บล็อกนี้อ้อยหวานจะพาเพื่อนๆ ไปจักรยานปั่นเที่ยวเมืองคอนบ้านเกิดของอ้อยหวานกันต่อ เที่ยวตลอดเลยนะอ้อยหวาน ใครค่อนแคะก็ไม่รู้ แต่มันก็เป็นความจริง เพราะอ้อยหวานถือคติว่า การออกไปท่องเที่ยวคือการไปเรียนรู้ประสบการณ์จริง ที่หนังสือ หรือโรงเรียนให้ไม่ได้ การได้ดมกลิ่นสายลม สัมผัสแสงแดด เรียนรู้ประเพณี วัฒนธรรมท้องถิ่น พบปะผู้คนต่างถิ่น ต่างเชื้อชาติ ต่างภาษา คือการเรียนรู้โลก และการเรียนรู้โลกคือการเรียนรู้ตัวเอง
สำหรับอ้อยหวานแล้ว ไม่มีวิธีใดในการท่องไปเรียนรู้โลกและตัวเอง ที่ดีไปกว่าการปั่นจักรยานเที่ยว ขอย้ำ อีกที...ไม่มีวิธีใดที่ดีไปกว่าการปั่นจักรยานเที่ยวอีกแล้ว อ้อ.. แต่ยังมีวิธีที่ดีพอๆ กัน คือการเดินเที่ยว อ้อยหวานอ่านบล็อกของคู่ออสเตรเลียที่ชอบเดินเที่ยวทั่วฝรั่งเศส อ่านบล็อกของเขาได้ ที่นี่และเคยผ่านตากับบางคนที่เดินทางทั่วยุโรบบนม้า! โหสุดยอดเลย!
หลายคนบ่นว่าอากาศเมืองไทยร้อน ปั่นจักรยานก็แย่นะสิ ขอบอกว่าไม่แย่ ทำมาแล้ว หลายครั้งนับไม่ถ้วน ด้วยการออกจากบ้านแต่เช้าพร้อมพระอาทิตย์ ดวงไฟต่างๆ ที่ศาลหลักเมืองนครศรีฯ ยังไม่ดับเลย เช้าๆ อากาศดี สดชื่น แสงสีก็สวยด้วยสำหรับการถ่ายรูป
ปั่นเลยไปที่อื่นก่อน แล้วย้อนกลับมาถ่ายรูปที่ศาลหลักเมืองอีกครั้ง แม้วันนั้นฝนตกนิดหน่อย คนปั่นจักรยานก็ยังไม่ถอยเลย เรียกว่า ‘อิน’ แล้ว ก็ ‘อิน’ เลย
อ่านประวัติศาลหลักเมืองนครโดยละเอียดได้ ที่นี่
ถูกใจกับกระถางธูปด้านหลังศาลหลักเมือง มีพระราหูอมจันทร์อยู่สามตน สวยแปลกตามาก
ออกจากบ้านไปไม่ไกลก็เจอสวนแล้ว เมืองคอนนี้ดีหนักหนา ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว มีสวนยาง มีสวนมังคุด และอื่นๆ อีกมากมาย
อ้อยหวานเคยเขียนเล่าในบล็อกก่อนโน้นว่า คุ้นเคยกะยางพารามาตั้งแต่ตัวน้อยๆ เพราะตาและพ่อต่างทำมาหากินเลี้ยงครอบครัวมากับยางพารา เจอสวนยางทีไรก็ต้องหยุดชมทุกครั้ง
คราวนี้มีนางแบบด้วย อ้อยหวานขออนุญาติถ่ายรูปป้า ก็เลยได้ยิ้มหวานเจี้ยบมาฝากเพื่อนๆ อย่าลืมทำงานกันอย่างมีความสุขนะ (ยิ้มป้าบอก)
เก็บรูปการตัดยางหรือกรีดยางมาให้แม่ (อดีตผู้รู้เมื่อห้าสิบกว่าปีมาแล้ว) ดู แม่บอกว่าโอ้เดี๋ยวนี้แตกต่างจากเมื่อก่อนมาก วิวัฒนาการยางพาราก้าวล้ำนำหน้าอย่างกับไอแพดเลย คงเป็นยางพันธ์ใหม่ที่กรีดตั้งแต่อายุน้อย ในยามสาย แม่ว่าอย่างงั้น เพราะแต่ก่อนต้องตื่นกันตั้งแต่ยามสองยามสามมากรีดยาง พอสายก็เก็บน้ำยางกันแล้ว นี่หกโมงเช้าป้าเพิ่งแต่งตัวสวยมาทำงาน ยางพาราก้าวไปไกลจริงๆ
ทุกเช้าที่ออกไปโต๋เต๋บนจักรยาน อ้อยหวานจะสวนทางกับชาย (ขอย้ำ ‘ชาย’ เพราะมีแต่ผู้ชายเท่านั้นที่ทำอย่างนี้) บนรถมอเตอร์ไซด์ มือเดียวขับรถ อีกมือหนึ่งถือกรงนก (อย่างทะนุถนอม) สวนทางกะอ้อยหวานไปหลายคัน อย่างนี้ต้องตามไปดู แล้วรู้ว่าโก๋เขานัดกันที่คาเฟ่นก เก๋ไหม?
นุ่งสโร่ง ขี่มอเตอร์ไซด์ ถือกรงนกหัวจุก เปิดตำราโก๋เมืองคอน
หนุ่มๆ ก็เม้าส์กันไป ส่วนนกๆ ก็ส่งเสียงเจี้ยวจ้าวไม่แพ้กัน
อีกมุมหนึ่งของเมืองคอน อ้อยหวานเคยพามาแล้วในบล็อกเก่าเก็บ แต่อยากให้ชมอีก ‘ปากนคร’ นี้มาบ่อย เพราะปั่นสิบสองกิโลเมตรจากบ้าน ไปกลับยี่สิบสี่กิโล กำลังพอเหมาะ ได้เหงื่อดี วิวสวย บรรยากาศสงบ สุดปลายปากนครจะมีศาลาหลวงปู่ทวด และสะพานตัวที (T) ที่ทอดตัวยาวออกไปในทะเล
ยามเช้าสีสันสวยสุดใจ มีสีชมพูนิดๆ
อีกด้านหนึ่งมีนักปั่นจองกันเต็ม
ปั่นกันมาจากในตัวเมือง แล้วปั่นกลับ.. สนุกกว่าขี่มอเยอร์ไซด์อีกนะ
รูปนี้พยายามทำให้เป็นรูปหัวใจพระอาทิตย์ แต่มีมือเดียว อีกมือถือกล้องถ่ายรูป เลยมีมีคนบอกว่าเหมือนปลาวาฬกระโดดขึ้นมางับพระอาทิตย์ ไม่รู้ดูกันยังไง!!
กลับมาที่ลานวัดพระธาตุนครศรีธรรมราชกันอีกครั้ง เพราะอยากบอกข่าวงานใหม่ล่าสุด ถนนคนเดินที่มีชื่อเก๋ว่า ‘หลาดหน้าพระธาตุ’
เอารูปที่น้องส่งมา ลงให้ดู ว่าสนุกสนาน น่าสนใจแค่ไหน
ด้วยสโลแกน “ ตลาดต้องชม บนถนนสายธรรม”
หลาดหน้าพระธาตุจัดขึ้นทุกวันเสาร์ 16.00-21.00 น. อย่าพลาดชม หากแวะไปที่เมืองคอน
ไหว้พระเสร็จก็เดินชมตลาดต่อ ขอบอกว่าตอนนี้องค์พระธาตุมีโครงเหล็กล้อมอีกแล้ว! เป็นเพราะเหตุอันใด อ้อยหวานหารู้ไม่ แต่ขอจบบล็อกนี้ เพียงนี้แหละ
โปรดติดตามอ้อยหวานเล่าเรื่อง “ก้าวเท้าที่นำไป ” ในตอนต่อไป
อ่าน “ก้าวเท้าที่นำไป ” ตอนแรก
ก้าวเท้าเดิน..ตามเสียงเรียกร้องของหัวใจ
สองล้อเที่ยวชมวิถีชีวิตเมืองคอน 1
ขอให้เพื่อนๆ มีแต่ความสุข
ขอบคุณค่ะ
อ้อยหวาน