Quantcast
Channel: บล็อก อ้อยหวาน
Viewing all 244 articles
Browse latest View live

สวนหลังบ้าน..ที่ชวนให้อิ่มใจ

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

 

มาพาไปชมสวนดอกไม้สวนหลังบ้านกันต่อค่ะ ที่จริงอยากส่งการบ้านด้วย แต่การบ้านบางดอกยังไม่บาน สงสัยต้องรออีก 2-3 วัน

 

ปีนี้ที่บ้านมีปัญหามากกับแมลง ดอกไม้ใบไม้เลยเป็นรูพรุน

ไม่ใช่แต่ที่บ้านแต่ทั้งเมืองออตตาวาเลยทีเดียว ต้นไม้ตายยืนต้นกันเป็นแถบ เพราะแมลงชนิดหนึ่ง ถนนบางสายต้องตัดต้นไม้ไปทั้งถนน เพราะเทศบาลต้องการที่จะควบคุมไม่ระบาดไปมาก แต่ดูแล้วคงจะไม่ได้ผล ตอนนี้อ้อยหวานปั่นจักรยานไปที่ไหนก็เห็นแต่ต้นไม้ยืนตายแห้ง บางต้นใหญ่ขนาด 2 คนโอบ น่าเสียดายมาก

 

ที่เมืองนี้มีมาตรการไม่ใช้สารเคมีค่ะ 3 ปีมาแล้วมีกฏหมายทั้งห้ามใช้และห้ามขายสารเคมีกำจัดหญ้าและแมลง ต้องดูกันต่อไปว่าเขาจะแก้ปัญหาอย่างไร

ในสวนของอ้อยหวานลองใช้น้ำหมักฉีด แต่ไม่ได้ผล ตอนนี้ใช้วิธีเดียวกับครูนวล ขยี้กับมือ สวมวิญญาณเพชรฆาต

 

ฮอลลี่ฮ็อค (Hollyhock) ก็เช่นกัน ปีนี้ดอกดกมาก แต่ยังไม่ทันโตและบาน ก็เหลืองกรอบไปหมด

 

เดย์ลิลลี่  (Daylily) อีกสีหนึ่ง เป็นต้นไม้ที่ปลูกและดูแลง่าย

 

แต่กลีบแข็ง ดูไม่อ่อนช้อยเท่าลิลลี่ญี่ปุ่น

 

บราว์ อาย ซูซาน (Brown eye Susanne) เป็นไม้ดอกที่ปลูกง่ายขึ้นง่าย ปลูกครั้งเดียวต้นเดียว ขยายพันธ์เอง ขึ้นเองทุกปี

 

แต่ไม่รู้ว่าแมลงผสมเกสรดอกอะไรให้ ที่สวนเลยมีหลายแบบคละเคล้ากันไป

 

ต้นนี้ดอกซ้อน ปลายกลีบหยัก

 

ต้นนี้ดอกกลมมน

 

ต้นนี้กลีบดอกปลายแหลม

 

ส่วนต้นนี้ ดอกซ้อน มีแต้มสีน้ำตาล

 

ต้นนี้ดอกเหมือนโดนเด็กมือซนแต้มสีน้ำตาลสะเปะสะปะไปทั่ว

 

ส่วนต้นนี้ เป็นแบบใหม่ที่เพิ่งเห็นปีนี้ หลังกลีบโดนแต้มด้วยสีเขียวอ่อน

ผึ้งและแมลงสร้างสรรให้โดยเฉพาะ ปีหน้าคงจะมีแบบใหม่ สีใหม่ มาแต่งสวน

 

มาดอนน่า ลิลลี่ (Madonna Lily) เป็นลิลลี่อีกชนิดหนึ่งที่ ขยายพันธ์โดยใช้หัว ดอกจะบานเหมือนระฆัง ไม่บานเฉ่งเหมือน ลิลลี่ญี่ปุ่น (Japanese lily) แต่มาดอนน่า ลิลลี่ กลิ่นหอมแรงกว่าลิลลี่ญี่ปุ่น มาก อ้อยหวานตัดใส่แจกันไว้ในบ้านช่อหนึ่ง กลิ่นหอมไปทั้งบ้าน

 

ชื่อดอก มาดอนน่า ลิลลี่ นี้มาจากพระนามของพระแม่มาเรีย พระมารดาของพระเยซูคริสต์ มาดอนน่าลิลลี่เป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์สำหรับชาวโรมันคาทอลิก ภาพวาดหรืองานศิลปของพระแม่มาเรีย ในยุคกลางของยุโรบ พระแม่จะมีดอก มาดอนน่า ลิลลี่ในมือเสมอ

 

ลิลลี่ดอกสีเหลืองนี้ดูเหมือน มาดอนน่า ลิลลี่ ทุกอย่าง แต่อ้อยหวานลองหาข้อมูลดูแล้ว ทุกเวปยืนยันว่า มาดอนน่า ลิลลี่ ต้องมีสีขาวเท่านั้น ก็เลยไม่แน่ใจว่าเป็นลิลลี่ชนิดใด กลิ่นหอมแรงน้อยกว่าสีขาว

 

ดอกฟร็อก (Phlox) มีหลายชนิด ตั้งแต่ต้นเตี้ยระพื้น ไปจนถึงต้นสูงเทียมอก แบบเตี้ยเคยเอามาให้ชมแล้ว ดูได้ที่นี่่ค่ะ

http://www.bansuanporpeang.com/node/26587

ในสวนของอ้อยหวานมีอยู่ 3 สี

 

มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ช่อหนึ่งบานเป็นเดือน เพราะดอกดกมาก

 

ดอกเก่าร่วงก็มีดอกตูมมาบานใหม่ตรงที่เดิม

 

ไร้แมลงรบกวน มีแต่ขยายใหญ่ขึ้นทุกปี จนต้องขุดแยกและแจกไปหลายบ้าน

 

ออกดอกกันดกมากอย่างนี้ทุกปี อายุก็ร่วม 20 กว่าปีกันทุกต้น

 

เพอเพิล คอนร์ฟลาเวอร์ (Purple Coneflower) ก็เช่นเดียวกับ บราว์ อาย ซูซาน (Brown eye Susanne) เป็นไม้ดอกที่ปลูกง่ายขึ้นง่าย ปลูกครั้งเดียวต้นเดียว ขยายพันธ์เอง ขึ้นเองทุกปี

 

ผึ้งและแมลงสร้างสรรให้อีก ปีนี้เยได้แบบใหม่ ดูแปลกตา

 

ทุกๆเช้าอ้อยหวานจะต้องออกมาเดินดูสวน ดูดอกไม้ ก่อนจะไปทำอย่างอื่น ทำให้มีความสุขและอิ่มอกอิ่มใจ นี่แหละที่เขาเรียกกันว่า การบำบัดด้วยดอกไม้  (flower therapy) ทุกเย็นก็เดินจงกรมอยู่ในสวน ได้กลิ่นหอม รับรูปสวย ขอบคุณมาก..ดอกไม้

 

 

ขอให้เพื่อนๆมีแต่ความสุข

 

ขอบคุณค่ะ

 

 อ้อยหวาน

 


ดอกไม้ให้แม่.. ดอกไม้จากแดนไกล

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

 

 

ดอกไม้ให้แม่.. ดอกไม้จากแดนไกล

 

 

เก็บดอกไม้ ในสวน นำมาร้อย                 แล้วค่อยค่อย บรรจงแต้ม แต่งสีสรร

 

 

เติมความรัก ความคิดถึง ใส่เข้ากัน          เป็นของขวัญ ฝากให้แม่ จากแดนไกล

 

 

ดอกโบตั่น ที่แม่ ชมว่าสวย                   ดอกร่ำรวย กลีบหวาน ชวนหลงใหล

 

 

จะสีเหลือง หรือชมพู งามสุดใจ             ลูกเก็บมา ไว้ให้ แม่เชยชม

 

 

ดอกลิลลี่ หลากสี  ที่หอมหวล            ส่งกลิ่นอวล ฟุ้งไป ไกลสุดฝัน

 

 

ให้รอบตัว ของแม่หอม ทุกทุกวัน        หลับก็ฝัน ถึงคืนวัน อันสวยงาม 

      

 

เก็บดอกน้อย ดอกนิด เอามาร้อย        ให้เป็นสร้อย แทนใจ คนไกลบ้าน

 

 

อยากให้แม่ เก็บเอาไว้ ดูนานนาน       ให้เบิกบาน และสุขใจ ทุกเช้าเย็น

 

 

อธิษฐาน แล้วก้ม ตัวลงกราบ              ให้แม่ทราบ ว่าลูกหวง ห่วงเสมอ

 

 

จนกว่าจะ ถึงวันได้ กลับมาเจอ              คงต้องเพ้อ ส่งดอกไม้ ไปให้แทน

 

 

ส่งมาลัย พวงน้อย แทนคำรัก            ที่ทอถัก แทนใจ อาลัยหา

 

 

มาลัยน้อย แทนตัวลูก ทุกเวลา          เพื่อบอกว่า รักแม่ แน่แท้..เอย

 

 

ด้วยรักและคิดถึง

 

จากลูก

 

อ้อยหวาน

 

 

 

 

 

 

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

ชีวิตที่สมดุล…ไม่ต่างจาก… หินที่สมดุล

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

 

ทุกๆเช้าที่อ้อยหวานออกไปปั่นจักรยาน ถึงแม้จะเป็นการออกกำลังกาย แต่อ้อยหวานจะออกจากบ้านไปเหมือนไปปั่นจักรยานเที่ยว มีวางแผนเส้นทาง จะ 25  หรือ 30 หรือ บางครั้ง 45 กิโล จะเลี้ยวซ้าย ขวาหรือตรงไป ริมแม่น้ำหรือ ริมคลอง ทำให้สนุกมาก

ถึงแม้ว่าเส้นทางเล่านี้เคยผ่านมานับไม่ถ้วน

 

เช้านี้ก็เช่นเคย จุดหมายปลายทางที่ผ่านมา ผ่านไป นับไม่ถ้วน ตรงจุดนี้ที่ใจรัก ต้องหยุดแวะทุกๆครั้ง ครั้งละนานๆ

 

ประติมากรรมหินสมดุล (Rock Balance)

อ้อยหวานเคยพามาชมเมื่อปีที่แล้ว อ่าน..พาไปดูหินธรรมดาๆที่ไม่ธรรมดาได้ที่นี่่ค่ะ

http://www.bansuanporpeang.com/node/23739

 

จุดนี้ที่เป็นจุดๆเดียวกับที่คน อีกคนหนึ่งชอบและหลงรัก 

 

จอห์น เฟลิส เซปราโน (John Felice Ceprano) อาชีพนายพยาบาล งานอดิเรก ประติมากรรมหินสมดุล (Rock Balance) พอหิมะละลาย และเริ่มฤดูใบไม้ผลิของทุกๆปีจอห์นมาทำหินสมดุลของเขาเงียบๆ ทีละอัน สองอัน

 

ขอบคุณภาพจาก นสพ ออตตาวา ซิตี้เซ็น

 

เมื่อหมดฤดูหนาวแล้ว อ้อยหวานก็ปั่นจักรยานมาชมเงียบๆ ทุกๆปี เดือนแรกๆอาจจะมีไม่มากนัก

 

แต่ในเดือนสิงหาคมของทุกปี เมืองออตตาวาจะมี  งานประติมากรรมหินสมดุลโดยมีจอห์นเป็นหัวเรี่ยวหัวแรง เชื้อเชิญเพื่อนๆร่วมอุดมการจากหลายๆประเทศ มาร่วมกันสร้างสรร และมีเทศบาลเมืองออตตาวาเป็นผู้สนับสนุน

 

กว่าจอห์นจะมาถึงจุดนี้ได้ ใช้เวลาสิบกว่าปี

หลายคนรวมทั้งอ้อยหวาน ซาบซึ้งในงานศิลปของเขา

 

แต่หลายคนไม่ บางคน (ที่ไม่มีหัวสร้างสรร) ก็หัวเราะเยาะ ปากก็ว่า ไร้ประโยชน์ เปลืองที่ เปลืองเวลา และเปลืองเงิน

 

ในขณะที่อีกบางคน (ที่ไม่มีหัวสร้างสรรเช่นกัน) ก็ต่อต้าน หาว่าเขาทำลายธรรมชาติ อ้างประเด็นแบบเดียวกับ สวนสัตว์ว่าก้อนหินควรจะอยู่ตามที่ทางของมัน

 

ความคิด ความเห็น ที่แตกต่างกันมีอยู่ในทุกๆมุมโลก เพราะมนุษย์เราชอบมองแค่จุดเดียว ด้านเดียว หรือมุมเดียว โดยเฉพาะมุมที่ตัวเองคุ้นเคย แล้วก็ก็ตัดสินลงไปว่า ถูกหรือผิด

 

โชคดีที่ที่นี่เขามีการเปิดโอกาสให้บุคคลทุกๆฝ่าย ตั้งแต่ผู้เชี่ยวชาญ นักธรรมชาตินิยม ไปจนถึงบุคคลธรรมดาทั่วๆไป ให้ได้แสดงความคิดเห็น มีการชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสีย ไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่จะคิดถึงชนส่วนรวมเป็นหลักใหญ่

 

แล้วจอห์นได้สิทธิในการทำงานศิลปของเขาที่นี่ ริมแม่น้ำออตตาวา และยังได้รับการสนับสนุนจากเทศบาลเมืองออตตาวาด้วย

 

ทั้งหมดนี้เขาไม่ได้อะไรเป็นสิ่งตอบแทนเลย นอกจากความสุขใจ แต่เจ้าตัวบอกว่า

ในทุกๆวัน..ได้เปิดโอกาสให้ผมได้สร้างสรร และได้ให้บางสิ่งบางอย่างแก่โลก

‘Every day is an opportunity to produce something, to contribute something.’

 

ศิลปะของการสมดุลหินก็เหมือนกับศิลปะของการสมดุลของชีวิต

ในชีวิตประจำวันของเราต้องมีการดูแลและรักษาความสมดุล ความสมดุลทางกายภาพ  (Physical balance) ความสมดุลทางจิตใจ (Mental balance) และ ความสมดุลทางจิตวิญญาณ (Spiritual balance) เพื่อให้ชีวิตดำเนินไปอย่างราบเรียบ และเป็นสุข

 

ความสมดุลทางกายภาพ  (Physical balance) กินดี อยู่ดี พักผ่อนนอนหลับดี และออกกำลังกายดี

 

ความสมดุลทางจิตใจ (Mental balance) พักผ่อนหย่อนใจดี คลายความเครียด ส่วนความสมดุลทางจิตวิญญาณ (Spiritual balance) คือการทำสมาธิ และวิปัสสนา

 

การทำสมาธิ ช่วยให้ใจตั้งมั่น มีสติ จิตใจที่ตั้งมั่น มีสติ จะไม่หวั่นไหว สั่นคลอนได้ง่าย

 

การวิปัสสนา ช่วยเปิดประตูใจให้ยอมรับความจริง ยอมรับกฎธรรมชาติ ไม่ฝืนธรรมชาติ

 

บ่อยครั้งที่ คลื่น สายน้ำ แรงลม มรสุม หรือในชีวิตเราก็คงจะเป็นสิ่งที่มากระทบ ตั้งแต่ โกรธ เกลียด เจ็บป่วย การสูญเสีย และความพลัดพราก หินบางก้อนอาจจะเคลื่อน ถ้าเคลื่อนมากก็ทำให้เสียศูนย์ หรือเสียสมดุล ทำให้หินทุกก้อนหล่นคลืนกองกับพื้น

 

แต่คนที่มีความสมดุลทางจิตวิญญาณจะหลุกขึ้น ..ปัดแข้งปัดขา แล้วเริ่มก่อหินขึ้นอีกในทันทีทันใด

 

คนที่มีความสมดุลทางจิตวิญญาณน้อยหน่อย ก็จะใช้เวลามาก เริ่มตั้งแต่ใจที่หวั่นไหว สั่นคลอนอยู่ตลอดเวลา โดนโน่นนิด นี่หน่อย ก็กระเด้ง กระดอน เป็นลูกปิงปอง ใจที่ไม่ตั้งมั่น ก็จะไม่มองเห็นความจริง ไม่ยอมรับธรรมชาติ ทำให้เสียศูนย์ หรือเสียสมดุลอยู่ตลอดเวลา

 

สำหรับอ้อยหวานก็อยู่ในระหว่างการเรียนรู้และปฎิบัติ ทั้งศิลปะของการสมดุลหินและศิลปะของการสมดุลของชีวิต

ศิลปะของการสมดุลหินเป็นการช่วยฝึกสมาธิ ฝึกใจให้ตั้งมั่น ฝึกใจไม่ให้กระเด้ง กระดอน เหมือนลูกปิงปอง เมื่อโดนกระทบ

 

 

อ้อยหวานเริ่มจากการเก็บหินเลยทีเดียว เก็บอย่างนี้ทีละก้อน ทีละก้อน หินแม่น้ำเกลี้ยงเกลา ด้วยการขัดเกลาจากกระแสน้ำ การได้สัมผัสหิน ดิน ช่วยให้ใจเปิดรับธรรมชาติ

 

เวลาวางหินทีละก้อนให้ซ้อนและสมดุลกัน ช่วยให้มีสมาธิ ช่วยใจให้ตั้งมั่นและมุ่งมั่น เวลาเห็นหินล้มครืนลงกับพื้น ช่วยเปิดใจให้ยอมรับความเป็นจริง

 

ประติมากรรมหินสมดุลทุกชิ้น ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ จะมีค่าเท่ากันหมด คือ ประมาณค่ามิได้ มันอยู่ที่ใจล้วนๆ

 

ขอให้เพื่อนๆมีแต่ความสุข

 

ขอบคุณค่ะ

 

 อ้อยหวาน

 

 

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 

 

 

บทความในบล็อกนี้ อ้อยหวานขออุทิศให้แก่ย่าผู้เป็นที่รักยิ่ง

 

ย่าจากไปอย่างสงบในวันที่ 12 สิงหาคม ที่ผ่านมา ด้วยอายุ 102 ปี กับ 6 เดือน

ในช่วงชีวิตของย่าได้ผ่านลม คลื่น มรสุม หรือสิ่งกระทบ หลายครั้งนับไม่ถ้วน บางครั้งก็ทำให้หินสมดุลของย่าล้มระเนระนาด แต่ย่าก็ค่อยก่อขึ้นมาใหม่ทุกๆครั้ง

จวนจนครั้งนี้ครั้งสุดท้าย หินทุกก้อนได้กลับคืนสู่สภาพเดิม สู่ธรรมชาติ

เหลือไว้แต่ความทรงจำของลูกๆ หลานๆ เหลนๆ ทุกคน

 

 

 

ชีวิตนี้เปรียบเหมือนละครโรงใหญ่

เรานั้นไซร้คือตัวละคร

เมื่อถึงตอนละครปิดฉากลง

ขอจงโค้งรับเสียงตบมือ

 

 

 

 

 

ถึงคราอ้อยหวานส่งการบ้าน

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

 

 

วันนี้มาส่งการบ้านค่ะ

หมาลัคกี้ทำหน้าไม่ไว้วางใจวัตถุประลาด ที่โดนแม่บังคับให้ถ่ายรูปด้วย

น้ำเต้าขาควาย สัญชาติแคนนาดา เมล็ดแม่มาจากอุบล แต่เจริญเติบโตที่แคนนาดา นี่ขนาดหน้าร้อนปีนี้อากาศไม่ค่อยจะดี อากาศค่อนข้างเย็น ที่เมืองไทยคงจะเรียกว่าหนาว บางคืน 12 องศา แต่น้ำเต้าขาควายก็สู้ตาย

 

ต้นเลื้อยไปทั่ว ราวตากผ้าก็โดนยึด เพื่อนบ้านทั้งข้างๆและข้างหลัง ก็โดนรุกราน คุณเพื่อนบ้านเลยยกชิงช้าของลูกสาวให้น้ำเต้าขาควายปีน คุณเธอบอกว่า ดอกเยอะดี แล้วน้ำเต้าก็ได้ชื่อใหม่‘buffalo leg’ ก็โก อินเตอร์แล้วนี่

 

รออยู่นานมีแต่ดอก ไม่มีลูกสักที เลยต้องช่วยผสมเกสร ไม่อย่างนั้นอดกิน

พอติดลูก ก็โตวันโตคืน

 

แล้วน้ำเต้าก็แปรสภาพเป็น..ต้มจืดน้ำเต้าขาควายยัดไส้

ขอบคุณค่ะป้าเล็ก

 

ดอกชมจันทร์ ดอกใหญ่ และหอมมาก

 

ตอนนี้เพิ่งออกดอก อีก 2 อาทิตย์ คงจะบานเต็ม

ขอบคุณ คุณบุญชู

 

ดอกลำโพง ปลูกทั้งหมด 4 ต้น ทั้งในสวนและในกระถาง

 

ต้นสูง ออกดอกเต็มต้น หอมมากมาย

ขอบคุณ น้องอ๊อด

 

ดอกคำฝอย ปลูกครั้งแรกไม่รอดเพราะพิษแม่คนิ้ง

 

เลยเพาะใหม่ ตอนนี้มีดอกให้ชมแล้ว

ขอบคุณ คุณจันทร์ปราง

 

อัญชันปลูกในกระถาง หน้าหนาวจะได้ยกเข้าบ้าน

 

เก็บดอกจิ้มน้ำพริกไปหลายรอบแล้วค่ะ

ขอบคุณ คุณอู๊ด'จะนะ

 

งาม้อนขาว ปลูกไว้หลายต้น แต่ละต้นสูงถึงเอว ยังไม่มีวี่แววว่าจะออกดอก

ขอบคุณ คุณโรส

 

แตงร็อคเมล่อน รอดตายจากแม่คนิ้ง มีแต่ใบกับดอกให้ชม ปีหน้าจะลองปลูกใหม่ค่ะ

ขอบคุณ คุณไก่

 

ผักปลังออกดอกมากมาย พร้อมยอดน้ำเต้า ยอดเสาวรส

ได้วิธีทำเครื่องแกงส้มแบบคนใต้ ดั้งเดิมของแท้ จากคุณเสิน    

 

 ขอบคุณ คุณเสินค่ะ แกงส้มปลาซาลมอล รสจัดจ้าน ถึงใจ เผ็ดน้ำตาไหล

 

ส่วนที่สอบตก ก็มีค่ะ

ถั่วกาหยี ของคุณมานะ ขวัญซ้าย เพาะ 3 รอบ ไม่งอกเลยค่ะ สงสัยจะหนาวเกินไป ส่วนมะเขือยักษ์ของคุณแดง อุบล และมะเขืออ้อล้อของป้าเล็ก งอกและโตแบบกลัวหนาว เล็กๆเหลืองๆ น่าสงสารมาก หน้าร้อนปีนี้อากาศเย็นจริงๆค่ะ

 

เมล็ดอื่นๆที่อ้อยหวานยกมือขอไว้ ต้องรอปีหน้าแล้วค่ะ เพราะหมดฤดูเพาะปลูกแล้ว

ขอขอบคุณทุกๆคนมากค่ะ สำหรับน้ำใจ ไมตรี ที่มอบให้แก่กันและกัน

 

 

ขอให้เพื่อนๆมีแต่ความสุขค่ะ

 

ขอบคุณค่ะ

 

 อ้อยหวาน

 

 

 

 

วันนี้สองล้อครอง

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

 

ในช่วงฤดูร้อน ทุกๆเช้าวันอาทิตย์ อุทยานแห่งชาติที่ที่อยู่ใกล้บ้านของอ้อยหวาน จะปิดถนนภายในอุทยานไม่ให้รถเข้า แต่อนุญาตให้เพียง 2 ล้อ ..2 ขา สเก็ต หรีอสกีล้อ เท่านั้น

 

ขับรถออกจากบ้านไป 14 กิโล จอดรถไว้ตรงที่จอดรถตรงทางเข้า แล้วสองขาก็ปั่นสองล้อเข้าไป

 

ถนนภายในอุทยานเงียบสงบ ไม่มีเสียงรบกวนใดๆ ไม่มีกลิ่นควันจากเครื่องยนต์ ไม่มีมลพิษใดๆ มีแต่เสียงและกลิ่นของธรรมชาติล้วนๆ

 

อ้อยหวานได้ยินเสียงจากต้นไม้ จากป่าไม้ เป็นเสียงที่ได้ยินจากใจ ไม่ใช่ด้วยหู  หวัดดีจ้ะ ขอให้มีความสุขนะจ้ะ ไม่ได้เพี้ยน แต่ได้ยินและรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ

 

มากันตั้งแต่ 6 โมงเช้า เลยยังไม่ค่อยมีใคร พอสายหน่อยก็เริ่มมีคนทยอยกันมา ถนนขึ้นเขาลงเขาตลอด จะเล่นสเก็ตอย่างนี้ได้ต้องเก่งมากๆ

 

ขนาดปั่นจักรยานยังต้องหยุดพักบ่อยๆ ดอกไม้ริมทางของชอบของอ้อยหวาน ต้องหยุดแวะทักทาย

 

ไทม์ป่า (wild thyme) ออกดอกกันเหมือนมีงานเลี้ยง

 

สีสวยสุดใจ ดอกนิดดอกน้อย มีขนาดเท่าหัวเข็มหมุดเท่านั้น

 

แต่พอบานกันเยอะก็โดดเด่น งดงาม ไม่แพ้ใคร

 

บางช่วงก็มีดอกหญ้า Bladder Campion’  ขึ้นแซม

 

ดอกเดซี่ ก็มีให้ชื่่นชม

 

ดอกของต้น ‘Eastern Hornbeam’ หรือ ‘Ironwood’ สวยเต็มต้น

 

ห่านแคนนาขึ้นมาเดินป้วนเปี้ยนอย่างไม่กลัวรถ

 

ส่วนในน้ำก็ว่ายน้ำกันสุขใจ

 

มีทั้งพวกมีปีกและพวกมีล้อ ขณะนี้สองขาเท่าเทียมกัน ป้ายเขียนบอกเตือนว่า เที่ยงตรงจงตื่นจากฝัน เพราะถนนจะเปิดให้รถราอีกครั้ง จนกว่าวันอาทิตย์หน้า..

 

ทางคดเคี้ยวผ่านป่าเขา

 

โค้งแล้วโค้งเล่า พวกเล่นสเก็ตและสกีล้อ ก็ไม่ย่อท้อ ต้องแข็งแกร่งจริงๆถึงจะทำได้

 

พอสายหน่อย คนก็มากขึ้น ทั้งเดิน ทั้งวิ่ง ทั้งปั่น ขาดอย่างเดียวคือมลพิษ

 

ใครใคร่ทำสิ่งไหนทำไป  แต่จอดเครื่องทุกอย่างไว้ ทางเข้าอุทยานมีหลายทางและมีที่จอดรถไว้ทุกจุด

 

ยิ่งสูงขึ้น ป่าก็ยิ่งหนาทึบ

 

แล้วเราก็มาถึงจุดสูงสุด

 

กับวิวงามๆเป็นรางวัล

 

มีเพื่อนร่วมรับรางวัลมากมาย

 

ต้นไม้ ดอกไม้ สัตว์ และธรรมชาติทั้งหลาย ได้ฝากคำร้องผ่านอ้อยหวานมาถึง ผู้มีอำนาจ หรือรัฐบาลทั้งหลาย หากมีวันอย่างนี้อาทิตย์ละวัน หรือครึ่งวัน หรือหลายวัน ...ธรรมชาติจะขอบคุณ

ทรัพยากรน้ำมันไม่ใช่ว่ามีใช้ตลอดไป ไม่มีวันหมดจากโลก อย่านิ่งนอนใจ จนสายเกินแก้ไข

 

 

ขอให้เพื่อนๆมีแต่ความสุขค่ะ

 

ขอบคุณค่ะ

 

 อ้อยหวาน

 

 

ฟ้าใส…ในสวนสวย

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

 

เช้านี้อ้อยหวานจะพาไปปั่นจักรยานไปชมสวนค่ะ

สวนใหญ่ของเมืองออตตาวาแห่งนี้ อ้อยหวานเคยพาไปดูดอกแม็กโนเลีย

ดูได้ที่นี่ค่ะ http://www.bansuanporpeang.com/node/26464

และ ดอกแคร็ปแอ็ปเปิล” (crabapple) ดูได้ที่นี่ค่ะ http://www.bansuanporpeang.com/node/26488

 

ในฤดูร้อนดอกไม้ในสวนใหญ่จะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มพืชล้มลุก (Annual) ที่ต้องปลูกใหม่ทุกๆ ปี และพวกพืชยืนต้น (Perennial) ที่ปลูกครั้งเดียว พอหมดหนาวก็จะงอกขึ้นมาเอง

 

ที่สวนนี้เขาจะปลูกแยกกันคนละแปลง เพราะจะง่ายต่อการดูแล อันนี้เป็นแปลงดอกไม้ล้มลุก จะอยู่รวมกันด้านนอก

 

แปลงนี้ปลูกดอกเจอเรเนียม (Geranium) หลากสี

 

แปลงนี้ปลูกดอกเจอเรเนียมสลับกับหงอนไก่??

 

โทมส้มก็งามสดใส

 

ขาว ชมพู ส้ม

 

หยาดน้ำค้างแพรวพราว

 

บางแปลงก็ผสมสีกันแปลกตา สีส้มกับสีม่วง

 

ดอกคลีโอมี หรือ ดอกไม้แมงมุม (Cleome or Spider Flower)

 

มีหลายขาจริงๆ แต่อ้อยหวานว่าเหมือนหนวดปลาหมึก

 

ส่วนเจ้านี่อ้อยหวานตั้งชื่อให้ว่า แปรงม่วง

 

ทางด้านในก็จะเป็นพวกพืชยืนต้น (Perennial)

 

เขาปลูกแซมกันได้เหมาะเจาะมาก พอต้นนี้หมดดอกก็จะมีต้นข้างที่มีดอกบาน ทำให้มีดอกไม้บานตลอดฤดูร้อน

 

คนสวนของที่นี่ต้องใช้รถคันเล็กๆ เพราะสวนกว้างมาก

 

ดอกแคมพานูลา (Campanula) ชูหน้ารับแดด

 

เพอเพิล คอนร์ฟลาเวอร์ (Purple Coneflower) อีกพันธ์หนึ่ง สีสวยมาก

 

อันนี้ก็ เพอเพิล คอนร์ฟลาเวอร์  สวยแปลกตาจริงๆ

 

และอีกหลายดอกที่อ้อยหวานไม่รู้จักชื่อ

 

อันนี้ดอกเหมือนพัดสวยๆ

 

มานั่งพักตรงมุมโปรด สนต้นนี้อายุเกือบร้อย

 

ส่องบนต้น ก็สวยได้ใจจริงๆ

 

 

ขอให้เพื่อนๆมีแต่ความสุขค่ะ

 

ขอบคุณค่ะ

 

 อ้อยหวาน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ดูดอกแล้วต้องดูผล…แอ็ปเปิลพันธ์ดอก

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

 

อ้อยหวานเคยเอาแอ็ปเปิลพันธ์ดอก หรือ แคร็ปแอ็ปเปิล มาให้ดูแล้ว

http://www.bansuanporpeang.com/node/26488

วันนี้ถึงคราวลูกแคร็ปแอ็ปเปิลบ้าง

 

เช้านี้อ้อยหวานปั่นจักรยานไปที่สวนใหญ่ของเมืองออตตาวาอีกครั้ง แคร็ปแอ็ปเปิลกำลังสุก

 

แต่ละต้น ออกลูกกันเต็มต้น

 

แต่ลูกเล็กมาก ต้องดูใกล้ๆถึงจะมองเห็น

 

ที่สวนใหญ่นี้มีแคร็ปแอ็ปเปิลถึง 350 ต้น 100 สายพันธ์

 

มีหลายสี

 

หลายแบบ

 

หลายขนาด

 

พันธ์นี้ขนาดใหญ่สุด

 

ขนาดใหญ่รองลงมา

 

เลยเก็บเอามาเปรียบเทียบให้ดูกัน

 

 

 

 

 

 

 

แต่ส่วนมากจะฝาดและแข็ง กินไม่ได้เลย

 

แต่มีอยู่ต้นหนึ่งในป่าข้างบ้าน ที่อ้อยหวานไปเก็บมากินทุกปี

 

ปีก่อนๆเก็บมานิดหน่อย แต่ปีนี้ต้องการเอามาทำน้ำหมัก

 

เหลือไว้นิดหนึ่งไว้กินสด ล้างแล้วผ่าเอาเม็ดออก

 

ราดด้วยน้ำปลาหวาน ขอบอกว่า..ส้มแขกต้องยกมือไหว้แล้วเรียกว่าพี่

เพราะว่าเปรี้ยวสุดใจ ถ้วยนี้กินทั้งวันก็ไม่หมดค่ะ

คนที่นี่เก็บมาทำแยมกินกับขนมปัง หอมอร่อย

 

ขอให้เพื่อนๆมีแต่ความสุขค่ะ

 

ขอบคุณค่ะ

 

 อ้อยหวาน

 

 

 

 

 

 

 


ปั่นจักรยานเที่ยวเมืองออตตาวา แคนนาดา แบบเจาะลึก

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

 

 

วันนี้มาพาเพื่อนๆไปปั่นจักรยานเที่ยวเมืองออตตาวาแบบเจาะลึกค่ะ

 

สำหรับเพื่อนบล็อกและสมาชิกใหม่หลายคน คงจะไม่ทราบว่า อ้อยหวาน เป็นคนไทยพลัดถิ่น อาศัยอยู่ที่เมืองออตตาวา แคนนาดา มา 26 ปีแล้ว เมืองออตตาวาเป็นบ้านเกิดของคุณผู้ชายที่บ้านและลูกๆทั้ง 2 คน เป็นเมืองที่อ้อยหวานรักพอๆกับบ้านเกิดของตัวเอง

 

 เมืองออตตาวา เป็นเมืองหลวงของแคนาดา และเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของประเทศ มีปักกิ่งและไคโร เป็นเมืองพี่สาวเมืองน้องสาว  (Sister cities)

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับเมืองออตตาวา ได้ที่นี่

http://en.wikipedia.org/wiki/Ottawa

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับเมืองพี่เมืองน้อง (Sister cities)ได้ที่นี่

http://en.wikipedia.org/wiki/Sister_Cities_International

ส่วนกรุงเทพฯ มีเมืองพี่สาวเมืองน้องสาว (Sister cities) เยอะมาก มีถึงยี่สิบสามเมือง ใน 15ประเทศ มีเมืองอะไรบ้างดูได้ที่นี่ค่ะ

http://en.wikipedia.org/wiki/Bangkok

 

 ออตตาวาเป็นเมืองสำหรับจักรยานจริงๆค่ะ มีเส้นทางสำหรับจักรยานโดยเฉพาะ ถึง 200 กว่ากิโลเมตร กระจายไปทั่วเมือง แผนที่เมืองออตตาวา (ขอบคุณ Google map) เส้นสีเขียวคือเส้นทางสำหรับจักรยาน

 

วันนี้มีแผนพาเพื่อนๆไปปั่นจักรยานแบบเจาะลึก นั่นหมายถึง 40 กว่ากิโล เตรียมน้ำและข้าวเช้าไปกินระหว่างทางด้วยนะค่ะ

ออกจากบ้านแต่เช้า ถนนหน้าบ้านมีต้นโอ๊คใหญ่ 2 ข้างทาง ให้ร่มเงา

 

 ผ่านคลองริโดว์ ที่ในฤดูหนาวจะกลายเป็นลานเสก็ตน้ำแข็งกลางแจ้งที่ยาวที่สุดในโลก 10 กิโลเมตร ดูได้ที่นี่ค่ะ

 http://www.bansuanporpeang.com/node/25803

มีทางจักรยานขนาบทั้งสองฝั่งคลอง

 

เลียบคลองมาจนสุดก็ถึงสวนที่อ้อยหวานเคยพามาชมเทศกาลดอกทิวลิป ดูได้ที่นี่ค่ะ

http://www.bansuanporpeang.com/node/26473

 

 หมดทิวลิปเขาก็ปลูกดอกไม้อย่างอื่นแทน

 

 ปั่นมาสักกิโล ก็มาถึงสวนใหญ่ที่อ้อยหวานพามาเที่ยวบ่อยๆ ดูได้ที่นี่ค่ะ

http://www.bansuanporpeang.com/node/27149

http://www.bansuanporpeang.com/node/26511

แต่วันนี้จะเลาะเลียบข้างๆสวน ไปจนถึงส่วนหลัง

 

 ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานีวิจัยส่วนกลางของรัฐบาล ในสังกัดกรมวิชาการเกษตร ที่นี่มีแปลงทดลองปลูกพืชกว้างมากๆ

 

 แปลงนี้เป็นข้าวโพดกับ..อ้อยหวาน คิดว่าถั่วลิสง 

 

ปั่นมาเรื่อยผ่านทุ่งหญ้าทุ่งดอกไม้ป่า เส้นทางจักรยานจะมีป้ายบอกทางอยู่ตลอดเส้นทาง

 

 ดอกไม้ริมทางของชอบของอ้อยหวาน ถึงเวลาจอดนาน

 

ต้นเทียนหิมาลัย หรือเทียนอินเดีย (Himalayan Balsam or Indian Balsam)

 

หรืออีกชื่อหนึ่งที่แสนจะโรแมนติค Kiss-me-on-the-mountain….จูบฉันบนดอย

 

 ไม่ใช่พืชท้องถิ่นของแคนนาดา แต่เติบโตได้ดีมาก

 

 มีตั้งแต่สีชมพูอ่อนจนเกือบขาว

 

 ไปจนถึงสีชมพูแก่หรือสีบานเย็น

 

ดอกแอสเตอร์กับดอกสร้อยทอง มีให้ดูเต็มทุ่ง

 

แอสเตอร์เป็นพืชตระกูลใหญ่ มีทั้งหมดเกือบ 600 สายพันธุ์

 

 

 แอสเตอร์อีกพันธ์หนึ่ง ออกดอกได้ดกมากๆ

 เทวดาดูแลได้ดีมาก ดอกไม้ริมทางจึงสวยงาม

 

 

 เต็มไปด้วยผึ้ง

 

 ดอกธิสเทิล (thistle)

 

 เป็นพืชที่มีหนามเต็มใบและต้น

 

เห็นไหม เจอดอกไม้ริมทางแล้วต้องจอดนานจริงๆ ต้องต่อบล็อกหน้าแล้วค่ะ

 

ขอให้เพื่อนๆมีแต่ความสุขค่ะ

 

ขอบคุณค่ะ

 

 อ้อยหวาน

 

 

 

 

 

 

 

 

ปั่นจักรยานเที่ยวเมืองออตตาวา แคนนาดา แบบเจาะลึก (ตอน 2)

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

 

วันนี้มาพาเพื่อนๆไปปั่นจักรยานเที่ยวเมืองออตตาวาแบบเจาะลึกกันต่อค่ะ อ่านตอนแรกได้ที่นี่ค่ะ http://www.bansuanporpeang.com/node/27214

บางช่วงทางจักรยานจะผ่านป่าเล็กป่าน้อย ลำแสงเช้าทำให้งดงามมาก

 

เช้าๆอย่างนี้การจราจรคับคั่ง ผู้คนเร่งรีบไปทำงาน

 

แล้วเราก็มาถึงแม่น้ำออตตาวา แม่น้ำสายกว้างที่สุดในเมืองออตตาวา แวะกินกล้วยหอมกับแอ็ปเปิลตรงนี้ น้ำใสดุจกระจกเงา

 

ริมน้ำมีดอกไม้ป่าขึ้นอยู่เต็ม

 

วกกลับเข้าเมืองโดยเลียบริมน้ำมาเรื่อยๆ แล้วก็ถึงจุดนี้ ประติมากรรมหินสมดุล (Rock Balance) อ้อยหวานเคยพามาชมแล้วดูได้ที่นี่ค่ะ http://www.bansuanporpeang.com/node/27045

แต่วันนี้ไม่แวะ เราจะไปแวะชมรัฐสภาในเมืองกัน ในรูปถ้ามองออกไปไกลๆ อาคารทีมีโดมยอดแหลมและหอนาฬิกา

 

มาถึงในเมืองแล้วค่ะ อ้อยหวานพาปั่นจักรยานอ้อมตั้ง 30 กว่ากิโล ที่จริงจากบ้านมาถึงในเมืองแค่ 6-7 กิโลเอง

หลายๆจุดในเมืองจะมีเครื่องให้เช่าจักรยาน แต่ต้องมีบัตรเครดิตสอดในเครื่อง เครื่องจะจำข้อมูลทั้งหมดรวมทั้งจดเวลา แล้วเครื่องก็จะคืนบัตรเครดิตและปลดล็อกจักรยาน เครื่องแบบนี้จะมีอยู่เกือบทุกจุดที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว พอเราสอดจักรยานคืน เครื่องจะคิดเงินในบัตรเครดิตตามเวลาที่เราใช้จักรยาน สามารถคืนจักรยานได้ทุกแห่งที่มีเครื่องอย่างนี้ เขามีติดตั้งเครื่องเล็กๆไว้กับจักรยาน ซึ่งสามารถจะตรวจดูได้ว่าจักรยานของเขาอยู่ที่ไหน ทำให้หายห่วงเรื่องโดนขโมย

เครื่องนี้อยู่หน้าพิพิธภัณฑ์สงคราม (war museum)

 

เลาะเลียบริมแม่น้ำออตตาวามาเรื่อยๆ จนถึงข้างหลังของเนินเขาที่รัฐสภาตั้งอยู่

 

จุดนึ้คือปลายสุดอีกด้านหนึ่งของคลองริโดว์ ไหลลงสู่แม่น้ำออตตาวา แต่เพราะว่าระดับน้ำต่างระดับกันมาก เรือจะสัญจรไปมาได้จะต้องทำประตูกั้นน้ำเป็นขั้นๆไป ตรงจุดนี้มีถึง 8 ขั้น สร้างขึ้นในปี ค.. 1832 ยังใช้การอยู่ถึงปัจจุบัน  ได้รับการจดทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปี 2007 รูปนี้ถ่ายจากด้านล่างสุดตรงแม่น้ำออตตาวา

อาคารใหญ่เลียบคลองคือโรงแรมสุดหรูและเก่าแก่ของเมืองออตตาวา เปิดบริการเมื่อปี ค.ศ. 1912 ครบ 100 ปีพอดี

 

จากนั้นก็ต้องปั่นขึ้นเนิน รูปนี้ถ่ายจากด้านบนคือคลองริโดว์ มองลงไปที่แม่น้ำออตตาวา มีสะพานเก่าแก่เป็นฉากหลัง

 

เราสามารถเดินผ่านข้ามประตูกั้นน้ำไปฝั่งตรงกันข้ามได้

 

ตรงกันข้ามกับโรงแรมคืออาคารหนึ่งของรัฐสภา วันนี้เราจะแวะไปชมด้านนอกกัน

 

ขึ้นเนินมาจนถึงถนน ก็จะเห็นด้านหน้าของโรงแรม

 

เรียบรั้วรัฐสภา

 

ตึกรัฐสภาและหอคอยสันติภาพ สร้างในปี ค.ศ. 1863

วันนี้เราไม่แวะทักทายท่านนายก หวังว่าเพื่อนๆคงจะไม่ผิดหวังนะคะ

 

รอบๆบริเวณรัฐสภา มองไปทางซ้าย

 

รอบๆบริเวณรัฐสภา มองไปทางขวา

 

ออกจากรัฐสภามาด้านหน้าถนน ก็จะเป็นอนุสาวรีย์ทหารผ่านศึก ทุกประเทศจะต้องมีการสูญเสียให้กับสงคราม

 

กลับมาที่ทางจักรยานเลียบคลอง เพื่อจะกลับบ้าน เรือลำยาวๆคือเรือสำหรับนักท่องเที่ยวชมคลอง แต่อ้อยหวานคิดว่าปั่นจักรยานชมดีกว่าเยอะ จะหยุดจะจอดตรงไหนก็ทำได้ตามใจตน หรือตามใจตู

 

รูปนี้ถ่ายบนสะพานข้ามคลอง เป็นสะพานสำหรับคนเดินและจักรยานโดยเฉพาะ

 

แล้วก็มาถึงเส้นทางจักรยานที่เลียบแม่น้ำอีกสายหนึ่ง ซึ่งเป็นทางกลับบ้านของอ้อยหวาน วันนี้ปั่นจักรยานทั้งหมด 43 กิโลเมตร กลับมาถึงบ้านหิวมากมาย เลยทำให้รู้ว่า คราวหน้าต้องตุนเสบียงให้มากกว่านี้ อันนี้สำคัญมาก

 

อีก 2-3 วัน อ้อยหวานจะไปต่างประเทศค่ะ ไปส่งลูกสาวคนโตเธอจะไปเป็นนักศึกษาแรกเปลี่ยนที่ประเทศอังกฤษเป็นเวลา 1 ปี

และที่แน่นอนคือจักรยานไปด้วย ส่งลูกเข้าหอพัก แล้วไปปั่นจักรยานเที่ยวสัก 2 อาทิตย์ ค่อยกลับมาดูลูกอีก  2-3 วันก่อนกลับบ้าน

กลับมาแล้วจะมีเรื่องเล่าและรูปมาฝากค่ะ

 

ขอให้เพื่อนๆมีแต่ความสุข

 

ขอบคุณค่ะ

 

อ้อยหวาน

 


 

 

 

 

ปั่นจักรยานตามเก็บฝัน ตอน ปั่นขึ้นเขาไม่ได้..แต่เข็นขึ้นได้

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

 

 

อย่ารอให้ภูเขามาหาเรา..จงเดินไปหาภูเขา

- สุภาษิตจีน

 

หากภูเขา เปรียบดัง.. ความสุข

อย่ารอความสุข จงสร้างมัน

หากภูเขา เปรียบดัง..ความสำเร็จ

ลงมือกระทำ อย่ามัวแต่นอนฝัน

หากภูเขา เปรียบดัง..อุปสรรค

ก้าวไปข้างหน้า อย่าท้อถอย สักวันหนึ่งคงได้ไปยืนชมวิวบนภูเขา

ปั่นขึ้นเขาไม่ได้..แต่เข็นขึ้นเขาได้

 

หากภูเขา เปรียบดัง..สาวสวย หรือหนุ่มในดวงใจ

อย่ารอช้า เดี๋ยวใครอื่นจะคว้าไปครอบครอง

 

 

ทางจักรยานที่เราใช้ออกนอกเมืองเช้านี้ เรียบไปริมน้ำ เราจึงได้มาชมท่าน้ำของเมืองอีกครั้ง

คลังสินค้าเก่าแก่สมัยวิคตอเรีย บางหลังถูกดัดแปลงเป็นพิพิธภัณฑ์เส้นทางน้ำ มีทั้งพิพิธภัณฑ์เส้นทางน้ำ พิพิธภัณฑ์ทหารเรือ พิพิธภัณฑ์และอาคารขายของเก่า

 

 

ทางเข้าทางจักรยานที่นี่ เขาทำเครื่องกั้นไว้แคบมาก เพราะไม่ต้องการให้พาหนะอื่นๆมาใช้ทาง บางแห่งเราต้องถอดกระเป๋าออก ถึงจะผ่านไปได้

 


ทางจักรยานเช้านี้เต็มไปด้วยดอกไม้ริมทาง

 

 

ดอกไม้ริมทางของที่นี่ เทียนหิมาลัย หรือเทียนอินเดีย (Himalayan Balsam or Indian Balsam) ดอกเหมือนกับที่แคนนาดา แต่ต้นเตี้ยกว่ามาก ดูเทียนหิมาลัยของแคนนาดา ได้ที่นี่ http://www.bansuanporpeang.com/node/27214

อีกชื่อหนึ่งที่แสนหวานของเทียนหิมาลัย คือ จูบฉันบนดอย…Kiss-me-on-the-mountain….

 


สุดทางเรียบน้ำ เราก็ปั่นไปตามทางจักรยานสาย 45

เครือข่ายทางจักรยานแห่งชาติของอังกฤษ (The National Cycle Network) เป็นผลงานของมูลนิธิ Sustrans มูลนิธิเพื่อ การขนส่งที่ยั่งยืน มูลนิธิ Sustrans นี้ได้รับการสนับสนุนเงินค่าใช้จ่ายจากลอตเตอรี่แห่งชาติ

มูลนิธิ Sustrans ได้จัดทำเส้นทางที่สะดวกและปลอดภัยแก่จักรยาน เป็นเส้นทางทั้งหมด 21,000 กิโลเมตร ทั่วประเทศ ถึงแม้ว่า 70% ของเส้นทางจะอยู่บนถนนที่ต้องใช้ร่วมกับรถยนต์ แต่จะเป็นถนนที่เงียบสงบ มีรถน้อย

 

 

ทุกๆทางแยกมีป้ายกำกับ บอกทางชัดเจน

 


ทิวทัศน์ที่เห็นจนชินตา ในแถบนี้ แต่เป็นครั้งแรกที่เห็นแกะขนด่าง

 


เนินเขาเนินแรกของวัน รูปนี้ถ่ายเมื่อเข็นขึ้นมาถึงกลางเนิน ได้หยุดพักถ่ายรูปสักนิดก็ดีเหมือนกัน

 


วิวบนนี้ สวยสดใส ทำเอาหายเหนื่อยเลย ถึงแม้ท้องฟ้าไม่สดใส แต่เนินหญ้าของที่นี่เขียวสดใสจริงๆ อ้อยหวานขอตั้งชื่อว่า เขียวอังกฤษ

 


ปั่นมาสักหน่อยก็ถึงหมู่บ้านแรก มีอนุสรณ์สงคราม (war memorials) อยู่กลางหมู่บ้าน

 


หลายๆ หมู่บ้านแถบนี้ มีบ้านแบบครึ่งไม้ครึ่งปูน (half-timbered) ให้ชมมากมาย

 


อังกฤษในยุคกลาง มีป่าไม้โอ๊คอุดมสมบูรณ์มาก โอ๊คเป็นไม้ที่นิยมใช้เป็นโครงสร้างบ้านแบบนี้ โอ๊คเป็นไม้ที่ที่แข็งแรงและทนทาน จึงเป็นเหตุให้บ้านและอาคารแบบครึ่งตึกครึ่งไม้ของอังกฤษ มีอายุอยู่เป็นร้อยๆปี

 


บ้านแบบครึ่งไม้ครึ่งปูนนี้ (half-timbered) เขาใช้ไม้สร้างเป็นโครง จากนั้นก็ใช้วัสดุอุดช่องในโครงไม้ให้เต็ม วัสดุที่ใช้ต่างๆกัน ส่วนมากใช้กิ่งไม้ขนาดเล็ก นำมาขัดสานกัน แล้วโปะทับด้วยดินเหนียว จากนั้นโบกปูนปลาสเตอร์ทับด้านบนอีกที บางหลังอาจจะใช้หินหรืออิฐอุดช่องในโครงไม้กัน

 

 

วิธีสร้างแบบนี้ทำให้เห็นโครงไม้เป็นลวดลายสวยงาม

 


กำลังเพลิดเพลินเก็บรูปบ้าน ก็ต้องสะดุ้ง มีใครพ่นลมหายใจอุ่นๆใส่

เจ้านี่เอง แวะมาทักทาย

 

 

ถนนในวันนี้ แสนที่จะรื่นรมย์ ข้างหน้าคือโรงเลี้ยงสัตว์ในฤดูหนาว สร้างแบบครึ่งอิฐครึ่งไม้

มีช่องถ่ายเทอากาศอยู่หลายช่อง

 


ต้นแอ็ปเปิลข้างถนน กำลังสุกเต็มต้น ถึงแม้จะเป็นแอ็ปเปิลป่า ลูกเล็กๆ แต่กลิ่นหอมมาก

 

ของว่างของคนเดินทาง (โดยจักรยาน) สดจากต้น กัดดังกร๊อบ ทั้งหอมทั้งหวาน อาจจะมีรอยแมลงเจาะนิดหน่อย แต่นั่นคือสัญลักษณ์ของความปลอดภัย ไร้สารพิษ เราเก็บใส่กระเป๋า ไว้กินเล่นกันหลายลูก

 


เราแวะชมเมืองเล็กๆระหว่างทาง หอคอยประจำเมืองที่ดูแตกต่างจากที่ผ่านมา

 


ที่เมืองนี้มีบ้านแบบครึ่งไม้ครึ่งปูน (half-timbered) ให้ชมหลายหลัง

 


ในเมืองท่องเที่ยวแบบนี้ก็กลายเป็นโรงแรม ร้านอาหารหรือร้านค้าไปตามวิถี

 


ออกนอกเมืองมา เราก็เห็นจุดหมายปลายทางของวันนี้แต่ไกล

 


ใกล้เข้าไปอีกนิด

 


หลังจากนั้นก็ต้องลงเข็น ระยะแค่ 1 กิโลเมตร แต่ชันมากๆ ต้องเข็นและกดเบร็คมือไปด้วย ก็จักรยานหนักกระเป๋าแบบนี้ มีแต่จะย้อนกลับไปข้างล่างอยู่เรื่อยไป  

1 กิโลเมตรที่เข็น เหนื่อยกว่าปั่น 50 กิโลเสียอีก

 


โชคดีจัง!!! (หรือเปล่า) โรงแรมที่จองไว้ก็อยู่ตรงจุดสูงสุดของเมืองเสียด้วย เลยได้ชมวิวสวยๆ

 


เราเลือกไปชมสวนแทนชมการโบสถ์ ชมหมอกตอนบ่ายแก่ๆ พร้อมสูดอากาศอันบริสุทธิ์

 


ดอกไม้ปลายฤดูร้อน ไฮเดรนเยีย (hydrangea) แบบหนึ่ง ที่จริงจะต้องออกเสียง ไฮเดรนเจีย ไม่ใช่ เยียค่ะ

 


โคมญี่ปุ่นต้นนี้ สูงถึงเอว

 


และอีกหลายดอกที่ไม่ทราบชื่อ

เราไม่ได้เดินชมทั้งสวน เพราะฝนเริ่มลงเม็ดปรอยๆ อากาศก็เย็นลง

 

 

โปรดติดตามอ้อยหวานเล่าเรื่องปั่นจักรยานตามเก็บฝันในตอนต่อไป

 

อ่านปั่นจักรยานตามเก็บฝันที่อังกฤษตอนแรกๆได้ที่นี่่ค่ะ

http://www.bansuanporpeang.com/node/27323

http://www.bansuanporpeang.com/node/27341

http://www.bansuanporpeang.com/node/27359

http://www.bansuanporpeang.com/node/27387

http://www.bansuanporpeang.com/node/27405

http://www.bansuanporpeang.com/node/27428

http://www.bansuanporpeang.com/node/27439

http://www.bansuanporpeang.com/node/27447

http://www.bansuanporpeang.com/node/27460

http://www.bansuanporpeang.com/node/27471

 

ติดตามอ่านปั่นจักรยานตามเก็บฝันที่อังกฤษตอนต่อไปได้ที่นี่ค่ะ

http://www.bansuanporpeang.com/node/27493

 

 

ขอให้เพื่อนๆมีแต่ความสุข

 

ขอบคุณค่ะ

 

อ้อยหวาน

 

 

 

ปั่นจักรยานตามเก็บฝัน ตอน วันที่ฝนโปรยปราย

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

 

 

Life isn’t about waiting for the storm to pass…

It’s about learning to dance in the rain.

ชีวิตไม่ใช่เรื่องของการรอให้พายุฝนผ่านพ้นไป ...

แต่เป็นเรื่องของการเรียนรู้ที่จะเต้นรำท่ามกลางสายฝน

 

ในชีวิตของคนเรา มีกี่ครั้งที่เราต้องเผชิญกับพายุชีวิต เราจะซุกหัวซ่อนตัวอยู่ภายในถ้ำ แล้วรู้สึกเป็นทุกข์ทรมาน อยู่หรือ????

ชีวิตไม่ใช่เรื่องของการรอคอยให้พายุผ่านพ้นไป ไม่ใช่เรื่องของการหลีกเลี่ยงพายุ

ชีวิตเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเรียนรู้ที่จะอยู่กับพายุอย่างมีความสุข ร้องเพลงหรือเต้นรำสนุกกับชีวิต ไม่ว่าสภาพอากาศหรือสภาพรอบตัวจะเป็นเช่นไร

 

 

 

วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการปั่นจักรยานเที่ยวอังกฤษ เป็นวันที่วางแผนไว้น้อย แต่มีแผนให้เลือกมาก วางแผนน้อยคือ ยังไงก็ได้ ตื่นมาเจอสภาวะดินฟ้าอากาศเป็นอย่างไร รู้สึกอย่างไรก็ทำไปตามนั้น

มีแผนให้เลือกมาก ถ้าอากาศดีและรู้สึกดี ก็จะเดินขึ้นเขากัน แล้วขึ้นรถไฟกลับเบอร์มิงแฮม หรืออากาศดีและรู้สึกดี แต่ความอยากปั่นจักรยานมีมากกว่า ก็จะไปจนเกือบถึงเบอร์มิงแฮม แล้วขึ้นรถไฟเข้าเมือง

กลายเป็นว่าอากาศไม่ดีแต่ไม่เลวร้าย พยากรณ์อากาศบอกว่าเปียกแฉะ (wet)แต่อยากปั่นจักรยานไปเรื่อยๆ ถ้าอากาศไม่ดีมากขึ้น ก็ค่อยหาทางขึ้นรถไฟเอาระหว่างทาง

 


ออกมาเดินตอนเช้า เมืองเกร็ท มาลเวินท์ (great malvern) ทั้งเมืองเป็นเมืองในสายหมอก รูปที่เก็บมามีหมอกน้อยกว่าความเป็นจริง

 


ทางขึ้นยอดเขาอยู่ข้างๆโรงแรม ไม่รู้ว่าต้องปีนบันใดไปอีกกี่ขั้น เมื่อคืนฝนคงตกทั้งคืน ทางเปียกและลื่น ไม่เหมาะที่จะเดินขึ้เขาจริงๆ

 


มีเจ้านี่ออกมาเดินกันเต็ม ตัวใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา ยาวเท่าฝ่ามือ

 


 

ฟ้ามืดครึ้ม แต่ก็ไม่ทำให้เราเปลี่ยนใจ หลังอาหารเช้า เราเก็บข้าวของ โดยที่ไม่ลืมใส่เสื้อกันฝนให้เรียบร้อย พอเปิดประตูออกจากโรงแรม ละอองฝนโปรยปรายเล็กๆน้อยๆ พอให้เย็นชื่นใจ กล้องถ่ายรูปทำท่าจะไม่สบายตั้งเมื่อวานนี้ เลยได้หยุดพักในกระเป๋า

เมื่อวานนี้ตอนที่เข็นจักรยานขึ้นเขา ในใจคิดไว้ว่า เช้านี้จะไหลลงเขาให้สนุกเลย แต่ก็แป่วววว เพราะทางทั้งชันทั้งลื่น เดี๋ยวทั้งคนและจักรยานได้กลิ้งไปกองที่เชิงเขา เลยกลายเป็นเข็นครกลงภูเขาอีกครา แต่เข็นลงง่ายกว่าเยอะ ไม่นานเราก็ถึงพื้นราบ

ละอองฝนเป็นฝอยบาง ๆ ไม่ทำให้ปั่นลำบาก แถมให้ความสดชื่นเสียด้วยซ้ำ รู้สึกว่าไม่นานก็ถึงอีกเมืองหนึ่ง

 


รีบเอากล้องถ่ายรูปออกมาเก็บรูปคู่ตรงทางเข้าเมือง เพราะเราอาจจะขึ้นรถไฟกันที่นี่ นั่นหมายถึงหมดเวลาของการปั่นจักรยานสำหรับทริปนี้

 


ทางจักรยานเข้าเมือง มองไปทางไหนก็พบแต่ความสดชื่นเขียวขจีของต้นไม้

 


โบสถ์ใหญ่ของเมือง

 


 

เราแวะชมเมืองไม่ถึงชั่วโมง แล้วตัดสินใจปั่นต่อไปอีกไปเมือง เพราะยังอยากจะปั่นต่ออีกนิด จากนั้นฝนที่แค่เป็นฝอยบาง ๆ ก็เริ่มหนาเม็ดขึ้น ต้องหยุดเอาพลาสติกคลุมกระเป๋ากล้องถ่ายรูปให้มิดชิด

ครึ่งชั่วโมงต่อมา ฝนจากฟ้าก็เทลงมาแบบไม่ลืมหูแต่ลืมตา คือ ตกหนักบ้าง แล้วซาลง ลืมตามาดูคนเปียกบ้าง เราปั่นกันกลางทุ่งกลางป่า ไม่มีชายคาให้หลบฝน ไหนๆก็เปียกแล้ว เลยลุยกันต่อ คิดว่าปั่นจักรยานเล่นน้ำฝนก็แล้วกัน นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้เล่นน้ำฝน อ้อยหวานเป็นคนที่ชอบเดินตากฝนมาก ให้ความรู้สึกผ่อนคลายถึงกับอยากงัมเพลง

มาถึงเมืองถัดไป ก็ตรงไปที่สถานีรถไฟเลย เพราะฝนเทลงมาอย่างหนัก โชคดีที่กระเป๋าเสื้อผ้ากันน้ำได้จริงๆ ของข้างในไม่เปียกเลย

ก่อนกลับบ้าน เราได้ใช้เวลาอยู่กับลูกที่เมืองเบอร์มิงแฮมอีก 2-3 วัน

 


 

ทริปนี้ถือเป็นอีกทริปหนึ่งที่ประทับใจมาก บ้านเรือนสวยงาม บรรยากาศเก่าๆคลาสสิค ธรรมชาติที่สดใส สดชื่น ทุ่งหญ้าเขียวสบายตา

 

 

การทางเดินที่ช้าๆ ไม่เร่งรีบ ได้เก็บเกี่ยวความสวยงามรอบตัว ได้เห็นสิ่งรอบข้างอย่างละเอียด

 

ระว่างที่อยู่บนเครื่องบินยังไม่ถึงบ้านเลย  อ้อยหวานก็มีคำถามให้ตัวเองและเพื่อนร่วมทาง

ทริปหน้าไปปั่นจักรยาน ที่ไหนดี?”

 

 

 

อ้อยหวานขอขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่ได้ติดตามอ่าน ปั่นจักรยานตามเก็บฝันและบล็อกอื่นๆของอ้อยหวาน

ขอขอบคุณบ้านสวนพอเพียงและน้องโสทร ที่ให้โอกาสได้บันทึกและถ่ายทอดเรื่องราว

 

เรื่องส่งท้าย

 

ถ้ามีคนถามว่าปั่นจักรยานเที่ยวที่อังกฤษได้ไหม

ขอตอบว่า ได้ค่ะ อ้อยหวานปั่นเที่ยวมาแล้ว

แต่ถ้าถามใหม่ว่าไปปั่นจักรยานเที่ยวที่อังกฤษหรือฝรั่งเศสดี

ขอตอบว่า ฝรั่งเศสดีกว่าค่ะ

ทำไม????

อ้อยหวานทำตารางเปรียบเทียบ เพื่อช่วยในการอธิบาย ขอเอาแคนนาดาบ้านอยู่ของอ้อยหวาน และเมืองไทยบ้านเกิดมาเทียบเคียงด้วย

 

 

ไทย

แคนนาดา

ฝรั่งเศส

อังกฤษ

ทิวทัศน์และบ้านเมือง

10

10

10

10

 

 

 

 

 

ถนนหนทาง

7

10

10

5

 

 

 

 

 

คนขับรถ

8

3

10

8

 

 

 

 

 

อาหารการกิน

10

6

10

6

 

 

 

 

 

หมา

20

0

0

0

 

ทิวทัศน์และบ้านเมืองเอาไปเลยเต็ม 10 ทุกที่ เพราะอ้อยหวานมีความเชื่อว่า

                             ทุกๆสถานที่ทุกๆแห่งมีเสน่ห์ในตัวของมันเอง

                             ขึ้นอยู่กับเราที่จะไปค้นพบค้นหา

 

ถนนหนทางถนนบ้านเรายังดีกว่าที่อังกฤษ มีไหล่ทางกว้าง ถนนชนบทก็พอๆกัน ส่วนแคนนาดากับฝรั่งเศสยกให้เขาไป ถนนเขาดีจริง

 

คนขับรถ คนไทยขับรถมีน้ำใจกว่าคนแคนนาดาค่ะ อันนี้เรื่องจริง บอกไม่ได้ว่าทำไมคะแนนคนขับรถที่แคนนาดาต่ำ ปรกติคนแคนนาดานิสัยดีมากๆ แต่ขับรถบนถนนไม่เคยชลอความเร็วเวลาผ่านจักรยาน ดีที่มีทางจักรยานโดยเฉพาะและสุดหรูด้วย อ้อยหวานก็เลยไม่ติดใจกับคนขับรถ

 

อาหารการกินไม่ต้องอธิบายมาก

 

หมาเมืองไทยได้ไปเกินๆ เลย 20 เต็ม 10 หมาไทยชื่อดังในหมู่นักปั่นเที่ยวทั่วโลก ว่าชอบไล่งับ (คนขี่)จักรยานมาก แต่อย่ากังวลหรือกลัวนะ  อ้อยหวานให้ข้อมูลไว้เพื่อจะได้เตรียมรับมือ อย่าลืมพกอาวุธป้องกันตัวเอง

 

 


 

ส่งท้ายด้วยภาพที่ไปขโมยจากเฟรสบุคของลูกสาว เขาเรียนหนังสือกันหนักมาก มีการจัดไป (เที่ยว) ทัศนศึกษากันทุกอาทิตย์ รูปนี้ถ่ายกับเพื่อนชาวแคนนาดาและจีน หน้าโบสถ์ใหญ่ของ บาธ 

 


 

ตอนนี้มหาลัยเขาปิดให้อ่านหนังสือสอบ 1 อาทิตย์ แต่คุณลูกชวนเพื่อนไปอ่านหนังสือที่อิตาลี คิดได้ยังไง!!!

ขโมยจากเฟรสบุคของลูกสาว เป็นรูปที่จุดประกายความฝันให้แม่  อืม..ขอฝันถึงเธอนะ..อิตาลี

 

 

อ่านปั่นจักรยานตามเก็บฝันที่อังกฤษตอนแรกๆได้ที่นี่่ค่ะ

http://www.bansuanporpeang.com/node/27323

http://www.bansuanporpeang.com/node/27341

http://www.bansuanporpeang.com/node/27359

http://www.bansuanporpeang.com/node/27387

http://www.bansuanporpeang.com/node/27405

http://www.bansuanporpeang.com/node/27428

http://www.bansuanporpeang.com/node/27439

http://www.bansuanporpeang.com/node/27447

http://www.bansuanporpeang.com/node/27460

http://www.bansuanporpeang.com/node/27471

http://www.bansuanporpeang.com/node/27481

 

 

ขอให้เพื่อนๆมีแต่ความสุข

 

ขอบคุณค่ะ

 

อ้อยหวาน

 

 

 

ฤดูกาลที่ผันเปลี่ยน… และกำลังจะจากไป

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

 

 

มัวแต่ปั่นบล็อก 'ปั่นจักรยานตามเก็บฝันที่อังกฤษเผลอแป๊บเดียว ฤดูกาลก็ผันเปลี่ยน ต้นเดือนพฤศจิกายน เป็นช่วงที่แคนนาดาเข้าสู่ปลายฤดูใบไม้ร่วง อีกไม่นานฤดูหนาวก็จะมาเยือน

 

 

 

ภาพในบล็อกนี้เป็นภาพเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว  กลางฤดูใบไม้ร่วงปลายเดือนตุลาคม เอามาให้ชมย้อนหลังกัน

ถึงเวลาต้นไม้ได้พักผ่อน ท่ามกลางความหนาวเย็น ต้นไม้ต้องปรับตัวเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล ต้องเปลี่ยนสีและสลัดใบแบบไม่มีเยื่อใย

 

 

ขอเอากลอนที่แต่งไว้เมื่อปีแล้ว ในบล็อกเก่าของอ้อยหวาน มาลงอีกครั้ง

http://www.bansuanporpeang.com/node/25705

 

 

 

ข้อคิดจากต้นไม้

 

 

 

ต้นไม้สูง ยืนตระหง่าน ให้ข้อคิด 

ขอสะกิด จิตใจ มนุษย์หนา

 


 

จงยืนหยัด และพอใจ ที่เกิดมา   

รู้คุณค่า ของทุกสิ่ง รอบตัวเรา

 


 

จงปรับกาย ปรับใจ ให้ยอมรับ    

เผชิญกับ การเปลี่ยนแปลง ไม่ท้อถอย

 


 

ถึงเวลา บอกลาใบ ไม่รั้งคอย

เมื่อปลดปล่อย ไม่ยึดถือ ก็สุขใจ

 

 

 

มนุษย์เอ๋ย จงฟัง คำเราฝาก

อย่าลืมราก ลืมเหง้า เฝ้ารักษา

 

 

แสงอาทิตย์ และผืนแผ่น พสุธา

สายธารา มีค่า พึงจดจำ

 

 

แผ่กิ่งก้าน ออกไป ในโลกกว้าง

ไม่ละวาง มีเมตตา หยิบหยื่นให้

 

 

มีพอเพียง และเพียงพอ อยู่ในใจ

สนุกไป กับชีวิต ณ.ปัจจุบัน

 

 

 

ขอให้เพื่อนๆมีแต่ความสุข

 

ขอบคุณค่ะ

 

อ้อยหวาน

 


 

ฟ้าเหงา..หิมะโปรยปราย..แต่ฉันจะปั่น

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

 

ปลายฤดูใบไม้ร่วงที่แคนนาดา อุณหภูมิอยู่ประมาณ 0-10องศา แต่แดดแรง ทำให้ไม่หนาวมาก ไม่เป็นอุปสรรคต่อคนชอบ (บ้า) ปั่นจักรยานแบบอ้อยหวาน ใส่เสื้อหลายๆชั้นพร้อมถุงมือหนาๆ ปั่นไปเรื่อยๆ ก็ได้ถอดออกทีละชั้นๆ

 


หมวกจักรยานรับหนาว อ้อยหวานใช้เทปพลาสติกปิดช่องลม แถมยังบุผ้าสักหลาด ตรงส่วนที่ตรงกับหู 2 ข้าง เท่านี้ก็อุ่นพอ

 


วันก่อนปั่นไปจ่ายกับข้าว ทางจักรยานที่เปล่าเปรี่ยว เพราะหมดฤดูแล้ว มีแต่คนที่รักจริงเท่านั้นที่ยังปั่นจักรยานกันอยู่ เงียบแบบนี้แหละ ชอบมาก

 

ต้นไม้ในสวนสาธารณะ ยืนทิ้งใบ ให้ข้อคิดแก่เราว่า นี่แหละคือธรรมชาติ

ไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบ

ไม่มีใครเป็นหนุ่มเป็นสาวตลอดกาล

 


ภาพขาว-ดำ ให้ความรู้สึกที่ลึกลงไป

 


ช่วงนี้บางครั้งจะมีหิมะตก เช่นเมื่อวานนี้หิมะตกเล็กๆน้อย พอให้ดูสวย เหมือนโรยหน้าด้วยน้ำตาลไอซิ่ง

 


พยายามจะเก็บรูปให้เห็นเกล็ดหิมะที่โปรยปราย แต่ก็ทำไม่ได้อย่างใจ

 

คุณผู้ชายเก็บสวนเสียเรียบร้อย ตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว เก็บจอบ เสียมและเครื่องมือทำสวน เอาพลั่วตักหิมะออกมาแทน เก็บเศษต้นไม้ใบไม้ในคอกปุ๋ยหมัก ในฤดูหนาว หิมะจะกดทับและคลุมไว้หมด เหมือนบ้านของชาวเอสกิโมที่มีชื่อเรียกว่าอิ้กลู  (Igloo) ข้างในจะอุ่นมาก เลยกลายเป็นบ้านของชิ้ปมั้งไป

สวนดูโล่งๆ เหงาๆ ก็ต้องเป็นอย่างนี้ ณ.เวลานี้

แต่เราได้นัดเจอกันอีก ปีหน้าฟ้าใหม่..ที่เก่า..เวลาเดิม

 


สวนหน้าบ้านวันนี้ อุณหภูมิก็ยังหนาวไม่พอ ไม่นานหิมะก็เริ่มเริ่มละลายกัน

 

 

ไฮเดรนเจีย (hydrangea) ในฤดูใบไม้ร่วง ต้นนี้เป็นไฮเดรนเจียพันธ์ต้น (tree hydrangea) ดอกสีขาว คนแก่ข้างบ้านเล่าให้ฟังว่า เจ้าของบ้านคนเก่าปลูกไว้พร้อมๆกับที่เทศบาลปลูกต้นโอ๊ค อายุคงจะ 50-60 ปี

ดอกไฮเดรนเจีย คนที่นี่นิยมเอามาทำดอกไม้แห้งกัน อ้อยหวานทิ้งไว้อย่างนี้ ไม่ตัด เอาไว้ดูตลอดหนาว

 

 

ลาเวนเดอร์ที่ยังเขียวอยู่ แม้จะโดนหิมะไป 2-3 ครั้ง

 


ลานหินสมดุลของอ้อยหวานก็ยังยืนยัดจะล้มสักกี่ครั้ง ก็ก่อขึ้นใหม่ได้

 

 

ถนนหน้าบ้านจะเป็นแหล่งรวบรวมพันธ์ต้นโอ็ค ทั้งหมดเกือบ 40 ต้น 40 พันธ์ เป็นของเทศบาลเมืองออตตาวา ใบต้นโอ็คจะเปลี่ยนสีและร่วงโรยช้ากว่าต้นไม้อื่น ต้นหน้าบ้านอ้อยหวาน ใบสีน้ำตาลติดต้นจนถึงปลายเดือนธันวาคม

แต่ละบ้านก็เก็บใบไม้ใส่ถุงกระดาษกันเอง ช่วงนี้เทศบาลจะมาเก็บอาทิตย์ละครั้ง

 


บนถนนไม่มีหิมะหลงเหลืออยู่เลย หากเป็นอย่างนี้ก็ยังปั่นจักรยานได้อีกหลายวัน

 

 

ที่นี่มีคนบ้าปั่นอยู่ไม่น้อย ที่ปั่นจักรยานกันตลอดฤดูหนาว แม้หิมะตกหนักก็ยังมีคนปั่น ฤดูกาลไม่เป็นอุปสรรคแต่อย่างใด.. หากใจรักและมุ่งมั่น

ส่วนอ้อยหวานกลัวลื่นและหกล้มมากๆ อีกไม่นานคงต้องเก็บจักรยาน แล้วเอาสกีออกมาแทน ฤดูกาลไม่เป็นอุปสรรคแต่อย่างใด..เหมือนกัน ปรับตัวปรับใจได้

..หากเรียนรู้ที่จะอยู่กับธรรมชาติได้อย่างสอดคล้อง ไม่ว่าจะเป็นฤดูไหน ก็สุขใจ

 

เธอจะเหงาไหมหนอ?

 

 

เธอจะเหงาไหมหนอ        ถ้าฉันขอลาก่อน

แต่อย่าเศร้าเว้าวอน         ฉันจะย้อนกลับคืน

 

 

ฉันอยู่ในท้องฟ้า             ในธาราใสใส

ฉันอยู่ในหัวใจ                ของใครใครเช่นเธอ…  

 

 

เธอจะเหงาไหมหนอ        โปรดรอวันฟ้าฝัน

ฤดูกาลเปลี่ยนไปพลัน      แล้วฉันนั้นจะกลับมา

 

 

แต่วันนี้ขอลาก่อน           เฝ้าวิงวอนให้รักษา

ทุกทั่วหล้าพสุธา            ทั้งโลกาอย่าทำลาย

 

 

ขอให้เพื่อนๆมีแต่ความสุข

 

ขอบคุณค่ะ

 

อ้อยหวาน

 

 

ฟ้าร้องไห้ ที่หาดใหญ่

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

น้ำตาฟ้า

 

เขาบอกว่าฟ้า ร้องไห้ออกมาเป็นน้ำฝน อยากรู้นักฟ้าที่เบื้องบน ต้องมาร้องไห้เพราะใคร

 

หรือฟ้าสงสาร คนอย่างฉันถูกหลอกเรื่อยไป ถูกเขาลวงเขาล้วงหัวใจ เอาไปต้มยำทำแกง

 



ฝนฟ้ากระหน่ำ เสียงฟ้าคำรามดูน่ากลัว น้ำตาฟ้าหลั่งมารดตัว รดหัวใจฉันจนชา

 

ฉันคงผิดหวัง มีเคราะห์กรรมไร้วาสนา เขาเลยไม่รักไม่ยอมพูดจา หลอกลวงให้ฉันต้องตรม

 



ฉันมันคนซื่อ ไม่เคยฝึกปรือ ในเรื่องความรัก

 


เพิ่งเคยได้รู้ เพิ่งเคยได้ลอง เพิ่งเคยรู้จัก
สุดท้ายต้องมาอกหัก ไม่รู้จะดามยังไง

 



เขาบอกว่าฟ้า ร้องไห้ออกมาให้ฉัน ฟ้าสงสารและคงผิดหวัง ที่ชักนำให้ฉันพบเธอ

 

น้ำตาที่ไหล จากความตั้งใจไม่ได้พลั้งเผลอ ชาตินี้เข็ดแล้วนะเออ ไม่อยากเจอหน้าเธออีกเลย

 


ฉันมันคนซื่อ ไม่เคยฝึกปรือ ในเรื่องความรัก
เพิ่งเคยได้รู้ เพิ่งเคยได้ลอง เพิ่งเคยรู้จัก

 


สุดท้ายต้องมาอกหัก ไม่รู้จะดามยังไง

 



เขาบอกว่าฟ้า ร้องไห้ออกมาให้ฉัน ฟ้าสงสารและคงผิดหวัง ที่ชักนำให้ฉันพบเธอ

 


น้ำตาที่ไหล จากความตั้งใจไม่ได้พลั้งเผลอ ชาตินี้เข็ดแล้วนะเออ ไม่อยากเจอหน้าเธออีกเลย

 

ขอให้เพื่อนๆมีแต่ความสุข

 

ขอบคุณค่ะ

 

อ้อยหวาน

 

 


มีไม่มาก แต่อยากแจก...เมล็ดงาม้อนแดง ปิดแจกค่ะ

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

 ปิดแจกค่ะ

มีไม่มาก แต่อยากแจกค่ะ...เมล็ดงาม้อนแดง ชื่อภาษาอังกฤษว่า  “Perilla”  ชื่อภาษาจีนว่า  “Zi Su Ye” ชื่อภาษาญี่ปุ่นว่า  “Aka Shiso” ชื่อภาษาเวียตนามว่า  “tía tô”  ภาษาเกาหลีเรียกว่า “ Deulkkae “

ดูรายละเอียดที่นี่ค่ะ

http://www.bansuanporpeang.com/node/23908

 
 
มาพร้อมกับเม็ดกุ้ยช่าย จากสวนอ้อยหวาน
ดูรายละเอียดที่นี่ค่ะ
 

http://www.bansuanporpeang.com/node/24062


มีแค่ 6 ชุด เท่านั้นค่ะ
กติกา: แจกเฉพาะสมาชิกที่เคยเขียนบล็อกมาแล้วอย่างน้อย 5 บล็อกค่ะ
 
กรุณาส่งที่อยู่หลังไมค์

อย่าลืมแบ่งปันกันต่อๆไปนะค่ะ
เมล็ดพันธ์งอกงามในผืนดิน 
เมล็ดน้ำใจงอกงามใน ”บ้านสวนพอเพียง”

ขอให้เพื่อนๆมีแต่ความสุข

 
ขอบคุณค่ะ

 
 อ้อยหวาน

ดอกไม้บนทางผ่าน ตอน 2

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

 

 The lotus pond                               

Just as they are, unplucked,

For the Festival of All Souls

-Matsuo Basho

บทกวีไฮกุ ของ มัตซึต บาโช

 

ดอกบัวหลวง จาก เกาะสิเหร่ ภูเก็ต

อ้อยหวานชอบบทกวีไฮกุบทนี้มาก แต่ไม่อาจหาญที่จะแปลเป็นกลอนไฮกุ กลัวว่าจะเสียอรรถรส อ้อยหวานเอามาจากที่เขาแปลจากภาษาญี่ปุ่นมาเป็นภาษาอังกฤษอีกทีหนึ่ง

แต่ขอแปลง่ายๆ 

สระบัวหลวง..

ทิ้งไว้อย่างที่มันเป็น.. ไม่เด็ด..

เพื่องานรื่นเริงของสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย

 

ดอกบัวในสระ

หากเราปล่อยให้มันยังคงอยู่ตามที่มันเป็น,ไม่เด็ดเอามาเชยชมตามลำพัง,

เพื่อผู้ที่บังเอิญผ่านมาพานพบได้ชื่นชมดื่มด่ำกับความงามของมันได้อีกมากหลาย..

 

หลายๆสิ่ง หลายๆอย่าง หากเราทิ้งไว้อย่างที่มันเป็น (Just as they are) โลกนี้คงจะสวยงาม

 

++++++++++++++++++++++++++++++

พยายามที่จะขยายความบทกวีไฮกุ ของ มัตซึต บาโช บทนี้ทั้งวัน (ทั้งคืนเวลาของประเทศไทย) เปลี่ยนแล้ว ลบอีกก็ไม่ถูกใจสักที อ้อยหวานเข้าใจที่ท่านบาโชเห็นและเสื่อออกมา แต่เขียนอธิบายไม่ได้ ยังคิดอยู่ว่าคืนนี้คงนอนไม่หลับแน่ เพราะจะคิดจนไม่ได้นอน แล้วอัศวินม้าขาวก็มาช่วย ขอบคุณคุณอินเนียร์ค่ะ คืนนี้ได้นอนหลับสนิทแล้วค่ะ วันหน้ามาช่วยอีกนะคะ

 

ดอกบัวหลวง จาก เกาะสิเหร่ ภูเก็ต

ถึงแม้ดอกบัวหลวงในรูปไม่ได้อยู่ในสระ แต่อยู่ในอ่าง อ้อยหวานก็สามารถเห็นความงามของดอกบัว เฉกเช่นเดียวกับที่ท่านบาโช เห็น ..Just as they are

ดอกบัวหลวง มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Nelumbo nucifera  หรือ sacred lotus..ดอกบัวอันศักดิ์สิทธิ์

ดอกบัวหลวงเป็นพืชที่โดดเด่นอย่างแท้จริง ได้รับการเคารพนับถือว่าเป็นสัญลักษณ์อันศักดิ์สิทธิ์มานานกว่า 5,000 ปี ในศาสนาฮินดูบัวหลวงเป็นตัวแทนของดวงอาทิตย์ ความอุดมสมบูรณ์ เป็นดอกไม้ที่เกี่ยวข้องกับการกำเนิดของเทพเจ้าหลายๆองค์ เช่น พระพรหม เชื่อกันว่ากำเนิดจากดอกบัวที่ผุดขึ้นจากสะดือของพระวิษณุ ส่วนพระลักษมี กำเนิดจากฟองน้ำ ในคราวที่เทวดาและอสูร กวนเกษียรสมุทร ทำน้ำอมฤต ในขณะที่ผุดขึ้นมานั้นนั่งมาในดอกบัวและมือถือดอกบัวด้วย จึงมีอีกนามหนึ่งว่า ปัทมา หรือ กมลา

ในศาสนาพุทธ ดอกบัว เป็นสัญลักษณ์แทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ป็นสัญลักษณ์ของ ความบริสุทธิ์ (purity) และการบรรลุธธรม หรือที่เรียกว่า จิตตื่น (spiritual awakening) บทสวดมนต์ของชาวพุทธทิเบต  Om Mani Padme Hum โอม มณี ปัทเม หุม  แปลได้ว่า โอม..อัญมณีในดอกบัว

ในความเชื่อของชาวอียิปต์โบราณ ดอกบัวเป็นสัญลักษณ์ของดวงอาทิตย์และการเกิดใหม่ (rebirth)

 

ดอกบัวหลวง ถ่ายจากเขาคอหงส์ หาดใหญ่

ดอก เมล็ด ใบ และรากของบัวหลวงกินได้ ในประเทศอินเดียบริโภคใบอ่อนก้านใบและดอกบัว เหมือนผักทั่วไป

ในเอเชีย (โดยเฉพาะในประเทศจีน) ได้ใช้บัวหลวงเป็นยาสมุนไพรมาแต่โบราณ

รากบัวดิบใช้แก้อาการร้อนใน กระหายน้ำ

รากบัวสุกช่วยเสริมสร้างม้ามให้แข็งแรง ช่วยให้กระเพาะอาหารทำงานได้ดีขึ้น ช่วยเสริมสร้างเนื้อเยื่อและโลหิต

น้ำจากใบบัวผสมด้วยชะเอม ใช้ในการรักษาอาการท้องเสียและอาการลมแดด

เมล็ดบัวใช้บรรเทาอาการอาหารไม่ย่อย อาเจียน และท้องเสีย นอกจากนั้นยังใช้เป็นเครื่องดื่มบำรุงกำลัง

เกสรดอกบัว ช่วยบำรุงหัวใจและไต

 

ดอกนางแย้ม จากสวนของโรงแรมชิโนเฮ้าส์ ภูเก็ต

นางแย้ม  มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Clerodendrum philippinum หรือ Cashmere Bouquet Clerodendrum  มีถิ่นกำเนิดที่ประเทศจีนและญี่ปุ่น

 

ดอกนมสวรรค์  จาก ริมทางภูเก็ต

ดอกนมสวรรค์นี้  มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Clerodendrum paniculatum หรือ pagoda flower.. มีถิ่นกำเนิดที่ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ยอดอ่อน ใบเพสลาด จะมีกลิ่นเหม็นเขียว พอปรุงเป็นอาหารกลิ่นเหม็นเขียวจะหายไป โดยหั่นฝอยใส่แกงกะทิ ใบอ่อนใช้รองในห่อหมก รสชาติหวานร้อน

สรรพคุณทางสมุนไพร

ราก ตำผสมกับสุราขาวคั้นเอาน้ำท่าแก้พิา แมลงกัดต่อย

ใบ แก้ลมในทรวงอก แก้พิษฝีดาษ

ดอก แก้โลหิต ในท้อง แก้พิษฝีกาฬ

ต้น แก้พิษตะขาบ พิษแมงป่อง

 ราก แก้ไข้ โลหิต แก้ไขเหนือ ขับลมให้ซ่านออกมาทั่วตัว

 

ดอกบานเช้าดอกเหลือง  จาก ริมทางภูเก็ต

ดอกบานเช้าดอกเหลือง มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Turnera ulmifolia หรือ Yellow Alder มีถิ่นกำเนิดที่ หมู่เกาะแคริบเบียน

ในหมู่เกาะบาฮาม่า ใช้เป็นยาพื้นบ้านรักษาโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารโรคหวัด ใจสั่น ปวดประจำเดือน และโรคผิวหนัง

 

ดอกเล็บมือนาง จากสวนของโรงแรมชิโนเฮ้าส์ ภูเก็ต

ดอกเล็บมือนาง มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Combretum indicum หรือ Rangoon creeper..ไม้เลื้อยร่างกุ้ง

สรรพคุณทางสมุนไพร

ใบ   ตำชโลม หรือทาแผล ทาฝี  แก้ปวดศีรษะ แก้ไข้

ต้น  ใช้เป็นยาแก้ไอ

ราก ใช้ถ่ายพยาธิ รักษาตานซาง

เมล็ด ใช้เป็นยาขับพยาธิตัวกลม, พยาธิเส้นด้ายในเด็ก

 

ดอกคำแสด จาก ริมทางนครศรีธรรมราช

ได้รูปนี้ในระหว่างทางปั่นจักรยานรอบนครศรีธรรมราช ต้นคำแสดขึ้นอยู่ริมถนน เป็นดง สูงท่วมหัว

คำแสด มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Bixa orellana หรือ Achiote มีถิ่นกำเนิดในเขตร้อนของทวีปอเมริกา รวมทั้งหมู่เกาะแคริบเบียนและเม็กซิโก ประมาณ ค.. 1600 ชาวสเปนนำคำแสดจากอเมริกาไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยังแพร่หลายไปในอินเดียและแอฟริกาตะวันตก

 

คำแสด จาก ริมทางนครศรีธรรมราช

ผลคำแสดมีสีแดงคล้ายผลเงาะ ผลแก่จะแตกออก ภายในมีเมล็ดสีแดง เมื่อนำเมล็ดคำแสดมาแช่น้ำทิ้งไว้หลายๆ วัน จนเยื่อหุ้มเมล็ดแยกออกจากเมล็ด เยื่อหุ้มเมล็ดถูกแยกเก็บรวมกันเป็นก้อนเพื่อนำไปใช้เป็นสีย้อม เมล็ดที่เหลือจะถูกนำไปตากแห้งเป็นเครื่องเทศปรุงอาหารที่มีชื่อเรียกว่า แอนแน็ตโต้ (Annatto)

แอนแน็ตโต้ (Annatto) นี้บางครั้งถูกเรียกว่า "หญ้าฝรั่นคนจน" (poor man’s saffron) เพราะแอนแน็ตโต้ (Annatto) ให้สีเหลืองคล้ายหญ้าฝรั่น แต่ราคาถูกกว่ากันมาก อาหารหลายจานในอเมริกากลางและอเมริกาใต้  ใช้แอนแน็ตโต้ (Annatto) เป็นเครื่องเทศแต่งสีเหลือง เช่น ข้าวหมกไก่ อาร๊ก คอน โปลโย (Arroz con pollo)

 

ดอกธรรมรักษา จากสวนของโรงแรมชิโนเฮ้าส์ ภูเก็ต

ดอกธรรมรักษา มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Heliconia มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาและหมู่เกาะคาริเบียน ลิงค์ที่ข้างล่าง มีรายละเอียดของ Heliconia ทุกสายพันธ์รวมทั้งมีรูปถ่ายให้ดูมากมาย น่าสนใจมาก

http://members.iinet.net.au/~meckms/Heliconia%20Information%20Page.html

 

ดอกม่วงมณีรัตน์  จาก บ้านท่านขุนรัฐวุฒิวิจารณ์ นครศรีธรรมราช

ขอบคุณหนูรัก

รูปนี้ถ่ายที่บ้านท่านขุนรัฐวุฒิวิจารณ์ นครศรีธรรมราช วันนั้นปั่นจักรยานกลางสายฝน ไปถึงบ้านท่านขุน ฝนซาลงพอดี เลยเอากล้องออกมาเก็บภาพ ดอกไม้ไม่กลัวฝนคือสะบักสะบอม แต่ยังชูหน้าท้าฝน เหมือนอ้อยหวานในตอนนั้น เปียกซก แต่ยังไม่หยุด หลังจากวันนั้น กล้องถ่ายรูปคู่ใจก็มีอันเป็นไป สัญญาณไฟและตัวอักษรกระพริบอยู่ตลอดเวลา ฉันป่วย! ฉันป่วย! แต่ก็ยังทู่ซี่ใช้ไป จนกลับมาถึงแคนนาดา คุณผู้ชายตรวจเช็คแล้วว่า ต้องส่งไปให้หมอกล้องดู เป็นกล้องถ่ายรูปของอ้อยหวานก็อย่างนี้แหละ น่าสงสารไหม?

ดอกม่วงมณีรัตน์  มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Saritaea หรือ glowvine ถิ่นกำเนิดในโคลัมเบียและเอกวาดอร์

อย่างที่หนูรักกล่าวไว้ในข้อคิดเห็น ดอกม่วงมณีรัตน์กับดอกช้องนางคล้ายกันมาก อ้อยหวานตรวจเช็คแล้ว แน่ใจว่าดอกไม้ในรูป คือดอกม่วงมณีรัตน์ สังเกตุที่ใบ จะใหญ่ เป็นมันแวว และหนากว่าใบของช้องนาง

 

 

ดอกชมพูฮาวาย  จาก วัดพระมหาธาตุ นครศรีธรรมราช

ขอบคุณหนูรัก

ดอกชมพูฮาวายมีชื่อภาษาอังกฤษว่า Podranea หรือ Pink Trumpet Vine

หลังจากบ้านท่านขุนรัฐวุฒิวิจารณ์ อ้อยหวานก็แวะวัดพระมหาธาตุ ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกัน แล้วก็ได้ภาพ ดอกไม้ไม่กลัวฝนอีกภาพ

มีเบื้องหลังรูปถ่ายที่อยากเล่าให้ฟังค่ะ ดอกชมพูฮาวายเป็นไม้เลื้อย แต่ที่นี่เขาปลูกให้ราบไปกับพื้น พอโดนฝนก็ยิ่งราบไปกับพื้นไปใหญ่จะเก็บภาพได้ อ้อยหวานต้องนั่งยองๆต่ำๆ ท่ามกลางพุ่มดอกชมพูฮาวาย

คุณป้าท่านหนึ่งเดินผ่านมาเห็นเข้า แว๊บแรกก็ร้องเสียงแหลม...นี่..ทำอะไร..ไปทำที่..อื่น..แล้วคงเห็นกล้องถ่ายรูปในมืออ้อยหวาน เสียงก็เลยชะงัก  ..อ้อ..ถ่ายรูป..  แว๊บแรกคุณป้าคงเข้าใจผิดคงคิดว่าอ้อยหวานมานั่งถ่ายข้างวัด แต่อ้อยหวานมานั่งถ่าย (รูป) ข้างวัดจริงๆ

 

ไม่แน่ใจว่าเรื่องนี้จะเป็นบทเรียนให้คุณป้าท่านนั้นหรือไม่ แต่อ้อยหวานได้บทเรียน

 

อย่าเชื่อสิ่งที่เราเห็น 100% ก่อนพูดหรือทำอะไรไปให้หยุดตั้งสติสักนิด สิ่งที่เราเห็นนั้น เราอาจจะเห็นจริง แต่สิ่งที่เราคิด อาจจะไม่จริง อย่าด่วนตัดสินตามความคิดไปทันที เพราะอาจจะพลาดไปอย่างจังๆ

 

เห็นไหม..ขนาดสิ่งที่เราเห็นยังเชื่อไม่ได้ 100%

แล้วสิ่งที่เรายังไม่เห็นจะเชื่อได้อย่างไร

 

 

โปรดติดตามอ้อยหวานเล่าเรื่อง ดอกไม้บนทางผ่าน ในตอนต่อไป

 

อ่านดอกไม้บนทางผ่าน ตอน 1ได้ที่นี่่ค่ะ

http://www.bansuanporpeang.com/node/27717

 

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่นี่ค่ะ

http://vixi.com/content/sacred-lotus-nelumbo-nucifera

http://www.kew.org/plants-fungi/Nelumbo-nucifera.htm

http://www.mdidea.com/products/proper/proper0666705.html

http://www.buzzle.com/articles/lotus-flower-meaning.html

http://www.desert-tropicals.com/Plants/Verbenaceae/Clerodendrum_philippinum.html

http://www.tungsong.com/NakhonSri/vegetable/group_3/3_9.html

http://www.levypreserve.org/Plant-Listings/Turnera-ulmifolia

http://www.rspg.or.th/plants_data/herbs/herbs_04_6.htm

http://latinfood.about.com/od/seasoningmarinade/p/What-is-achiote.htm

http://en.wikipedia.org/wiki/Saritaea

http://www.plantzafrica.com/plantnop/podranricasol.htm

 


I would like to Thanks everyone for all the resources for this blog. Thank you.

 

ขอให้เพื่อนๆมีแต่ความสุข

 

ขอบคุณค่ะ

 

อ้อยหวาน

 


 

ดอกไม้บนทางผ่าน ตอน กลิ่นหอมติดมือ

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

 

กลิ่นหอมอ่อนๆ มักจะเกาะติดมือผู้ให้ดอกไม้

-สุภาษิตจีน

การให้ ตั้งแต่เล็กๆน้อยเช่น ดอกไม้ รอยยิ้ม..ไปจนถึง การให้ความช่วยเหลือ ความเอื้ออาทร ทำให้เรามีความสุข เหมือนมีกลิ่นหอมของดอกไม้ ติดมือ ติดตัว ติดกาย และ..แนบใจ ผู้ให้ได้รับสิ่งตอบแทนทันที คือ ความสุขใจ ชื่นใจ

 

ดอกไม้บนทางผ่านของอ้อยหวาน ในช่วงที่ได้กลับบ้าน ช่วงเวลา 3 อาทิตย์กว่าๆ อ้อยหวานได้เก็บ (รูป) ดอกไม้ไว้เป็นที่ระลึก แล้วเอามาฝากกัน หวังว่าดอกไม้ดิจิทอลเหล่านี้ ได้ให้ความเบิกบาน สดชื่น แก่ทุกคน

 

เอื้องดินใบหมาก  จากเกาะยอ สงขลา

เอื้องดินใบหมาก หรือ กล้วยไม้ดิน สปาโตกลอสติสมีชื่อภาษาอังกฤษว่า Spathoglottis plicata  หรือ Ground Orchid  การกระจายพันธุ์       ตอนใต้ของอินเดีย ศรีลังกา และ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีอยู่ประมาณ 45 สายพันธุ์

 

 

กลิ่นหอมอ่อนๆ มักจะเกาะติดมือผู้ให้ดอกไม้

-สุภาษิตจีน

การให้ ตั้งแต่เล็กๆน้อยเช่น ดอกไม้ รอยยิ้ม..ไปจนถึง การให้ความช่วยเหลือ ความเอื้ออาทร ทำให้เรามีความสุข เหมือนมีกลิ่นหอมของดอกไม้ ติดมือ ติดตัว ติดกาย และ..แนบใจ ผู้ให้ได้รับสิ่งตอบแทนทันที คือ ความสุขใจ ชื่นใจ

ดอกไม้บนทางผ่านของอ้อยหวาน ในช่วงที่ได้กลับบ้าน ช่วงเวลา 3 อาทิตย์กว่าๆ อ้อยหวานได้เก็บ (รูป) ดอกไม้ไว้เป็นที่ระลึก แล้วเอาให้มาฝากกัน หวังว่าดอกไม้ดิจิทอลเหล่านี้ ได้ให้ความเบิกบาน สดชื่น แก่ทุกคน

 

เอื้องดินใบหมาก  จากเกาะยอ สงขลา

เอื้องดินใบหมาก หรือ กล้วยไม้ดิน สปาโตกลอสติสมีชื่อภาษาอังกฤษว่า Spathoglottis plicata  หรือ Ground Orchid  การกระจายพันธุ์       ตอนใต้ของอินเดีย ศรีลังกา และ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีอยู่ประมาณ 45 สายพันธุ์

 

 

ฟังเพลงคลอไป ชมดอกไม้ไป เพิ่มความสุขใจ

ลาวดวงดอกไม้ บรรเลงขลุ่ย by ThePC

ขอบคุณ youtube และ คุณพิชิตชน ไชยคำวัง

3

ดอกแก้ว  จาก ริมทาง นครศรีธรรมราช

ไม้แก้วกลิ่นแก้วกราย               หอมบ่วายวังเวงใจ

ทุกข์ลืมปลื้มอาลัย                  ว่ากลิ่นแก้วแล้วเรียกหา

กาพย์ห่อโคลง "นิราศพระบาท"

พระนิพนธ์ : เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์ (เจ้าฟ้ากุ้ง)

หอมกลิ่นแก้ว หอมบ่วายจริงๆค่ะ หลายปีก่อนไปเจอต้นแก้วที่ร้านขายต้นไม้ใกล้บ้าน ต้นสูงประมาณ 1 เมตร ดอกดกเต็มต้น ราคาสูงไม่เบาเลย 50 เหรียญ = 1500 บาท ดูแล้วดูอีก อยากได้เหลือเกิน กลับมาบ้านแล้วยังตัดใจอยากไม่ได้ วันต่อมาต้องกลับไปซื้อ โดยที่ลืมเรื่องกลิ่นดอกแก้วเสียสนิท เพราะเป็นช่วงหน้าหนาว ต้นไม้ต้องอยู่ในบ้าน อีกทั้งบ้านต้องปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด กลิ่นแก้วหอมแรง จนคนในบ้านเวียนหัวไปตามๆกัน กว่าจะหมดดอกก็เกือบแย่ ต้นแก้วคงน้อยใจ เพราะหลังจากดอกร่วงหมด ใบก็ร่วงตามกันไปจนหมดสิ้น ตั้งแต่นั้นก็ไม่กล้าเป็นเจ้าของต้นแก้วอีกเลย แต่ก็ยังชอบกลิ่นแก้ว ชอบแบบโชยๆ แบบจางๆ

ดอกแก้ว มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Murraya paniculata หรือ Orange Jessamine  มีถิ่นกำเนิดจากเอเชียใต้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้

4

ดอกต้อยติ่งเทศ  จาก ริมทาง นครศรีธรรมราช

ดอกต้อยติ่งเทศนี้ได้พบเจออยู่ตลอด คงจะเป็นเพราะแพร่กระจายง่าย ดอกสีม่วงสวยหวาน บวกกับก้านดอกสีเข้ม ออกดอกเต็มต้น เหมือนสาวสวยนัดกันใส่กระโปรงชีฟองสีม่วง คงจะไปงานเต้นรำกับสายลม..

5

ดอกต้อยติ่งเทศ มีชื่อภาษาอังกฤษว่า brittoniana 'Purple Showers'หรือ Mexican petunia  มีถิ่นกำเนิดที่ประเทศเม็กซิโก

ดอกต้อยติ่งเทศมีทั้งหมด 4 สี พันธุ์สีม่วงและสีชมพูเป็นพันธุ์มาตรฐาน ทีมีลำต้นสูง 3 ฟุต พันธุ์ดอกสีฟ้าและสีขาวเป็นพันธุ์แคระ ทีมีลำต้น ต่ำกว่า 12 นิ้ว

6

ดอกกระดุมทอง   จากสวนของโรงแรมชิโนเฮ้าส์ ภูเก็ต

ดอกกระดุมทอง มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Sphagneticola trilobata หรือ Climbing Wedelia  มีถิ่นกำเนิดจากอเมริกากลางและอเมริกาใต้

ทางแพทย์แผนโบราณและแพทย์แผนจีนนั้น ถือได้ว่าต้นกระดุมทองนี้มีสรรพคุณทางยาที่สามารถช่วยรักษาโรคเบาหวาน โรคหัวใจและความดันได้เป็นอย่างดี กระดุมทองช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยป้องกันการเกิดโรคต่างๆที่เกี่ยวเนื่องกับ ระดับน้ำตาลในเลือด ได้แก่ โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน เป็นต้น

เทคนิคการทำ ชาดอกกระดุมทองอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่นี่ค่ะ

http://www.dokmy.com/flower-food/little-yellow-star-flower-tea/

มิสเอ (Miss Cholticha) เขียนรายละเอียดไว้ดีมากๆ แถมเรื่องราวสนุกน่าอ่าน ขอบคุณมากค่ะ

7

ดอกลั่นทม หรือ ลีลาวดี จากเกาะยอ สงขลา

มาลัยลั่นทม โดย เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์

ลั่นทมบานหว่านรายชายเฉลียง         คิดถึงเสียงสังคีตกรีดผสาน

หอมกลิ่นเย็นมาเยือนเหมือนวันวาน    เคยคลอขานขลุ่ยรับเสียงขับครวญ

เอื้อนกังวานหวานทอดออดสะอื้น      หลับตาตื่นใจฝันให้ปั่นป่วน

ว่าหอมดอกราตรีเคยชี้ชวน              โอ้ลำดวนจะด่วนร้างไปห่างกัน

ลมหนาวปรายส่ายสั่นลั่นทมอ่อน       อารมณ์ว่อนวุ่นเหลิงกระเจิงขวัญ

หนาวสำนึกอยู่ฉะนี้ทุกวี่วัน              ทิพย์สุคันธาเอ๋ยเจ้าเคยลอย

ลั่นทมดอกน้อยนี้มีเจ้าของ             เกินจะปองจองปลิดจำจิตปล่อย

หอมแต่กลิ่นยินแต่ลมตรมแต่น้อย    ชื่นก็คอยคิดเตือนเลือนระงับ

เก็บดอกฉ่ำน้ำค้างกลางกอหญ้า      วาสนาเราหนอเพียงคลอขับ

รวยรวยรื่นชื่นเชยจะเลยลับ            ยิ่งนับนับวันเนิ่นเหินห่างไกล

อนาถ ชอบแต่วาดวิมานหวังเพื่อพังไหว

พิษผิดหวังทั้งรู้อยู่กับใจ   เมื่อมาได้ระทมก็สมแล้ว

ขอบคุณค่ะ เป็นบทประพันธ์ที่ไพเราะมาก

8

ดอกลั่นทม หรือ ลีลาวดี จาก เกาะสิเหร่ ภูเก็ต

ดอกลั่นทม มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Plumeria หรือ frangipanis  มีถิ่นกำเนิดจากอเมริกากลางและอเมริกาใต้

ในวัฒนธรรมโพลินีเชีย ​​ผู้หญิงจะทัดหูด้วยดอกลีลาวดี เพื่อจะบ่งบอกถึงสถานะ ถ้าทัดหูข้างขวาหมายถึงยังโสดและกำลังหาคู่ แต่ถ้าทัดหูข้างซ้ายหมายถึง ..มีเจ้าของแล้วจ้า

9

ดอกกล้วยไม้แวนด้า  จาก บ้านท่านขุนรัฐวุฒิวิจารณ์ นครศรีธรรมราช

กล้วยไม้สกุลแวนด้าพบในป่าตามธรรมชาติประมาณ 40 ชนิด มีกระจายพันธุ์อยู่ในทวีปเอเซีย ตั้งแต่อินเดีย ศรีลังกา พม่า ไทย อินโดนีเซีย จนถึงฟิลิปปินส์

10

ดอกพุดพิชญา  จาก วัดพระมหาธาตุ นครศรีธรรมราช

พุดพิชญา เป็นพืชในสกุลโมก ในประเทศไทยนำเข้าจากประเทศศรีลังกา มีชื่อทองถิ่นว่า "อิดด้า" (Inda) มีความหมายว่าดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์ ผู้นำเข้าคือ คุณปราณี คงพิชญานนท์ ลักษณะของดอกสีขาวเหมือนกลุ่มดอกพุดในบ้านเรา เธอจึงนำชื่อ ดอกพุด มา สมาส เข้ากับวลีนามสกุล ออกมาเป็นชื่อใหม่ว่า "พุดพิชญา"

ขอบคุณ ข้อมูลจาก  WIKIPEDIA

11

ดอกโมก  จาก เกาะสิเหร่ ภูเก็ต

ดอกโมก มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Wrightia religiosa

ชื่อ โมก นั้นมีเสียงพ้องกับคำว่า โมกข์ ในภาษาบาลี หรือ โมกษ์ ในภาษาสันสกฤต ซึ่งเป็นคำศัพท์ในศาสนาพุทธ หมายถึงความหลุดพ้นจากกิเลสและทุกข์ทั้งปวง ซึ่งเป็นความหมายเดียวกับนิพพานนั่นเอง

ขอบคุณ ข้อมูลจาก หมอชาวบ้าน

 

โปรดติดตามอ้อยหวานเล่าเรื่อง ดอกไม้บนทางผ่าน ในตอนต่อไป

 

อ่านดอกไม้บนทางผ่าน ตอน 1ได้ที่นี่่ค่ะ

http://www.bansuanporpeang.com/node/27717

http://www.bansuanporpeang.com/node/27725

 

 

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่นี่ค่ะ

http://www.qsbg.org/database/botanic_book%20full%20option/search_detail.asp?botanic_id=1241

http://www.seedaholic.com/murraya-paniculata-orange-jasmine.html

http://www.floridata.com/ref/r/ruellia.cfm

http://www.allthingsfrangipani.com/frangipanis.html

http://www.rspg.or.th/plants_data/kp_bot_garden/vanda.htm

http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%8A%E0%B8%8D%E0%B8%B2

http://www.doctor.or.th/article/detail/3466

 

 

I would like to Thanks everyone for all the resources for this blog. Thank you.

 

ขอให้เพื่อนๆมีแต่ความสุข

 

ขอบคุณค่ะ

 

 อ้อยหวาน

 

ฟังเพลงคลอไป ชมดอกไม้ไป เพิ่มความสุขใจ

ลาวดวงดอกไม้ บรรเลงขลุ่ย by ThePC

ขอบคุณ youtube และ คุณพิชิตชน ไชยคำวัง

 

ดอกแก้ว  จาก ริมทาง นครศรีธรรมราช

ไม้แก้วกลิ่นแก้วกราย               หอมบ่วายวังเวงใจ

ทุกข์ลืมปลื้มอาลัย                  ว่ากลิ่นแก้วแล้วเรียกหา

กาพย์ห่อโคลง "นิราศพระบาท"

พระนิพนธ์ : เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์ (เจ้าฟ้ากุ้ง)

 

หอมกลิ่นแก้ว หอมบ่วายจริงๆ หลายปีก่อนไปเจอต้นแก้วที่ร้านขายต้นไม้ใกล้บ้าน ต้นสูงประมาณ 1 เมตร ดอกดกเต็มต้น ราคาสูงไม่เบาเลย 50 เหรียญ = 1500 บาท ดูแล้วดูอีก อยากได้เหลือเกิน กลับมาบ้านแล้วยังตัดใจอยากไม่ได้ วันต่อมาต้องกลับไปซื้อ โดยที่ลืมเรื่องกลิ่นดอกแก้วเสียสนิท เพราะเป็นช่วงหน้าหนาว ต้นไม้ต้องอยู่ในบ้าน อีกทั้งบ้านต้องปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด กลิ่นแก้วหอมแรง จนคนในบ้านเวียนหัวไปตามๆกัน กว่าจะหมดดอกก็เกือบแย่ ต้นแก้วคงน้อยใจ เพราะหลังจากดอกร่วงหมด ใบก็ร่วงตามกันไปจนหมดสิ้น ตั้งแต่นั้นก็ไม่กล้าเป็นเจ้าของต้นแก้วอีกเลย แต่ก็ยังชอบกลิ่นแก้ว ชอบแบบโชยๆ แบบจางๆ

ดอกแก้ว มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Murraya paniculata หรือ Orange Jessamine  มีถิ่นกำเนิดจากเอเชียใต้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้

 

ดอกต้อยติ่งเทศ  จาก ริมทาง นครศรีธรรมราช

ดอกต้อยติ่งเทศนี้ได้พบเจออยู่ตลอด คงจะเป็นเพราะแพร่กระจายง่าย ดอกสีม่วงสวยหวาน บวกกับก้านดอกสีเข้ม ออกดอกเต็มต้น เหมือนสาวสวยนัดกันใส่กระโปรงชีฟองสีม่วง คงจะไปงานเต้นรำกับสายลม..

ดอกต้อยติ่งเทศ มีชื่อภาษาอังกฤษว่า brittoniana 'Purple Showers'หรือ Mexican petunia  มีถิ่นกำเนิดที่ประเทศเม็กซิโก

ดอกต้อยติ่งเทศมีทั้งหมด 4 สี พันธุ์สีม่วงและสีชมพูเป็นพันธุ์มาตรฐาน ทีมีลำต้นสูง 3 ฟุต พันธุ์ดอกสีฟ้าและสีขาวเป็นพันธุ์แคระ ทีมีลำต้น ต่ำกว่า 12 นิ้ว

 

ดอกกระดุมทอง   จากสวนของโรงแรมชิโนเฮ้าส์ ภูเก็ต

ดอกกระดุมทอง มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Sphagneticola trilobata หรือ Climbing Wedelia  มีถิ่นกำเนิดจากอเมริกากลางและอเมริกาใต้

ทางแพทย์แผนโบราณและแพทย์แผนจีนนั้น ถือได้ว่าต้นกระดุมทองนี้มีสรรพคุณทางยาที่สามารถช่วยรักษาโรคเบาหวาน โรคหัวใจและความดันได้เป็นอย่างดี กระดุมทองช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยป้องกันการเกิดโรคต่างๆที่เกี่ยวเนื่องกับ ระดับน้ำตาลในเลือด ได้แก่ โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน เป็นต้น

เทคนิคการทำ ชาดอกกระดุมทองอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่นี่ค่ะ

http://www.dokmy.com/flower-food/little-yellow-star-flower-tea/

มิสเอ (Miss Cholticha) เขียนรายละเอียดไว้ดีมากๆ แถมเรื่องราวสนุกน่าอ่าน ขอบคุณมากค่ะ

 

ดอกลั่นทม หรือ ลีลาวดี จากเกาะยอ สงขลา

 

มาลัยลั่นทม โดย เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์

ลั่นทมบานหว่านรายชายเฉลียง         คิดถึงเสียงสังคีตกรีดผสาน

หอมกลิ่นเย็นมาเยือนเหมือนวันวาน    เคยคลอขานขลุ่ยรับเสียงขับครวญ

เอื้อนกังวานหวานทอดออดสะอื้น      หลับตาตื่นใจฝันให้ปั่นป่วน

ว่าหอมดอกราตรีเคยชี้ชวน              โอ้ลำดวนจะด่วนร้างไปห่างกัน

ลมหนาวปรายส่ายสั่นลั่นทมอ่อน       อารมณ์ว่อนวุ่นเหลิงกระเจิงขวัญ

หนาวสำนึกอยู่ฉะนี้ทุกวี่วัน              ทิพย์สุคันธาเอ๋ยเจ้าเคยลอย

 

ดอกลั่นทม หรือ ลีลาวดี จาก เกาะสิเหร่ ภูเก็ต

 

ลั่นทมดอกน้อยนี้มีเจ้าของ              เกินจะปองจองปลิดจำจิตปล่อย

หอมแต่กลิ่นยินแต่ลมตรมแต่น้อย     ชื่นก็คอยคิดเตือนเลือนระงับ

เก็บดอกฉ่ำน้ำค้างกลางกอหญ้า       วาสนาเราหนอเพียงคลอขับ

รวยรวยรื่นชื่นเชยจะเลยลับ             ยิ่งนับนับวันเนิ่นเหินห่างไกล

อนาถ ชอบแต่วาดวิมานหวังเพื่อพังไหว

พิษผิดหวังทั้งรู้อยู่กับใจ   เมื่อมาได้ระทมก็สมแล้ว

 

มาลัยลั่นทม โดย เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์

ขอบคุณค่ะ เป็นบทประพันธ์ที่ไพเราะมาก

 

ดอกลั่นทม หรือ ลีลาวดี จาก เกาะสิเหร่ ภูเก็ต

ดอกลั่นทม มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Plumeria หรือ frangipanis  มีถิ่นกำเนิดจากอเมริกากลางและอเมริกาใต้

ในวัฒนธรรมโพลินีเชีย ​​ผู้หญิงจะทัดหูด้วยดอกลีลาวดี เพื่อจะบ่งบอกถึงสถานะ ถ้าทัดหูข้างขวาหมายถึงยังโสดและกำลังหาคู่ แต่ถ้าทัดหูข้างซ้ายหมายถึง ..มีเจ้าของแล้วจ้า

 

ดอกกล้วยไม้แวนด้า  จาก บ้านท่านขุนรัฐวุฒิวิจารณ์ นครศรีธรรมราช

กล้วยไม้สกุลแวนด้าพบในป่าตามธรรมชาติประมาณ 40 ชนิด กระจายพันธุ์อยู่ในทวีปเอเซีย ตั้งแต่อินเดีย ศรีลังกา พม่า ไทย อินโดนีเซีย จนถึงฟิลิปปินส์

 

ดอกพุดพิชญา  จาก วัดพระมหาธาตุ นครศรีธรรมราช

พุดพิชญา เป็นพืชในสกุลโมก ในประเทศไทยนำเข้าจากประเทศศรีลังกา มีชื่อทองถิ่นว่า "อิดด้า" (Inda) มีความหมายว่าดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์ ผู้นำเข้าคือ คุณปราณี คงพิชญานนท์ ลักษณะของดอกสีขาวเหมือนกลุ่มดอกพุดในบ้านเรา เธอจึงนำชื่อ ดอกพุด มา สมาส เข้ากับวลีนามสกุล ออกมาเป็นชื่อใหม่ว่า "พุดพิชญา"

ขอบคุณ ข้อมูลจาก  WIKIPEDIA

 

ดอกโมก  จาก เกาะสิเหร่ ภูเก็ต

ดอกโมก มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Wrightia religiosa

ชื่อ โมก นั้นมีเสียงพ้องกับคำว่า โมกข์ ในภาษาบาลี หรือ โมกษ์ ในภาษาสันสกฤต ซึ่งเป็นคำศัพท์ในศาสนาพุทธ หมายถึงความหลุดพ้นจากกิเลสและทุกข์ทั้งปวง ซึ่งเป็นความหมายเดียวกับนิพพานนั่นเอง

ขอบคุณ ข้อมูลจาก หมอชาวบ้าน

 

โปรดติดตามอ้อยหวานเล่าเรื่อง ดอกไม้บนทางผ่านในตอนต่อไป

 

อ่านดอกไม้บนทางผ่าน ตอนแรกๆ ได้ที่นี่่ค่ะ

http://www.bansuanporpeang.com/node/27717

http://www.bansuanporpeang.com/node/27725

 

 

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่นี่ค่ะ

http://www.qsbg.org/database/botanic_book%20full%20option/search_detail.asp?botanic_id=1241

http://www.seedaholic.com/murraya-paniculata-orange-jasmine.html

http://www.floridata.com/ref/r/ruellia.cfm

http://www.allthingsfrangipani.com/frangipanis.html

http://www.rspg.or.th/plants_data/kp_bot_garden/vanda.htm

http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%8A%E0%B8%8D%E0%B8%B2

http://www.doctor.or.th/article/detail/3466

 


I would like to Thanks everyone for all the resources for this blog. Thank you.

 

ขอให้เพื่อนๆมีแต่ความสุข

 

ขอบคุณค่ะ

 

 อ้อยหวาน

 

 

 

 

ดอกไม้บนทางผ่าน ตอน หวานปานน้ำผึ้ง

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

 

 

 

your smile is as sweet as honey    รอยยิ้มของเธอช่างหวานปานน้ำผึ้ง

just like the way flowers bloom    เช่นเดียวกับดอกไม้ที่บานสะพรั่ง

in the spring breeze                        ในสายลมฤดูใบไม้ผลิ

 

 

เอาเพลงมาฝากอีกค่ะ เพลง เทียน มิ มิ..甜蜜蜜..หวานปานน้ำผึ้ง.. As sweet as honey

ได้ยินเพลงนี้ทีไร หลับตาเห็น..ผีเสื้อ... บินว่อนในสวนดอกไม้

 ขอบคุณ   www.desktopanimated.com

 

 

บรรเลงขลุ่ย by ThePC

ขอบคุณ youtube และ คุณพิชิตชน ไชยคำวัง

เทียน มิ มิ เป็นเพลงอมตะของจีน เสียงขลุ่ยหวานแว่ว สดใส ช่างโรแมนติคเสียจริงๆ

 

Your smile is as sweet as honey   

รอยยิ้มของเธอช่างหวานปานน้ำผึ้ง

Just like the way flowers bloom    

เช่นเดียวกับดอกไม้ที่บานสะพรั่ง

In the spring breeze                   

ในสายลมฤดูใบไม้ผลิ

            

I wonder where on earth            

ฉันสงสัยนัก..ที่ไหนในโลก          

Where on earth I’ve seen you?    

ที่ไหนในโลก..ที่ฉันได้พบเธอ

Your smile is so familiar to me     

รอยยิ้มของเธอ..ช่างคุ้นเคย

But I still cannot remember where! 

แต่ฉันก็ไม่สามารถนึกออกได้ว่าที่ไหน

 

Ah..... In my dreams...               

อา ..... ในความฝันของฉัน ..

In my dreams I’ve met you        

ฉันได้พบเธอในความฝันนั่นเอง

 

 

ดอกเฟื่องฟ้า  จาก เกาะสิเหร่ ภูเก็ต

เฟื่องฟ้า เป็นดอกไม้ในความทรงจำ คิดถึงดอกเฟื่องฟ้าทีไร คิดถึงความสดใส สดสวย ร่าเริง ของวัยเด็ก

 

ดอกเฟื่องฟ้า  จากเกาะยอ สงขลา

สมัยเรียนอยู่ชั้นอนุบาลและประถมตอนต้นๆ อ้อยหวานเรียนอยู่ที่ โรงเรียนศรีธรรมราชศึกษา จำได้ว่าสมัยนั้น หน้าโรงเรียนมีต้นเฟื่องฟ้าขนาดใหญ่มากๆ เลื้อยไปตามพื้น มัด พัน ขดกิ่งกันจนเป็นพุ่มใหญ่ แต่ละกิ่งก้านขนาดแขนของเด็กตัวโตๆ  อ้อยหวานและเพื่อนๆ ชอบหมุดเข้าไปเล่นในพุ่มเฟื่องฟ้า เราสมมุติว่าเป็นบ้าน มีห้องนอน ห้องครัวเสร็จสรรพ มี ชิงช้ากิ่งเฟื่องฟ้า ให้นั่งเล่น มีเด็กไม่กี่คนที่กล้าหมุดเข้าไป เพราะทุกครั้งที่หมุดเข้าไปนั้น จะได้แผลคนละแผลสองแผล ..หนามเฟื่องฟ้านี่ คมติดใจจำ

 

ดอกเฟื่องฟ้า  จาก เกาะสิเหร่ ภูเก็ต

ดอกเฟื่องฟ้า เป็นดอกไม้ประจำจังหวัดภูเก็ต มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Bougainvillea มีถิ่นกำเนิดจากบราซิล

เป็นไม้ประดับที่ได้รับความนิยมอย่างสูง เฟื่องฟ้าครองแชมป์ยอดฮิตติดอันดับ โดยที่ไม่มีไม้ประดับชนิดใดสามารถชิงแชมป์ไปได้เลย ทั้งนี้เพราะว่าเฟื่องฟ้าเป็นไม้ประดับที่มีคุณสมบัติพิเศษที่น่าสนใจอยู่หลายอย่าง

อ่านรายละเอียดที่ละเอียดมากๆ ตั้งแต่ประวัติ พันธ์ สี และชื่อ ไปจนวิธีการปลูกเพื่อการค้า  ได้ที่นี่ค่ะ  http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=24edd3f9ceef19f7

ขอบคุณ ข้อมูลจาก กายสึยะ แห่ง guru.google

 

กล้วยไม้สกุลหวายจาก นครศรีธรรมราช

กล้วยไม้สกุลหวาย มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Dendrobium  เป็นกล้วยไม้สกุลใหญ่ที่สุด มีการแพร่กระจายพันธุ์ออกไปในบริเวณกว้างทั้งในทวีปเอเชียและหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก

 

กล้วยไม้สกุลหวายจาก ภูเก็ต

นักพฤกษศาสตร์ได้จำแนกออกเป็นหมู่ประมาณ 20 หมู่ และรวบรวมกล้วยไม้ชนิดนี้ที่ค้นพบแล้วได้ประมาณ 1,000 ชนิดพันธุ์

สำหรับกล้วยไม้สกุลหวายที่เป็นกล้วยไม้อยู่ในป่าของไทย มีอยู่หลายชนิด ที่เราคุ้นหูกันดี ก็คือ เอื้องต่างๆ นั่นเอง

 

ดอกเข็ม  จากสวนของโรงแรมชิโนเฮ้าส์ ภูเก็ต

ดอกเข็ม มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Ixora coccinea หรือ Jungle Geranium มีถิ่นกำเนิดในภาคใต้ของอินเดียและศรีลังกา

 

ดอกเข็ม  จากสวนของโรงแรมชิโนเฮ้าส์ ภูเก็ต

เข็ม ใช้เป็นยาพื้นบ้านในหลายๆประเทศ เช่น

ใน ประเทศฟิลิปปินส์ ยาต้มจากราก ใช้เป็นยารักษา อาการคลื่นไส้ สะอึก และเบื่ออาหาร ดอกใช้รักษาบิดและระดูขาว ยาพอกจากใบสดและก้านใช้รักษาเคล็ดขัดยอก เกลื้อน แผลน้ำร้อนลวก และฟกช้ำ ยังมีอีกมากมาย อ่านรายละเอียดได้ที่นี่

http://stuartxchange.com/Santan.html

 

ดอกบานบุรี  จาก บ้านท่านขุนรัฐวุฒิวิจารณ์ นครศรีธรรมราช

ริมรั้วโรงเรียนศรีธรรมราชศึกษา ในสมัยที่อ้อยหวานเป็นนักเรียนอยู่นั้น ปลูกต้นบานบุรีไว้เป็นแถว จำได้ว่ามีอยู่หลายต้นมาก ออกดอกกันดกพราว วันหนึ่งในช่วงพักเที่ยง เรา ..อ้อยหวานและเพื่อนๆ วิ่งเล่นกันแถวๆ นั้น ไม่รู้ว่าใครเป็นต้นคิดที่จะเล่นงานแต่งงาน จะจัดให้เหมือนกับงานแต่งงานในหนังอินเดีย เคยดูไหม? อลังการมากๆ ดอกไม้เยอะๆ เหมือนกับเอามาทั้งสวน ว่าแล้วเราก็แยกย้ายกันไป จัดการเก็บดอกบานบุรี เมื่อดูจนแน่ใจแล้วว่า ไม่มีบานบุรีเหลือติดต้นเลยสักดอก ก็จัดการเด็ดก้านดอกหญ้ามาร้อยมาลัยบานบุรีกัน แต่ยังไม่ทันได้จัดงานแต่งงาน เราก็โดนรวบ ไปยืนก้มหน้าที่ห้องครูใหญ่ พร้อมมาลัยบานบุรีหลายพวง หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น ให้เดากันเอง เพราะจำไม่ได้ อ้อยหวานเลือกจำเฉพาะช่วงที่ที่สนุกๆ เท่านั้น

 

ดอกบานบุรี  จาก บ้านท่านขุนรัฐวุฒิวิจารณ์ นครศรีธรรมราช

บานบุรี  มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Allamanda cathartica หรือ golden trumpet มีถิ่นกำเนิดในเขตร้อนของทวีปอเมริกาใต้จากเปรู โคลัมเบีย เฟรนช์ กิอานา (French Guiana) และบราซิล

หลายประเทศเขตร้อน ใช้ยาต้มจากใบและรากบานบุรี  เป็นยาระบาย แก้จุกเสียดแน่นท้อง ข้อควรระวัง ห้ามใช้ในปริมาณมาก เพราะมีพิษ

สารสกัดจากใบ รากและดอก แสดงผลในห้องทดลองว่า สามารถต่อต้านมะเร็งเม็ดเลือดขาวในหนู และมะเร็งช่องจมูกในมนุษย์ (human carcinoma of the nasopharynx)

 

ดอกดาวกระจาย  จากสวนของโรงแรมชิโนเฮ้าส์ ภูเก็ต

ดาวกระจาย  มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Cosmos sulphureus หรือ Sulfur Cosmos ถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกากลาง ดอกมีเฉดสีตั้งแต่ สีเหลือง ส้มและแดง

 

โปรดติดตามอ้อยหวานเล่าเรื่อง ดอกไม้บนทางผ่าน ในตอนต่อไป

 

อ่านดอกไม้บนทางผ่าน ตอนแรกๆ ได้ที่นี่่ค่ะ

 

http://www.bansuanporpeang.com/node/27717

http://www.bansuanporpeang.com/node/27725

http://www.bansuanporpeang.com/node/27740

 

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่นี่ค่ะ

 

http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=24edd3f9ceef19f7

http://www.kew.org/plants-fungi/Allamanda-cathartica.htm

http://stuartxchange.com/Santan.html

http://tree2go.blogspot.ca/2012/12/dendrobium.html

http://healthyhomegardening.com/Plant.php?pid=1317

 


I would like to Thanks everyone for all the resources for this blog. Thank you.

 

ขอให้เพื่อนๆมีแต่ความสุข

 

ขอบคุณค่ะ

 

 อ้อยหวาน

 

 

 

ดอกไม้บนทางผ่าน ตอน หนังสือดอกไม้

$
0
0
หมวดหมู่ของบล็อก: 

 

สำหรับอ้อยหวาน ดอกไม้ คือ หนังสือเล่มใหญ่ ที่บรรจุทุกอย่างของโลกไว้ ให้เราได้เรียนรู้  หนังสือดอกไม้ บันทึกทุกสิ่งทุกอย่าง ทุกวิชา ตั้งแต่ วิทยาศาสตร์  แพทย์ศาสตร์  ธรรมชาติ วรรณกรรม ปรัชญา และศาสนา มีให้อ่าน ให้เรียนรู้ไม่รู้จบ

 

แค่ติดตามดูดอกไม้ดอกหนึ่ง ตั้งแต่เริ่มเป็นตุ่มเล็กๆ จนแบ่งบาน และในที่สุดก็ปลิดจากขั่ว บางดอกยังทิ้งตุ่มน้อยๆ ที่เติบโตเป็นลูก ก็เหมือนได้อ่านหนังสือเล่มใหญ่

วันนี้ก็มาถึงดอกไม้บนทางผ่านกลุ่มสุดท้าย ดอกไม้ที่อ้อยหวานได้เก็บ (รูป) ไว้เป็นที่ระลึกในช่วงที่ได้กลับไปเยี่ยมบ้าน เป็นช่วงที่ปักษ์ใต้บ้านเราฝนตกทุกวัน ทำให้ทุกอย่างดูชุ่มชื้น เขียวขจี อ้อยหวานได้เก็บรวบรวมเป็นหนังสือดอกไม้ เล่มน้อยๆ เป็นบันทึกในความทรงจำ ดอกไม้แต่ละดอกบอกเล่าเรื่องได้มากมาย..

 

ดอกชวนชม  จาก ริมทาง นครศรีธรรมราช

ชวนชม มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Adenium  แต่ชื่อที่นิยมเรียกคือ desert rose …กุหลาบทะเลทราย มีพันธ์ดั้งเดิมทั้งหมด 12สายพันธ์ และลูกผสมอีกมากมาย เป็นพันธ์ไม้ที่นิยมทำเป็นบอนไซและทำกราฟติ้ง (Grafting)

อ่านรายละเอียดเทคนิคการทำกราฟติ้งชวนชม ได้จากบล็อกเก่าของอ้อยหวาน ที่นี่ http://www.bansuanporpeang.com/node/26306

ชวนชม มีถิ่นกำเนิดในทางตอนใต้ของทะเลทรายซาฮารา ภาคตะวันออกและภาคใต้ของทวีปแอฟริกา ชวนชมเป็นพืชมีพิษ ชนเผ่าทั่วแอฟริกาใช้น้ำยางชวนชมเป็นยาพิษอาบลูกศร สำหรับล่าสัตว์ใหญ่

แต่ก็ยังมีบางชนเผ่า ที่ใช้ชวนชมเป็นยาสมุนไพร เช่นชนเผ่าทาราคา (Tharaka ) ในแคนยา แอฟริกา ผู้หญิงทาราคา จะเคี้ยวเปลือกชวนชม เพื่อให้แท้งลูก แป้งจากก้านใช้เป็นยาทาแก้เหาและหมัดในสัตว์เลี้ยง

ในโซมาเลีย ใช้ยาต้มจากรากชวนชม เป็นยาหยอดจมูกรักษาโรคจมูกอักเสบ ในซาอุดีอาระเบียใช้น้ำยางและเปลือกชวนชม เป็นยารักษาโรคกระดูกเคลื่อน โรคไขข้อเคล็ดขัดยอก อัมพาต บวมแผลติดเชื้อ

 

กล้วยไม้กะเร่กะร่อน  จากเกาะยอ สงขลา

อ้อยหวานเคยเห็นกล้วยไม้กะเร่กะร่อนแว็บไปแว็บมาในขณะนั่งรถ เห็นเกาะอยู่บนต้นตาลหรือต้นปาล์มทั่วไป แต่ไม่เคยมีโอกาสได้หยุดรถลงไปดูใกล้ๆ กะเร่กะร่อนคงได้ชื่อมาจากสถานะเดิมคือเป็นกล้วยไม้ไม่มีสกุล หรือมีสกุลแต่ไม่สูงส่ง เธอเติบโตออกดอกเอง โดยไม่ต้องให้ใครมาดูแล ประคบประหงม อยู่สูงก็ได้ อยู่ต่ำก็ดี บนต้นไม้ บนทราย แม้แต่บนหิน กะเร่กะร่อนก็ไม่หวั่น เธอเติบโตออกลูกออกดอกแพร่กระจายไปทั่ว เธอสมบุกสมบันจนน่าชมเชย น่าเอาอย่าง อ้อยหวานขอตั้งชื่อใหม่ให้ว่ากล้วยไม้เธอเท่ห์มาก

วันนี้มาเจอ กะเร่กะร่อน อย่างใกล้ชิด ออกดอกงดงามหน้าที่พักบนเกาะยอ แอบดีใจแทนเธอ ดีใจว่ามีคนเห็นคุณค่าและความงามของเธอแล้ว เธองามไม่แพ้ใคร และยังชื่นชมเธอที่ไม่ลืมรากเง้าเดิม เพราะยังเห็นเธอตามรายทางเหมือนก่อนเก่า

กล้วยไม้กะเร่กะร่อนมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Cymbidium finlaysonianum 

 

ดอกพลับพลึง  จาก เกาะสิเหร่ ภูเก็ต

พลับพลึง โดย อังคาร กัลยาณพงศ์

       ครั้งปฐมกัลป์ยังหลับใหล อีกวันเดียวพระอาทิตย์จะดับร่วง ดาวพระเสาร์จะโคจรมาชนดวงจันทร์ มหาวายุอุกลาบาต จะพลัดมาล้างโลก พระเป็นเจ้าอนุญาตให้แผ่นดิน หย่อมหญ้า จุลินทรีย์ และสรรพสิ่งในพิภพนี้พูดได้ จะหัวเราะร้องไห้ก็ตามที

       แผ่นดินจึงถามไฟป่าว่า เจ้าไหม้พฤกษาสิ้นป่าดงพงไพร แต่ไฉนเว้นพลับพลึงไว้กอเดียวกลางกองเพลิง นิ่งอยู่ครู่หนึ่งเปลวไฟร้องไห้ แผ่นดินเอ๋ย แต่ชาติปางหลังครั้งยังไม่มีวงแหวนล้อมดาวพระศุกร์ บุรุษหนึ่งแววตาสีกลางคืน วเนจรไปจนตาย กลับชาติเกิดเป็นเปลวไฟ พลับพลึงเคยเป็นมารดา เมื่อรฤกได้ ถึงแม้เราจะเป็นเปลวไฟ แต่ถ้ารู้ว่า จะไหม้สิ่งที่รัก เราก็ขอดับตัวเอง เหลือเพียงผงเถ้าธุลี

       เราเป็นถ่านเถ้าธุลีเสียดีกว่าจะเป็นเปลวไฟไหม้สิ่งที่รักตราบประลัย ฟากฟ้า เวลา นาที เราก็ไม่ลืมความรัก จะพูดไปจนปลายลิ้น เป็นป่าช้าฝังหัวใจเอง แผ่นดินและนานาพฤกษาชาติ ต่างก็สนทนากันเป็นครั้งสุดท้าย แล้วก็ดับวาจาเป็นใบ้ไปชั่วนิรันดร

 

ขอบคุณ ข้อมูลจาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

อังคาร กัลยาณพงศ์ (13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2469 — 25 สิงหาคม พ.ศ. 2555) เป็นทั้งกวีและจิตรกร เกิดที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ศึกษาระดับประถมที่ โรงเรียนวัดจันทาราม ต่อมาก็เรียนที่วัดใหญ่จนจบประถมสี่ แล้วย้ายไปเรียนที่โรงเรียนมัธยมประจำจังหวัด คือ โรงเรียนเบญจมราชูทิศ นครศรีธรรมราช ศึกษาศิลปะที่โรงเรียนเพาะช่าง และที่คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร

จิตรกรกวี อังคาร กัลยาณพงศ์ หรือ ที่คนทั่วไปเรียกติดปากว่า ท่านอังคารผู้เป็นเจ้าของรางวัลกวีนิพนธ์ดีเด่นคนแรกของ มูลนิธิเสฐียรโกเศศนาคะประทีป ปี 2515 , รางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน หรือ ซีไรต์ (S.E.A. Write ) ปี 2529 จากผลงานกวีรวมเล่มชื่อ "ปณิธานกวี"และ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ (กวีนิพนธ์) ปี 2532

 

ขอบคุณ ข้อมูลจาก  WIKIPEDIA

 

อ้อยหวาน ขอคารวะ ท่านอังคาร ด้วยใจจริง ท่านคือยอดกวีที่แท้จริง

 

ดอกพลับพลึง  จาก เกาะสิเหร่ ภูเก็ต

พลับพลึงมีชื่อภาษาอังกฤษว่า Crinum asiaticum หรือ Spider Lily

คนอีสานมักจะเรียกพลับพลึงว่า ว่านชน เนื่องจากเมื่อพลัดตกหกล้มหรือไปชนกระแทกอะไรมาก็ให้ใช้ว่านนี้รักษา ประโยชน์ทางยาของพลับพลึงนั้น เป็นที่รู้กันโดยหมอยาในหลายท้องที่นิยมใช้แบบเดียวกันนั่นคือใช้พลับพลึงในการแก้ฟกช้ำดำเขียว แก้อักเสบ เคล็ดขัดยอก ปวด บวม โดยวิธีใช้ก็แสนง่าย เพียงนำใบพลับพลึงมาย่างไฟให้ตายนึ่ง คือย่างพอให้ใบอ่อนตัวลง แล้วพันรอบอวัยวะที่เจ็บ หัก บวม ปวดเมื่อย เคล็ดขัดยอก นอกจากนี้ในมารดาหลังคลอดก็นิยมใช้ใบพลับพลึงในการทับหม้อเกลือ ที่ท้อง สะโพก เพื่อลดอาการอักเสบ ฟกช้ำ จากการคลอดลูก และเพื่อให้มดลูกเข้าอู่เร็ว หรือคนที่ปวดศีรษะ ก็สามารถนำใบพลับพลึงอังไฟ แล้วมาพันรอบศีรษะไว้ อาการปวดก็จะทุเลาลง  แต่ถึงแม้ประโยชน์ของเจ้าว่านชนจะมีมากมาย ก็ใช้ได้แค่ภายนอกเท่านั้น ไม่ใช้เป็นยากินเนื่องจากมีพิษ

ขอบคุณ ข้อมูลจาก  หนังสือสมุนไพรอภัยภูเบศร

 

กนกนารี  จากสวนของโรงแรมชิโนเฮ้าส์ ภูเก็ต

กนกนารี มีชื่อภาษาอังกฤษว่า  Selaginella plana หรือ Asian Spikemoss มีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดีย อินโดจีน และอินโดนีเซีย

กนกนารีเป็นพืชเก่าแก่ชนิดหนึ่งของโลก ถึงแม้ว่าจะผลิตสปอร์ได้เหมือนกับเฟิร์น แต่กนกนารีไม่ใช่พืชในตระกูลเฟิร์น กนกนารีเป็นพืชตระกูล Spikemoss ที่มีทั้งหมดด้วยกัน 700 สายพันธุ์

 

ดอกบัวสีน้ำเงิน  จาก ศาลหลักเมือง นครศรีธรรมราช

ดอกบัวสีน้ำเงิน มีชื่อภาษาอังกฤษว่า  Nymphaea caerulea หรือ Blue Egyptian water lily

ดอกบัวสีน้ำเงิน ถือเป็นดอกไม้ศักดิ์สิทธิของอียิปต์  ดังจะเห็นภาพบัวชนิดนี้อยู่ตามผนังสุสานสมัยโบราณ เช่นเดียวกับหัวเสาหิน ซึ่งนิยมสลักเป็นรูปดอกบัว ความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ทำให้ดอกบัวชนิดนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของประเทศอียิปต์ตอนบน

ดอกบัวสีน้ำเงินนี้มีความเชื่อมโยงกับตำนานเรื่องการสร้างโลก ซึ่งชาวอียิปต์โบราณเชื่อว่า เดิมจักรวาลเป็นที่มืดเต็มไปด้วยมหาสมุทร ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆ ต่อมามีดอกบัวสีน้ำเงินขนาดยักษ์ผุดขึ้นจากน้ำและค่อยๆ แย้มกลีบออก พระผู้สร้างที่ถือกำเนิดขึ้นทรงประทับอยู่ตรงใจกลางดอกซึ่งเป็นสีทอง กลิ่นหอมหวานจากดอกบัวได้อบอวลไปทั่วพื้นน้ำ แสงสว่างสาดส่องออกมาจากร่างของพระองค์ เพื่อขับไล่ความมืดให้อันตรธานไป พระผู้สร้างนี้ก็คือองค์สุริยเทพ ราซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของสรรพชีวิตนั่นเอง

 

ดอกบัวสีน้ำเงิน  จาก ศาลหลักเมือง นครศรีธรรมราช

ในสมัยอียิปต์โบราณ ถือว่าดอกบัวสีน้ำเงินเป็นยาชูกำลัง ที่เหนือกว่าโสม เป็นยาเสริมสร้างสมรรถภาพทางเพศ ที่เหนือกว่าไวอากร้า ป็นยากระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ที่เหนือกว่าใบแปะก๊วย

คนอียิปต์โบราณ นิยมบริโภคดอกบัวสีน้ำเงินใน 3 รูปแบบคือ ชาดอกบัวสีน้ำเงิน เหล้าไวน์หมักด้วยดอกบัวสีน้ำเงิน และบุหรี่ ผสมด้วยดอกบัวสีน้ำเงินแห้ง สรรพคุณคล้ายกับใบกระท่อมนั่นเอง

 

ดอกชบา   จาก ริมทาง นครศรีธรรมราช

ชบาเป็นพืชตระกูลใหญ่ มีทั้งกลีบซ้อนและกลีบลา มีหลายสีให้เลือกมากมาย ลองแวะเข้าไปดูในลิงค์นี้   http://www.exotic-hibiscus.com/  แล้วจะร้องว่า โอ้..เจ้าดอกชบา  งามแท้ๆ แม่คุณเอ๋ย มีหลายสี หลายลาย แต่ละดอกธรรมชาติช่างสร้างสรร และมนุษย์มาเติมต่อ สรรสร้างให้อีก ทำให้มีชบาที่มีสีและรูปทรงงามแปลกตา

 

ดอกชบา   จากสวนของโรงแรมชิโนเฮ้าส์ ภูเก็ต

ชบาแบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ๆ เป็น 2 กลุ่ม คือ ชบาเขตร้อน และ ชบาเขตหนาว ชบาเขตหนาว ซึ่งเป็นชบาที่สามารถปลูกได้ที่แคนนาดา ในฤดูหนาวต้นชบาจะตายหมด แต่รากจะนอนหลับ เพื่อจะเติบโตเป็นต้น ออกดอกอีกครั้งในฤดูร้อน

*****หมายเหตุ ในรูปเป็นชบาเขตร้อน

 

ดอก Brazilian Red Cloak  จากบ้านคุณไหม หาดใหญ่

ดอก Brazilian Red Cloak อ้อยหวานไม่ทราบชื่อไทย มีชื่อทางพฤกษศาสตร์ว่า Megaskepasma erythrochlamys  ที่จริงดอกของ Brazilian Red Cloak นี้ จะต้องชูช่อโดดเด่น เงยหน้าอวดฟ้าสวยงามนัก แต่เธอโดนฝนซัดสาดมาหลายวัน ไม่สามารถชูหน้าอวดฟ้าได้ เพราะช่อใหญ่ รวมกลุ่มกันหลายดอก แม้นก้มหน้า เธอก็ยังงามไม่น้อยเลย

 

หยดน้ำบนใบบัว  จากเขาคอหงส์ หาดใหญ่

หากบัวเป็นหนังสือ ก็คงเป็นหนังสือเล่มใหญ่ มีเรื่องเล่า มีเรื่องให้ศึกษาและให้อ่านมากมาย แค่หยดน้ำบนใบบัว ก็มีเรื่องราวหลายเรื่อง อ้อยหวานขอเริ่มเปิดไปที่หน้าวิทยาศาสตร์

นักวิทยาศาสตร์เรียก ปฏิกิริยาที่หยดน้ำกลิ้งบนใบบัวว่า lotus effect อธิบายแบบรวบรัดได้ว่า เพราะพื้นผิวของใบบัวมีลักษณะคล้ายหนามเล็ก ๆ จำนวนมากมายมหาศาลเรียงตัวอยู่ และยังมีปุ่มเล็ก ๆ ที่มีคุณสมบัติคล้าย ขี้ผึ้งเคลือบอยู่ภายนอก ทำให้น้ำไม่สามารถกระจายตัวบนใบบัวได้ จึงต้องกลิ้งไปกลิ้งมาอย่างที่เราเห็น นักวิทยาศาสตร์ได้วิวัฒนาการ lotus effect  มาใช้ในการเคลือบพื้นผิวของวัสดุต่าง ๆ เช่น สีทาบ้าน ผลิตภัณฑ์แก้ว เสื้อกันฝน และผลิตภัณฑ์กันน้ำอื่นๆ

 

หยดน้ำบนใบบัว  จากเขาคอหงส์ หาดใหญ่

เมื่อพลิกหนังสือเล่มนั้นไปอีกหน่อย ก็จะไปถึงหน้าปรัชญา มีคำสอนที่ระบุไว้ในคัมภีร์พระเวทของอินเดีย องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัสว่า  "โอ้มนุษย์! ชีวิตของเจ้านี้  เหมือนหยดน้ำวิ่งวนอยู่บนใบบัว  ซึ่งอาจจะตกลงมาจากใบบัวไม่นาทีใดก็นาทีหนึ่ง ซึ่งขอแปลง่ายๆว่า..

ชีวิตคือความไม่แน่นอน เปรียบเหมือนกับหยดน้ำบนใบบัว นาทีหนึ่งแปร่งประกาย ดุจเพชร อีกนาทีหนึ่ง วูบลับตกจากใบบัว

 

หยดน้ำบนใบบัว  จากเขาคอหงส์ หาดใหญ่

ส่วนในพุทธศาสนา มีพุทธภาษิตกล่าวไว้ว่า

หยาดน้ำไม่ติดบนใบบัว วารีไม่ติดบนดอกบัวฉันใด

ผู้เข้าถึงธรรม ก็ไม่ติดในรูปที่เห็น เสียงที่ได้ยิน และอารมณ์ที่รับรู้  ฉันนั้น

และอีกบทหนึ่งคือ

ผู้ใดไม่ติดในกาม เหมือนหยาดน้ำไม่ติดใบบัว

และเมล็ดผักกาดไม่ติดปลายเข็ม

ผู้นั้นเราเรียกว่า พราหมณ์

 


อ้อยหวานขอบคุณเพื่อนทุกๆคน ที่แวะมาเปิดอ่านหนังสือดอกไม้เล่มน้อยของอ้อยหวาน หวังว่าหนังสือเล่มนี้ ได้ให้อะไรแก่ผู้อ่านบ้าง อย่างน้อยก็..รอยยิ้ม

 

อ่านดอกไม้บนทางผ่าน ตอนแรกๆ ได้ที่นี่่ค่ะ

 

http://www.bansuanporpeang.com/node/27717

http://www.bansuanporpeang.com/node/27725

http://www.bansuanporpeang.com/node/27740

http://www.bansuanporpeang.com/node/27747

 

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่นี่ค่ะ

http://www.kew.org/science-conservation/save-seed-prosper/millennium-seed-bank/using-our-seeds/helping-communities-worldwide/useful-plants-project/adenium-obesum/UPP-Adenium-obesum.htm

http://thebiggestplantdictionary.blogspot.ca/2012/04/selaginella-plana-biggest-plant.html

http://www.abhaiherb.com/knowledge/thaiherb/2182

http://sangkae.wordpress.com/2009/10/04/%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%A7-%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3/

http://www.bluelotus-export.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=329676

http://www.antiguahorticulture.com/912/

http://annstropics.com/Descriptions/Megaskepasma_erythrochlamys-Brazilian_Red_Cloak.html

http://www.p2i.com/blogs/articles/magic_lotus_leaf_natures_nanotechnology

http://www.harekrsna.de/Lotus-FLower.htm

http://www.kanlayanatam.com/sara/sara84.htm

 


I would like to Thanks everyone for all the resources for this blog. Thank you.

 

ขอให้เพื่อนๆมีแต่ความสุข

 

ขอบคุณค่ะ

อ้อยหวาน

 

Viewing all 244 articles
Browse latest View live