนเป็นคนที่สาม

ใบงาม้อนขาว (Shiso) ใบ parsley และทานตะวันพันธ์??

ขอเชิญเลยค่ะ มาร่วมตอบคำถามกับรางวัลเล็กๆ น้อยๆ จาก ญี่ปุ่น

 

ขอให้เพื่อนๆ มีแต่ความสุข

 

ขอบคุณค่ะ

 

อ้อยหวาน

 

 

ปลูกเอง..กินเอง

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

 

ในฤดูร้อนสิ่งหนึ่งที่อ้อยหวานชอบมาก นอกจากได้ปั่นจักรยานเที่ยวทุกเช้าแล้ว คงจะเป็น ปลูกเอง..กินเอง กินผัก สมุนไพร และที่สำคัญคือ มะเขือเทศ สดๆ จากสวนหลังบ้าน มะเขือเทศที่อร่อยมากๆ  คือเด็ดจากต้นแล้วเอาเข้าปากเลย เคี้ยวดังกร๊วบ รับรู้ถึงความสด ความหวาน

 

สวนผักเล็กๆ และรกๆ กับคนสวนประจำบ้าน ปีนี้เป็นฤดูร้อนที่อากาศเย็นและมีฝนมากกว่าปรกติ พืชผักบางอย่างได้ผลดี บางอย่างก็ไม่

 

ร่องผักสมุนไพร คงจะชอบอากาศแบบนี้ เติบโตกันงาม ต้นเสค (sage) พุ่มใหญ่ตรงมุมซ้ายมือ คุณผู้ชายปลูกไว้หลายปีแล้ว ไม่ค่อยได้ใช้สอยในครัว เพราะอ้อยหวานไม่ชอบกลิ่น แต่ดอกสวย ข้อมูลจาก  WIKIPEDIA ในยุโรบหลายประเทศใช้  เสค (sage) เป็นยาสมุนไพร ชื่อเสค (sage) มาจากภาษาละติน มีความหมายว่า รักษาเยียวยา

ใบเสค (sage) ใช้ทำน้ำมันหอมระเหย ยาแผนโบราณออสเตรียใช้ใบเสค (sage) ชงเป็นชาหรือเคี้ยวทานสดๆ เพื่อรักษาโรคผิดปกติของระบบทางเดินหายใจ ทางเดินอาหาร ปาก และผิวหนัง

ส่วนยาแผนโบราณทมิฬ สิทธะของอินเดีย (Tamil Siddha medicine) ใช้ใบเสค (sage) สำหรับโรคระบบทางเดินหายใจเช่นโรคหอบหืดและหวัด โดยบดใบเสคในน้ำเดือด และสูดดมไอน้ำ บรรเทาอาการคัดจมูก

ในปัจจุบันมีการทดลองใช้เสค (sage) ในการรักษาสำหรับผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ สารสกัดจากใบเสค Sage อาจจะมีประสิทธิภาพในการรักษาโรคไขมันในเลือดสูง

ขอบคุณ ข้อมูลจาก  WIKIPEDIA

ปีนี้คุณผู้ชายปลูกใบเบสิล (basil) ไว้หลายชนิด มีของอิตลีสองแบบ และของไทย ที่ที่นี่เรียกว่า Thai basil คงจะเป็นใบโหระพา ส่วนผักชีมีตัวกราวน์ฮ็อค (groundhog) มาช่วยกินทุกวัน ดีที่ว่าปลูกไว้เยอะ ไม่อย่างนั้นเป็นอดกิน เจ้าตัวกราวน์ฮ็อคนี่แหละกินผักสลัดชนิดที่ว่าถอนรากถอนโคน ปีนี้เลยไม่ผักสลัดและผักอย่างอื่นเหลือให้คนปลูกกิน

 

ขอยืมรูปจาก  WIKIPEDIA มาให้ดู หน้าตาโจรเป็นแบบนี้แหละ

 

ถั่วพุ่มเป็นอีกอย่างที่คนปลูกไม่ได้กิน แต่ตัวที่ไม่ได้ปลูกกินเอา กินเอา ไล่ไปแล้ว แต่เผลอๆก็กลับมากินใหม่ เกือบโดนคุณผู้ชายฟาดด้วยไม้ แต่อ้อยหวานขอเอาไว้ ก็เลยโดนคุณผู้ชายกระแนะกระแหน ..นี่คู๊น สัตว์เลี้ยงของคุณมากินผักของผมอีกแล้ว

 

กลัวว่าซุ้มจะว่างไม่มีเถาปีน อ้อยหวานเลยซื้อต้นกล้าฟักเขียวจากร้านจีน นึกว่าจะไม่ได้กินแล้วเพราะไม่ค่อยโต และไม่ค่อยมีดอก ทำเป็นลืมไปไม่ไปคอยแวกดู มาดูอีกทีมีลูกห้อยให้เห็นแล้ว

 

อีกต้นปลูกไว้ในคอกปุ๋ยหมัก แอบมีลูกเมื่อไร่ไม่รู้ ลูกข้างหลังก็เลยได้ขึ้นโต๊ะอาหารเย็นวันนี้

 

งาม้อนแดงออกดอกเสียเต็มพรึบ เสียดายที่ไม่มีกลิ่นหอม

 

ส่วนกุ้ยช่ายขึ้นเองทุกปีเหมือนกัน และทุกปีก็ออกดอกกันเต็มสวน อ้อยหวานเอามาผัดกินหลายมื้อ เหลือส่วนหนึ่งให้บาน ดอกบานก็กินอร่อยเหมือนกัน แต่ก้านจะแข็งกินไม่ได้

 

แต่ดอกหอมมากมาย ผึ้งเต็มสวนเลยละ

 

ส่วนมะเขือเทศเป็นดาวเด่นของสวน คุณผู้ชายชอบมากๆ ปีนี้ปลูกไว้หลายแบบ หลายสี ตอนนี้เริ่มทยอยสุก ปีนี้อากาศเย็นเลยไม่มีทากมาช่วยกิน แล้วก็ไม่มีโรคเชื้อราด้วย

 

อ้อยหวานเพาะเมล็ดไว้ก่อนไปญี่ปุ่น ให้คุณผู้ชายดูแลรดน้ำอยู่ในบ้าน กลับมาก็ได้เอาลงสวนเลย ต้นนี้เป็นพันธ์สีเหลือง ลูกขนาดลูกปิงปอง รสชาติอร่อยมาก

 

ต้นนี้คุณผู้ชายเพาะเอง เป็นดาวเรืองที่ดอกใหญ่มาก

 

ท้องหิว ก็ได้เวลาเก็บ

 

อาหารเที่ยง ‘สลัดดอกไม้’

 

แล้วเก็บฟักเขียวที่แอบโต

 

มาทำต้มจืดฟักเขียว

 

แล้วได้มะเขือเทศอีกหลายลูก ที่จะกลายเป็นเมนูอาหารหลายอย่าง

 

แต่มื้อเย็นวันนี้ ‘ปลาลุยสวน’ โยนทุกอย่างลงไปบนปลา ใส่เนยไปหน่อย โรยผงเกลือกระเทียมไปนิด แถมด้วยพริกไทยไปเยอะหน่อย แล้วใส่ในเตาอบ 20 นาที

 

ออกมาหน้าตาเป็นแบบนี้ อร่อยมาก

 

ขอให้เพื่อนๆ มีแต่ความสุข

 

ขอบคุณค่ะ

 

อ้อยหวาน

 

 

เลาะ เลียบ ริม รั้ว

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

คุณขอมา อ้อยหวานก็จัดให้

จากบล็อก ลืมเธอไม่ลง..คามาคุระ ตอน 3  ป้าต่ายขอมาว่า ..ชอบรั้วบ้านรูปที่ 5 อยากรู้ว่าเขาทำอย่างไร หากมีเวลารบกวนคุณอ้อยหวานลงบล็อกวิธีการทำให้ดูหน่อยคะชอบมากๆๆๆ

อ้อยหวานก็จัดให้ค่ะ แต่จะเขียนหลายรั้วที่อ้อยหวานชอบ และคิดว่าเป็นประโยชแก่เพื่อนๆ ชาวบ้านสวนพอเพียง

 

รั้วที่ป้าต่ายและอ้อยหวานชอบมากๆๆๆ รั้วคะซึตระ (Katsura)

 

ซึ่งมีวิธีการทำดังนี้

เริ่มแรกคือเลือกกิ่งไม้ไผ่ให้ได้ขนาดและความยาวที่ต้องการ

 

เตรียมกรอบไม้สำหรับเป็นฐาน

 

จัดเรียงกิ่งไผ่ให้สวย จะเห็นว่ากิ่งย่อย กิ่งเล็กกิ่งน้อยก็ไม่ตัดออก จัดราบขนานไปบนกรอบไม้ให้สวย

 

แล้ววางไม้ขนาน ตอกตะปูยึดไว้ให้แน่น

 

จากนั้นก็พลิกไปด้านหลัง จัดเรียงกิ่งไผ่กิ่งเล็กกิ่งน้อยให้เต็มกรอบ

 

วางไม้ขนาน ตอกตะปูยึดไว้ให้แน่น

 

แล้วแต่งด้วยไม้ไผ่ผ่าครึ่ง เพื่อความสวยงาม

 

ส่วนรั้วอีกแบบที่วิธีทำคล้ายๆ กัน แต่ดูหรูขึ้นคือ รั้วไดเมียว (Daimyo) หรือรั้วเจ้าเมือง

 

จะเหลือส่วนบนของกิ่งไผ่ไว้ ไม่ตัดออก

 

ติดตั้งรั้วเสร็จแล้วค่อมาเล็มให้ในภายหลัง

 

แล้วก็ได้รั้วสวยเยี่ยงนี้

 

 

และเยี่ยงนี้

 

 

อ่านรายละเอียดได้ ที่นี่ค่ะ

 

ป.ล.ป้าต่ายติดเลี้ยงข้าวอ้อยหวานมื้อนึงนะคะ

 

โปรดติดตาม..เลาะ เลียบ ริม รั้ว ในตอนต่อไป

 

 

 I would like to Thanksjapanesegardening.orgfor all the resources for this blog. Thank you.

 

ขอให้เพื่อนๆ มีแต่ความสุข

 

ขอบคุณค่ะ

 

อ้อยหวาน

 

 

เลาะ เลียบ ริม รั้ว 2

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

 

วันนี้อ้อยหวานมาต่อ ‘เลาะ เลียบ ริม รั้ว ตอน 2’ ค่ะ เป็นรั้วธรรมชาติจริง แถมยังมีชีวิต และกินได้ด้วย

 

 

คือรั้ว ‘เอสพาลิเออร์’ (espalier) หรือบางครั้งออกเสียงว่า ‘เอสพาลเออร์’  คือการเทรน ดัด ตัดแต่งต้นและกิ่งไม้ ซึ่งเป็นวิธีที่นิยมใช้กับต้นไม้ให้ผล เช่น แอปเปิ้ล แพร์  ‘เอสพาลิเออร์’   (espalier) มีหลายแบบ

‘เอสพาลิเออร์’ นี้เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านของชาวโรมัน มีมานานนับพันปี เป็นการปลูกต้นไม้ให้ผลขนานราบไปกับกำแพง หรือพนังบ้าน จนกลายเป็นศิลปแบบหนึ่ง

 

วันนี้อ้อยหวานจะกล่าวเฉพาะเอสพาลิเออร์ (espalier) ที่ตัดแต่งทำเป็นรั้ว ซึ่งก็มีหลายแบบให้เลือก

 

ขั้นตอนแรกของการทำรั้วเอสพาลิเออร์ คือสร้างกรอบรั้ว

 

ติดตั้งลวด ให้ระยะห่างประมาณ 1 ฟุต

 

ทีนี้ก็มาเลือกลวดลายที่เราชอบซึ่งมีอยู่หลายแบบ แต่ที่นิยมทำกันมากก็คือ แบบรั้วเบลเยี่ยม (Belgian fence) คือแบบที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด

 

หรือไม่ชอบแบบข้างบนสักแบบ ก็ออกแบบเองเสียเลยจะได้ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร

 

การเลือกต้นไม้ที่จะใช้ทำเอสพาลิเออร์ ของเมืองนอกนิยมต้นแอ็ปเปิล แพร์ ลูกพีช หรือเชอร์รี่

 

ช่วงมีดอกในฤดูใบไม้ผลิ มีแต่ดอกและไร้ใบ สวยงามมาก

 

ร้านต้นไม้บางแห่งของอังกฤษจะมีที่เทรนไว้แล้วมาขาย

 

สำหรับเมืองไทย อ้อยหวานคิดว่าต้นไม้จำพวกส้มหรือมะนาวก็นำมาใช้ทำรั้วเอสพาลิเออร์ได้ หรือจะลองเอาต้นไม้ผลอย่างอื่นมาลองทำดู เช่น เซียนท้อ ต้นฟิค มะกอก

 

แนะนำระยะห่างในการปลูกเอสพาลิเออร์ต้นแอ็ปเปิล แบบขนานเลียบธรรมดา
แต่ถ้าแบบรั้วเบลเยี่ยม (Belgian fence) คือแบบที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด ก็จะปลูกห่างกันไม่มาก

 

วิธีตัดแต่งเอสพาลิเออร์ขั้นพื้นฐาน

การเทรนกิ่งนั้นให้ใช้ไม้ดามกิ่งแล้วค่อยเลื่อนไม้ทีละนิดทุกวัน กิ่งจะได้ไม่หัก

 

วิธีตัดแต่งเอสพาลิเออร์ขั้นพื้นฐาน

 

ออกมาเป็นแบบนี้

 

ตัวอย่างรั้วเอสพาลิเออร์ต้นมะนาว อ้อยหวานอยากมีบ้านที่มีรั้วมะนาวแบบนี้

 

ที่เวปนี้ http://projetscollectifs.org/node/141

เป็นรั้วเตี้ยๆ ไม่ต้องทำกรอบ

 

ในปีแรกจะปลูกแบบในรูปบน

 

ปีที่สองก็ค่อยๆดัด อ้อลืมบอกไปรั้วเอสพาลิเออร์ต้องใช้เวลาและความอดทนรอสักนิดนึง (1-2 ปี) แต่สวยคุ้มค่าแน่นอน

 

บ้านนี้ทำเสียสูงเลย

 

ใช้เป็นฉากบังก็ได้

 

และจะเป็นรั้วที่อยู่ไปได้นาน สวยด้วย

 

หรือจะเป็นรั้วแบบนี้ ใช้ต้นวิลโลว์ (willow) ดูวิธีทำและรายละเอียดที่นี่   http://uconnladybug.wordpress.com/2012/05/31/constructing-a-living-hedge-or-fedge-a-cross-between-a-hedge-and-a-fence/

 

แล้วทำให้สวยโรแมนติคไปเลย

 

หรือจะเป็นรั้วแบบนี้ !!@@##%%**

 

โปรดติดตาม..เลาะ เลียบ ริม รั้ว ในตอนต่อไป

 

อ่านเรื่อง เลาะ เลียบ ริม รั้ว ตอนแรก ได้ที่นี่่ค่ะ

เลาะ เลียบ ริม รั้ว

 

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่นี่ค่ะ

http://en.wikipedia.org/wiki/Espalier

http://www.canadiangardening.com/how-to/techniques/how-to-espalier-a-tree/a/1345

http://ottenbros.wordpress.com/2011/05/14/espalier-project-part-one-%E2%80%93-building-the-structure-and-tree-selection/

http://www.ecoturfco.com/AllAboutEspalier.html

http://www.bhg.com/gardening/trees-shrubs-vines/trees/how-to-build-a-living-fence/

http://projetscollectifs.org/node/141

http://caramelandparsley.ca/2013/06/espalier-the-ideal-fruit-trees-to-grow-in-a-small-garden-space

 

 

I would like to Thanks everyone for all the resources for this blog. Thank you.

 

 ขอให้เพื่อนๆ มีแต่ความสุข

 

ขอบคุณค่ะ

 

อ้อยหวาน

 

เลาะ เลียบ ริม รั้ว 3

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

วันนี้อ้อยหวานเอารั้วบ้านชุดสุดท้ายมาให้ชมกัน จะเป็นกลุ่มรั้วที่ผสมกันระหว่างรั้วที่ใช้วัสดุตามธรรมชาติ คือรั้วกิ่งไม้ (Brushwood Fence) ซึ่งเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านของชนพื้นเมืองออสเตรเลีย รั้วขัดแตะหรือรั้วสาน (wattle fences) ภูมิปัญญาชาวบ้านชาวยุโรบ รั้วท่อนไม้ภูมิปัญญาชาวบ้านของชาวสวีเดน รั้วขวดรีไซเคิล หรือรั้วเพื่อโลกสีเขียว และรั้วตะแกงเหล็กใส่หิน (Stone Gabion fence)

 

รั้วกิ่งไม้ (Brushwood Fence) ซึ่งเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านของชนพื้นเมืองออสเตรเลีย ทวีปออสเตรเลียค่อนข้างแล้ง พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่กึ่งทะเลทรายมีไม้ยืนต้นน้อย ส่วนใหญ่จะเป็นไม้พุ่มเตี้ย

 

รั้วกิ่งไม้แบบนี้กล่าวกันว่าเก็บเสียงรถเสียงราจากถนนได้ดีมาก

 

วิธีทำรั้วกิ่งไม้

ขอบคุณ youtube และ OzNative Bush Products

 

รั้วขัดแตะหรือรั้วสาน (wattle fences) ภูมิปัญญาชาวบ้านชาวยุโรบ ซึ่งมีประวัติย้อนไปถึงยุคหินใหม่ (Neolithic) อยู่ในช่วงเวลาประมาณ 10200-4500/2000 ปีก่อนคริสตกาล

ขอบคุณ ข้อมูลจาก  WIKIPEDIA

 

วิธีสานจะทำได้สองแบบ คือแบบตรงและแบบขวาง ไม้ที่ตัดสดใหม่จะใช้ได้ดีที่สุด

 

แบบตรง

 

แบบขวาง

 

วิธีทำรั้วขัดแตะหรือรั้วสาน (wattle fences)

ขอบคุณ youtube และ fotheringtontomas

 

ในสมัยโบราณจะใช้วิธีการสานไม้แบบนี้ มาใช้ในการสร้างบ้าน แล้วเปาะไม้สานด้วยดินเหนียวอีกที วิธีนี้อ้อยหวานคิดว่าน่าจะนำใช้สร้างบ้านดิน หรือทำรั้วดินได้

 

ดูรั้วขัดแตะหรือรั้วสานหลายๆ แบบได้ที่นี่

http://www.inspirationgreen.com/wattle-fence.html

 

รั้วท่อนไม้ภูมิปัญญาชาวบ้านของชาวสวีเดน ฟินแลนด์  นอร์เวย์ และเอสโตเนีย ปรกติจะใช้ต้นไม้ที่ยังเล็กอยู่ ใช้ทั้งต้น ไม่ถากเปลือกต้น และไม่ผ่า

 

รั้วประกอบด้วย เสาที่ตอกเป็นคู่ ไม้ทั้งต้นวางตามแนวทแยง เชือกตามธรรมชาติผูกระหว่างเสา รั้วแบบนี้ใช้กันมาตั้งแต่ยุคเหล็ก (Iron Age)

ขอบคุณ ข้อมูลจาก  WIKIPEDIA

 

รั้วท่อนไม้ภูมิปัญญาชาวบ้านของชาวสวีเดนนี้ อ้อยหวานคิดว่าใช้ไม้ไผ่ก็สวยเหมือนกัน

 

รั้วขวดรีไซเคิล หรือรั้วเพื่อโลกสีเขียว

 

จะเป็นขวดแก้ว ขวดไวน์ ขวดเบียร์

 

ขวดซีอิ้ว หรือขวดน้ำปลา ใช้ได้หมด

 

ขวดพลาสติคก็ใช้ทำรั้วได้

 

รั้วสุดท้ายที่ตอนนี่กำลังมาแรงคือ รั้วตะแกงเหล็กใส่หิน (Stone Gabion fence)

 

ดูหนักแน่น

 

หรือใส่ไม้? ก็แปลกออกไปอีก

เลาะ เลียบ ริม รั้ว ของอ้อยหวานก็จบลงตรงนี้

 

อ่านเรื่อง เลาะ เลียบ ริม รั้ว ตอนแรก ได้ที่นี่่ค่ะ

เลาะ เลียบ ริม รั้ว

เลาะ เลียบ ริม รั้ว 2

 

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่นี่ค่ะ

 

http://sydneybrushfencing.com/

http://www.inspirationgreen.com/wattle-fence.html

http://www.epa.gov/greenacres/wildones/handbk/wo27fence.html

http://en.wikipedia.org/wiki/Wattle_%28construction%29

http://en.wikipedia.org/wiki/Roundpole_fence

http://www.lushome.com/plastic-glass-recycling-fences-built-empty-bottles-20-green-building-ideas/71166

 

I would like to Thanks everyone for all the resources for this blog. Thank you.

 

 ขอให้เพื่อนๆ มีแต่ความสุข

 

ขอบคุณค่ะ

 

อ้อยหวาน

 


เมืองโตรอนโตกับศิลปะบนกำแพง (graffiti)

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

 

สองอาทิตย์ก่อน อ้อยหวานมีโอกาสไปเยี่ยมลูกชาย ซึ่งเรียนหนังสืออยู่ที่เมืองโตรอนโต (Toronto) เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของแคนนาดา โตรอนโตเป็นเมืองหลวงของรัฐหรือภูมิภาค (Provincial) ออนตาริโอ (Ontario)

 

เก่ากับใหม่ ศาลากลางเมืองโตรอนโต (เก่า) กับตึกระฟ้าข้างเคียง

 ศาลากลางเมืองโตรอนโต (เก่า) สร้างขึ้นในปี 1889 สังเกตุได้เลยว่า ไม่ว่าที่ไหนในโลกคนสมัยก่อนพิถีพิถัน ละเอียดลออ มากกว่าคนในปัจจุบัน ตึกรามบ้านช่องจะสวยงามกว่าเยอะ

 

ตึกระฟ้าสมัยใหม่เป็นได้แค่กระจกเงา

 

ยามค่ำคืน โตรอนโตก็เช่นเดียวกับเมืองใหญ่ๆ ทั้งหลาย ประดับประดาด้วยแสงไฟ

 

บ้านเก่าๆ ซึ่งไม่รู้ว่าจะอยู่ตรงนี้ได้อีกนานแค่ไหน? ก่อนที่จะถูกทุบทิ้ง เปิดทางให้ตึกหรือคอนโดใหม่

 

ตลาดเค็นซิงตัน  (Kensington) ร้านค้าส่วนมากจะเป็นพวก บูติก ร้านเสื้อผ้าวินเทจ ร้านอาหาร คาเฟเก๋ๆ ของพวกฮิปปี้

 

และเต็มไปด้วยศิลปะบนกำแพง ‘กราฟฟิตี้’  (graffiti) อันนี้สีสวยมาก

 

คำว่า ‘กราฟฟิตี้’  (graffiti) เป็นคำศัพท์ที่มาจากภาษากรีก grafito ซึ่งแปลว่าการเขียนภาพลงบนผนังหรือกำแพงในสมัยโบราณ โดยที่รู้จักกันทั่วไปจะมีลักษณะของการพ่น (bombing) เซ็นชื่อ หรือเป็นการเซ็นลายเซ็น โดยเริ่มต้นจากเมืองฟิลาเดลเฟียในรัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา จากนั้นจึงแพร่หลายในนิวยอร์กช่วงยุคคริสต์ทศวรรษที่ 60

ขอบคุณ ข้อมูลจาก  WIKIPEDIA

 

ศิลปะบนกำแพงของร้านขายปลา

 

ศิลปะบนกำแพงข้างร้านขายไก่ย่างแบบคาริเบี้ยน

 

กราฟฟิตี้บนรถคันเก่า

 

ร้านอาหารเม็กซิกันก็ไม่น้อยหน้า

 

ร้านขายผักและผลไม้ก็เอากับเขาด้วย แต่ไม่ได้วาดรูปผักและผลไม้ คงจะชอบดนตรีแจส

 

แต่ดูบนหลังคาดิ ปลูกพริกได้สวยและดกด้วย

 

ตู้ไฟฟ้าข้างถนนสีสวยเชียว

 

รถสามล้อถีบของเมืองโตรอนโต ให้บริการชมเมืองแก่นักท่องเที่ยว

 

สุดท้าย ครอบครัวของอ้อยหวาน ลูกๆ และพ่อของลูก ส่วนอ้อยหวานอยู่หลังกล้องถ่ายรูป

 

ขอให้เพื่อนๆ มีแต่ความสุข

 

ขอบคุณค่ะ

 

อ้อยหวาน

 

 

เมนูมะเขือเทศกับไข่ อร่อยจังเลย

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

 

เช้านี้อ้อยหวานเอาอาหารเช้ามาเสริพค่ะ ทุกวันนี้สวนหลังบ้านอุดมไปด้วยมะเขือเทศ คนกินได้ สัตว์ทั้งหลายก็กินดี ตั้งแต่กระรอก ชิปมั้ง ไปจนถึงเจ้ากราวน์ฮ็อค (groundhog) ตัวดีมาช่วยกินทุกวี่ทุกวัน

 

ชิปมั้ง (จากมือถือของลูกสาว) มาช่วยกินมะเขือเทศองุ่น บางครั้งเด็ดมาแล้วกินแค่ครึ่งลูกแล้วโยนทิ้ง เก็บลูกใหม่มากินต่อ น่าตีจริงๆ

 

เครื่องปรุงอาหารเช้าของวันนี้ มะเขือเทศกับไข่สูตรอินเดีย

หัวหอม มะเขือเทศ พริกสด ไข่ เกลือ ผักชี

ผัดหอมสับกับเนยหรือน้ำมันพืชให้นุ่มและหอม ตามด้วยมะเขือเทศหั่นขวาง (ถ้าเป็นมะเขือเทศพันธ์เนื้อหนา น้ำน้อยและไม่สุกมากหรือเกือบสุก จะอร่อยมาก) พริกสดและไข่ที่ตีไว้แล้ว พอไข่สุข โรยด้วยผักชี

 

ออกมาหน้าตาอย่างนี้ ดูสวย กินอร่อย คุณค่าอาหารเต็มเปี่ยม

 

ต้นตำหรับเขาเสริฟพร้อมนาน (naan) ขนมปังอินเดีย หรือจะใช้ขนมปังปิ้งแทนก็ได้ ดูรายละเอียดได้ที่นี่ Indian scrambled eggs    

 

ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ปลูกมะเขือเทศพันธ์ พลัม เลมอน (Plum Lemon) อร่อยถูกใจอ้อยหวานมาก เนื้อหนา น้ำและเมล็ดน้อย สีสวยและกรอบอร่อย ไม่เปรี้ยวมาก หน้าตาสมชื่อ คือ ดูคล้ายลูกพลัม แต่สีคล้ายมะนาวเลมอน

 

อาหารเที่ยงง่ายๆ แซนวิชมะเขือเทศพันธ์ พลัม เลมอน กับหมูเบคอน หมูเบคอนแบบนี้ไม่มีมันและไม่เค็มมาก

 

ง่ายๆ และอร่อยด้วย

 

อ้อยหวานเคยลงเมนูมะเขือเทศไว้มากมายในบล็อกนี้ เมนูมะเขือเทศ กินก็ได้ ทาก็ดี

ช่วงนี้ที่แคนนาดาอากาศเริ่มเย็นลงแล้ว เดือนหน้าก็จะเป็นฤดูใบไม้ร่วง ต้นมะเขือเทศเริ่มแห้งตายกัน แต่ยังมีลูกมะเขือเทศสีเขียวที่ยังไม่สุกอีกมากมาย วันนี้เลยเก็บเมนูสำหรับมะเขือเทศเขียวที่ยังไม่สุกมาลงให้เป็นไอเดียทำกินกัน

เมนูแรก มะเขือเทศเขียวชุบแป้งทอด

คลิกดูวิธีทำได้ที่นี่  Fried Green Tomatoes

 

มะเขือเทศเขียวชุบแป้งทอดอีกสูตรหนึ่ง มีรูปกรรมวิธีทำอย่างละเอียด

คลิกดูวิธีทำได้ที่นี่  Cancer Fighting Vegan Fried Green Tomatoes

 

ขนมมัฟฟินด์มะเขือเทศเขียว

คลิกดูวิธีทำได้ที่นี่  Sweet Green Tomato Cornmeal Muffins

 

มะเขือเทศเขียวซาลซ่า

คลิกดูวิธีทำได้ที่นี่  Green Tomato Salsa Verde

 

แยมมะเขือเทศเขียว

คลิกดูวิธีทำได้ที่นี่  Green Tomato Jam

 

พายมะเขือเทศเขียว

คลิกดูวิธีทำได้ที่นี่  What To Do With Green Tomatoes

 

แกงอินเดีย

คลิกดูวิธีทำได้ที่นี่  Indian Curried Green Tomatoes Bhaaji

 

ซอส Chutney มะเขือเทศเขียว

คลิกดูวิธีทำได้ที่นี่  Green Tomato Chutney

 

 

 

I would like to Thanks everyone for all the resources for this blog. Thank you.

 

ขอให้เพื่อนๆ มีแต่ความสุข

 

ขอบคุณค่ะ

 

อ้อยหวาน

 

 

สดจากสวน

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

 

ตอนนี้ที่แคนนาดา อากาศเริ่มเย็นลงแล้ว ตอนกลางคืนอุณหภูมิลงต่ำกว่า 10 องศา เมื่อคืนนี้พยากรณ์อากาศบอกเตือนว่าอาจจะมีน้ำค้างแข็ง เพื่อคนที่ปลูกพืชผักในสวนจะได้หาอะไรคลุม แต่เช้านี้ก็ผ่านมาด้วยดี

 

พืชผักบางอย่างเริ่มจะหงิกงอ แต่ดอกไม้หลายอย่างยังยิ้มสู้ ดอกดาวกระจายชื่นชอบอากาศเย็น ชูหน้ายิ้มแย้มกันสดใส

 

ดอกกุ้ยช่ายกำลังบานเต็มที่ ทำให้มีผึ้งบินว่อนเต็มสวน ผึ้งกำลังเตรียมตัวสำหรับฤดูหนาว พากันเก็บออมอาหาร สัตว์ตัวอื่นๆก็เช่นกันช่วงนี้วิ่งกันวุ่น หาอาหารเก็บสะสมไว้ในโพรง

 

ฟักเขียวก็ยังสดใส แต่ดูลูกนี้สิ น่าสงสาร เป็นลูกที่แม่ไม่ได้ดูแลเลยนอกคอก

 

ต้นไม้ที่ปลูกในกระถางก็ได้อบพยบเข้ามาอยู่ในบ้าน

 

แต่ต้นไม้ต่างๆ ใบไม้ยังไม่เปลี่ยนสี คงจะต้องรออีกอาทิตย์หรือสองอาทิตย์ แล้วอ้อยหวานจะเก็บรูปมาให้ชมกัน

 

ต้นมะเขือเทศใบเริ่มเหี่ยว แต่ยังมีลูกมะเขือเทศเขียวๆ ที่ยังไม่สุกอีกมากมาย

 

อันนี้เป็นพันธ์รัสเซีย อ้อยหวานไม่รู้ว่รสชาติจะเป็นอย่างไร เพราะไม่เคยมีลูกสุกสักลูกหนึ่ง

วันนี้มีเมนูมะเขือเทศเขียวที่ยังไม่สุกมาลงให้เป็นไอเดียทำกินกันค่ะ มะเขือเทศเขียวชุบแป้งทอดเป็นสูตรที่อ้อยหวานลงลิงค์ไว้ในบล็อกก่อน

มีชื่อว่า ..มะเขือเทศเขียวชุบแป้งทอด อาหารมังสวิรัติสำหรับต่อสู้มะเร็ง ดูได้ที่นี่ Cancer Fighting Vegan Fried Green

เธอคนนี้เป็นนางพยาบาล และรอดชีวิตจากโรคมะเร็ง เธอเขียนหนังสือและเขียนบล็อกที่เกี่ยวกับสุขภาพการดูแลตนเอง และการต่อสู้กับโรคมะเร็ง

มะเขือเทศสุกหรือมะเขือเทศเขียว (ที่ยังไม่สุก) ต่างก็มีวิตามินซี วิตามินเอและวิตามินเคสูง แต่มะเขือเทศเขียว (ที่ยังไม่สุก) ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่มะเขือเทศสุกไม่มีคือ สารโทเมไทนด์ (tomatine) ปรกติแล้วสารโทเมไทนด์ (tomatine) เป็นสารพิษ ลำต้นและใบของมะเขือเทศมีโทเมไทนด์สูง หากรับประทานจะเป็นพิษต่อร่างกาย แต่มะเขือเทศเขียว (ที่ยังไม่สุก) นั้นมีสารโทเมไทนด์ในปริมาณที่พอเหมาะ และกลับเป็นสิ่งดี สารโทเมไทนด์ (tomatine) มีคุณสมบัติยับยั้งการเจริญเติบโตของมะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งในตับ

 

ส่วมผสมของเมนูมะเขือเทศเขียวชุบแป้งทอดมังสวิรัติ มะเขือเทศเขียว (ที่ยังไม่สุก) น้ำกะทิ แป้งทำขนม เกล็ดขนมปัง

 

ชุบมะเขือเทศเขียวลงในแป้งทำขนม

 

แล้วหย่อนลงไปในน้ำกะทิ

 

ต่อจากนั้นก็เคลือบด้วยเกล็ดขนมปัง

 

แล้วทอดด้วยน้ำมันมะกอก หรือน้ำมันพืช

 

ออกมาหน้าตาเป็นอย่างนี้ ส่วนน้ำจิ้มทำกันเองตามใจชอบ อ้อยหวานทานกับซอสมายองเนส เป็นอาหารเช้าก็ได้ อาหารว่างก็ดี

 

ส่วนอาหารเที่ยง ขนมจีนแกงเผ็ดเป็ดย่างกับมะเขือเทศพันธ์ปิงปองเหลือง

 

อ้อยหวานใช้เส้นญี่ปุ่นทำขนมจีน

 

ต้มเสร็จแล้วใส่ลงไปในน้ำเย็น จับเป็นจับไว้ แล้วทิ้งให้แห้ง ใช้แทนขนมจีนได้ดีทีเดียว

 

ขนมจีนแกงเผ็ดเป็ดย่างกับมะเขือเทศพันธ์ปิงปองเหลือง ของโปรดของคุณผู้ชายที่บ้าน

 

ยังมีมะเขือเทศอีกมากมาย กินไม่ทัน ก็เอาใส่ช่องแข็ง เก็บไว้ใช้ใส่สตูร์ หรือสปาเก็ตตี้

 

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่นี่ค่ะ

http://sisterearthorganics.wordpress.com/2012/08/13/cancer-fighting-vega...

http://www.livestrong.com/article/413742-what-are-the-benefits-of-green-...

http://eatyourselfwell.com/the-surprising-health-benefits-of-green-tomat...

http://healthyeating.sfgate.com/benefits-green-tomatoes-7590.html

http://healthyliving.azcentral.com/benefits-green-tomatoes-16458.html

 

I would like to Thanks everyone for all the resources for this blog. Thank you.

 

ขอให้เพื่อนๆ มีแต่ความสุข

 

ขอบคุณค่ะ

 

อ้อยหวาน

 

 

พาเที่ยวตลาดชื่อดังของเมืองออตตาวา

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

 

 เมื่อย้อนกลับไปดูบล็อกเก่าๆ ทำให้รู้ว่าอ้อยหวานไม่เคยพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวตลาดของเมืองออตตาวาเลย (เป็นไปได้ยังไง) สองวันก่อนออกไปปั่นจักรยานอย่างเคย เลยแวะเข้าไปเก็บรูปมาให้ชมกันค่ะ

ตลาดบายเวิดร์ (Byward Market) เป็นตลาดเก่าแก่ของเมืองออตตาวา สร้างขึ้นในปี 1826 ตลาดด้านนอกจะมีเฉพาะในฤดูใบไม้ผลิไปจนถึงฤดูใบไม้ร่วง ส่วนฤดูหนาวจะมีเฉพาะตลาดในอาคารใหญ่และร้านค้ารอบๆ

 

 

ตลาดนอกด้านนี้เป็นพวกพืชผักและผลไม้ ส่วนมากจะเป็นผลิผลในท้องถิ่น

 

แผงนี้ขายพวกลูกเบอร์รี่ต่างๆ ส่วนด้านหลังขายต้นเบญมาศ (Chrysanthemum) ที่มีดอกดกเต็มต้น เบญมาศเป็นสัญญาลักษณ์ของฤดูใบไม้ร่วง เมื่อต้นไม้ดอกไม้อื่นในสวนเริ่มตายไป คนที่นี่นิยมซื้อเบญมาศไปตั้งโชว์ตรงประตูบ้านหรือประตูสวนกัน

 

ผลิผลในท้องถิ่น

 

ถ้วยเล็กถ้วยละ 2 เหรียญ 3 ถ้วย 5 เหรียญ (เหรียญละ 30 กว่าบาท)

ตรงกลางลูกสีเหลืองเป็นผลไม้ตระกูลเดียวกับมะเขือเทศ และมีหลายชื่อมาก เช่นCape gooseberry,  Inca berry, Aztec berry, golden berry, giant ground cherry, African ground cherry  

 

ตระกร้าใหญ่ขึ้นมาหน่อยนึง ตระกร้าละ 5 เหรียญ จากด้านบน สตรอแบรี่ บลูเบอร์รี่และราสเบอร์รี่

 

แครอทสีสวยๆ

 

แอปเปิ้ลหลายๆ ชนิด

 

พริกและมันฝรั่งหลากสี

 

หัวบีทก็มีหลายสีเหมือนกัน

 

หัวบีทของอีกร้านผ่าโชว์สีสวยๆ

 

ซุกินี่แบบต่างๆ

 

และแน่นอนต้องมีมะเขือเทศ แผงนี้ขายดีมาก

 

พืชผักและผลไม้ของตลาดนี้ขึ้นชื่อในเรื่องความสดใหม่

 

แผงนี้ขายหลายอย่าง แต่หนักไปทางกระเทียม กระถางเล็กๆ เป็นพวกสมุนไพรสำหรับปลูกในบ้าน แล้วก็มีฟักทองหลายรูปร่าง

 

เลยมาหน่อยก็เป็นแผงขายเมเปิ้ลไซรัป (Maple syrup) น้ำหวานจากต้นเมเปิ้ล แคนาดาเป็นประเทศที่ผลิตและส่งออกเมเปิ้ลไซรัปสูงสุดในโลก เป็นของฝากที่นิยมซื้อกัน มีหลายรูปแบบ เป็นแบบใส่ขวด ลูกอม อมยิ้ม หรือเป็นก้อน กลิ่นหอมหวาน เมเปิ้ลไซรัปกินกับขนมแพนเค็กอร่อยมาก

 

วิธีเก็บน้ำหวานจากต้นเมเปิ้ลแบบเก่า เจาะและเสียบท่อ ใช้ถังหรือถุงพลาสติกรองรับน้ำหวาน

 

วิธีเก็บน้ำหวานจากต้นเมเปิ้ลแบบสมัยใหม่ เสียบท่อพลาสติกไปในต้นเมเปิ้ล แล้วต่อท่อไปยังถังเก็บรวม สะดวกสบายไม่ต้องเดินเก็บทีละต้น

 

ต้นเมเปิ้ลพันธ์ sugar maple พันธ์ที่ให้น้ำหวาน

แต่กว่าจะเริ่มเก็บน้ำหวานได้ ก็ต้องรอให้ต้นเมเปิ้ลอายุ 30 ปี เรียกว่าพ่อปลูกลูกเก็บได้เลย แต่ข้อดีคือจะเก็บน้ำหวานไปได้เรื่อยจนต้นเมเปิ้ลอายุ 100 กว่าปี!!!

ขอบคุณ ข้อมูลและรูปภาพจาก  WIKIPEDIA

 

อีกด้านหนึ่งของตลาดจะเป็นพวกเสื้อผ้า งานฝีมือ งานศิลปะ

 

ส่วนในอาคารใหญ่ก็จะมีร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ

 

 

 

ขอให้เพื่อนๆ มีแต่ความสุข

 

ขอบคุณค่ะ

 

อ้อยหวาน

 

 

 

เล่าสู่กันฟัง “เก็บความหวานจากต้นไม้”

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

 

คุณถามมา อ้อยหวานจัดให้ จากคำถามของคุณเสินที่บล็อกก่อนหน้านี้ทำให้อ้อยหวานไปขุดคุ้ยค้นคว้าหาคำตอบ และเอามาเล่าสู่กันฟัง

 

กว่าจะได้เมเปิ้ลไซรัป (Maple syrup) ต้องมีกรรมวิธีสลับซับซ้อนกันอย่างไร?

อ้อยหวานดูรายการทีวี “How It's Made” (เขาทำกันยังไง) กับลูกๆ อยู่บ่อยๆ รายการ “How It's Made” เป็นรายการทีวีที่ดีมากๆ ให้ความรู้ ความเพลิดเพลิน มีทุกอย่างตั้งแต่ทำลูกอม ไปจนถึงโรงงานผลิตไฟฟ้า

ขอบคุณ youtube และ HowItsMadeMovie

 

จากต้นเมเปิ้ลมาสู่โต๊ะอาหารของคุณ (ฉบับย่อ)

 

ฟาร์มต้นเมเปิ้ล กว่าจะเริ่มเก็บน้ำหวานได้ ก็ต้องรอให้ต้นเมเปิ้ลอายุกว่า 30 ปี เรียกว่าพ่อปลูกลูกเก็บได้เลย แต่ข้อดีคือจะเก็บน้ำหวานไปได้เรื่อยจนต้นเมเปิ้ลอายุ 100 กว่าปี!!! และหลังจากนั้นไม้ของต้นเมเปิ้ลก็ยังใช้ทำพื้บ้านหรือเฟอร์นิเจอร์ราคาแพง

ปกติจะเริ่มเก็บน้ำหวานจากต้นเมเปิ้ลกันในฤดูหนาว ระหว่างกลางเดือนกุมภาพันธ์และกลางเดือนมีนาคม เมื่ออุณหภูมิตอนกลางวันอยู่เหนือจุดเยือกแข็ง (0 องศาเซลเซียส) และอุณหภูมิกลางคืนลดลงต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นในเวลากลางวันจะทำให้น้ำหวานในต้นเมเปิ้ลเริ่มละลาย เกิดการไหลเวียนและสร้างความกดดันภายในลำต้น ถึงจุดหนึ่งจะทำให้น้ำหวานไหลออกจากรูที่เจาะไว้

ดังนั้นสภาพอากาศที่จะทำให้เก็บเกี่ยวน้ำหวานจากต้นเมเปิ้ลที่ดีที่สุดคือ ในตอนกลางคืนจะต้องมีอุณหภูมิที่เย็นยะเยือกงต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิในตอนกลางวันอบอุ่น สูงกว่า 0 องศา

 

วิธีเก็บน้ำหวานจากต้นเมเปิ้ลแบบเก่า

 

ซึ่งยังคงใช้กันอยู่ตามบ้านหรือสวนเล็กๆ

 

บางแห่งก็ใช้แบบนี้

 

แบบนี้

 

หรือแบบนี้

 

หรือจะเอาแบบนี้เลย!!!

 

แต่ฟาร์มเมเปิ้ลใหญ่ๆ เขาใช้กันแบบนี้ แถมยังมีเครื่องปั๊มช่วยอีกด้วย ต้นเล็กก็เจาะได้แค่ 1-2 รู

 

ต้นใหญ่ก็เจาะได้มากหน่อย

 

อย่างต้นนี้ใหญ่หลายคนโอบ ก็โดนไปหลายรูหน่อย

 

เก็บน้ำหวานจากต้นเมเปิ้ลได้แล้ว ก็นำไปเคี่ยวจนข้น

 

น้ำหวานจากต้นเมเปิ้ล 40 แกลลอน จะได้เมเปิ้ลไซรัป (Maple syrup) เพียง 1 แกลลอนเท่านั้น

 

ขนมแพนเค็กกินกับเมเปิ้ลไซรัปอร่อยมากๆ กลิ่นเมเปิ้ลไซรัปหอมหวานไม่เหมือนใคร และสะอาดบริสุทธิ์เป็นธรรมชาติที่สุด

 

ที่เมืองออตตาวาก็มีฟาร์มต้นเมเปิ้ล “Stanley’s Olde Maple Lane Farm” และเปิดให้เข้าชมอีกด้วย อ้อยหวานเคยพาลูกไปเที่ยว เด็กๆ จะชอบกันมาก ที่ฟาร์มมีกิจกรรมหลายอย่างเช่น ขี่รถเทียมม้าเที่ยวชมฟาร์ม ร้านอาหาร all-you-can-eat pancake ..กินขนมแพนเค็กได้ไม่อั้น

 

แล้วยังได้ทำอมยิ้มเมเปิ้ลไซรัปกินกันเองอีกด้วย วิธีง่ายๆคือราดไปบนหิมะ แล้วใช้ไม้ม้วนเก็บขึ้นมา ก็จะได้อมยิ้มแสนอร่อย

 

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่นี่ค่ะ

http://myigloolife.blogspot.ca/2011/04/not-aunt-jemima.html

http://www.wildblueberries.net/mapletapping.html

http://www.purecanadamaple.com/pure-maple-syrup/how-maple-syrup-is-made

http://www.chelseagreen.com/content/maple-syrup-101-tap-tree-2/

http://www.tapmytrees.com/taptree.html

http://www.tapmytrees.com/

http://nhmapleexperience.com/nh_syrup.php

http://faces-of-farmers.org/back-creek-farms/

http://wall.alphacoders.com/

http://www.stanleysfarm.com/our-sugarbush.php

http://www.ottawatourism.ca/en/features/maple-syrup-fun

 

 

I would like to Thanks everyone for all the resources for this blog. Thank you.

 

ขอให้เพื่อนๆมีแต่ความสุข

 

ขอบคุณค่ะ

 

Viewing all 244 articles
Browse latest View live