วันนี้อ้อยหวานพาเพลินจะนำลูกทัวร์ไปเปลี่ยนบรรยากาศ จากชมดอกไม้มาเป็นชมภูเขากันบ้าง และจากเดินชมกันหลายวันจนแข้งขาร้าวระบม เราจะเช่าจักรยานแล้วปั่นรอบทะเลสาบที่ตั้งอยู่ตรงเชิงภูเขาฟูจิ ภูเขาที่ชื่อดังที่สุดของญี่ปุ่น และเป็นสัญาลักษณ์ของประเทศ
ก่อนเริ่มปั่นเที่ยวกัน เรามาทำความรู้จักกับฟูจิกันนิดหน่อยนะค่ะ
ภูเขาฟูจิ เป็นภูเขาไฟที่ยังไม่ดับหรือยังมีพลัง ระเบิดครั้งล่าสุดในปี 1707–1708 และมีความสูง 3,776.24 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล จัดว่าเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น และอาจจะสวยที่สุดเช่นกัน ภูเขาฟูจิยังเป็นภูเขาที่ศักดิ์สิทธ์ที่สุดของญี่ปุ่นอีกด้วย
ยัง..ยังไม่หมด เธอยังได้ตำแหน่งภูเขามรดกโลกจากองค์กรยูเนสโก้
ความงามของเธอปรากฎอยู่ในศิลปะญี่ปุ่นมาแต่โบราณ ทั้งภาพวาด ภาพเขียน และบทกวี เรียกได้ว่าเธอเป็นดาวค้างฟ้าเลยทีเดียว
และแน่นอนอยู่แล้ว ใครที่มาญี่ปุ่นแล้วไม่ได้ชมโฉมเธอ ก็ถือว่ายังไปไม่ถึงญี่ปุ่น เผลอๆ ถูกโดนไล่ให้กลับไปอีกรอบ
ว่าแล้ว เรายกพวกไปชมโฉมเธอกันเถอะ
ทะเลสาบคะวะโกะชิกุถือว่ามีทำเลที่ดีที่สุดสำหรับชมวิวภูเขาฟูจิ ตั้งอยู่ตรงเชิงเขาทางทิศเหนือ และมีรูปร่างรีๆ คล้ายเมล็ดถั่วแดง ปั่นจักรยานรอบทะเลสาบไม่ใกล้ไม่ไกล 35 กิโลเมตรเท่านั้นเอง ปั่นชิว ชิว มีขึ้นลงเนินกันนิดหน่อยให้หอบอ่อนๆ แต่วิวสวยมากมาย และที่สำคัญคือ เราได้ปลีกวิเวกจากนักท่องเที่ยวเป็นโขยงอีกด้วย
ดูดิ พอลงจากรถไฟปั๊บก็ได้เจอเธอเลย อยู่ด้านหลังสถานีรถไฟเลยทีเดียว หน้าสถานีมีร้านให้เช่าจักรยานอยู่สองสามร้าน เลือกคันเหมาะๆ จ่ายตังส์ แล้วไปกันเลย
ใครไม่ถนัดถีบรถ จะเลือกถีบเรือหงส์แทนก็ไม่ว่ากัน แต่บอกไว้ก่อนนะว่าจะไม่เห็นอะไรมาก เห็นแต่น้ำกับฟ้าและมีเธอยืนเด่น ดูแป๊ปเดียวก็เบื่อแล้ว
ปั่นจักรยานมีที่ให้หยุดแวะชมมากมาย ได้พักเหนื่อยอีกด้วย รอบทะเลสาบมีศาลเจ้าเล็กๆ แบบนี้อยู่ 7 แห่ง เป็นศาลของเทพเจ้าแห่งความโชคดีทั้งเจ็ด แต่ละศาลเจ้าตั้งอยู่กระจัดกระจายทั่วริมฝั่งทะเลสาบ
นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวให้หยุดชม และหยุดถ่ายเงินออกจากกระเป๋าตังส์อีกมากมาย เช่น พิพิธภัณฑ์ 7-8 แห่ง ร้านค้า สวนสนุก แต่บอกตรงๆ ว่าไม่ได้หยุดถ่ายเงินในกระเป๋าออกเลย เพราะแต่ละแห่งมีคนมหาสาร
ตรงนี้เป็นร้านค้าขนาดใหญ่ที่ปลูกลาเวนเดอร์เป็นสวน เอาไว้เรียกแขก แต่ช่วงนี้ยังหนาวเกินไป ลาเวนเดอร์ยังไม่เกิด
ไม่เกิด.. แต่วิวสวยนะ พูดภาษาไทยกันกระหึ่มเลย นักท่องเที่ยวไทยติดอันดับท็อปห้าของนักท่องเที่ยวในญี่ปุ่นเลยทีเดียว
เราไปต่อกันเลยนะ ไม่ต้องแวะหรอก ถึงแม้ว่าในร้านมีของชวนน้ำลายไหล และชวนให้เสียตังส์อยู่มากมาย แต่ปั่นจักรยานขนไม่ได้อยู่แล้ว เอ้า อยากหยุดก็หยุด แล้วเข้าห้องน้ำห้องท่าให้เรียบร้อยด้วย ให้เวลาสิบห้านาที อย่าลืมแวะชิมไอศครีมลาเวนเดอร์ด้วยละ นุ่มๆ มันๆ หอมอร่อย อ้อยหวานไม่ได้ถ่ายรูปในร้าน เพราะคนเยอะมาก
ปั่นต่อไปอีกนิดก็มาถึงตรงนี้ เป็นทางไม้ปั่นสบาย ฟูจิ เธอก็ยังอยู่กะเรา สวยพริ้งไปเลย
มีปั่นผ่านสวนด้วยนะ ตรงนี้เป็นสวนบลูเบอรี่ แต่ช่วงเดือนเมษายน บลูเบอรี่ยังนอนหลับไหลไร้ใบ เพราะแถบนี้ก็สูงพอสมควร อากาศจะอบอุ่นช้ากว่าที่ราบด้านล่าง
ถึงตรงนี้ วิวสวยขาดใจ!
เรามาถึงกึ่งกลางของระยะทางทั้งหมด
ไม่ต้องกลัวหิวน้ำเลยละ มีเครื่องแบบนี้อยู่มากมายหลายจุด อยากดื่มน้ำชนิดไหนจัดให้ทุกแบบ แถมเย็นเจี๊ยบด้วยนะ จุดนี้ห่างไกลผู้คนและนักท่องเที่ยว บ้านเรือนก็ไม่มีสักหลัง
สถานที่เดียวที่เราหยุดชมกันนานหน่อย ศาลเจ้าริมฝั่งทะเลสาบ
เป็นศาลเจ้าเล็กๆ แต่สวยดี แถมคนน้อยอีกด้วย
ถึงเวลาเรียนรู้เล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับศาลเจ้าชินโต นอกจากประตูโทริที่อ้อยหวานเคยเล่าให้ฟังในบล็อก ประตูโทริประตูสู่แดนศักดิ์สิทธิ์ แล้ว ยังมีสิ่งที่น่าสนใจใคร่ชมอีกหลายอย่าง เช่น เชือกศักดิ์สิทธิ์ชิเมะนะวะ (shimenawa) ถ้าเดินไปเจอเชือกแบบนี้ รู้ไว้เลยว่ามาเจอสิ่งศักดิ์สิทธิ์เข้าแล้ว ถ้าผูกรอบต้นไม้ ก็แสดงว่าต้นไม้ต้นนั้นเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ผูกก้อนหิน=ก้อนหินศักดิ์สิทธิ์ ฉะนั้นจงสำรวมอย่าหึกเหิมไปปีนเล่น (อะไรทำนองนี้)
อ่างน้ำสำหรับชำระล้างทำความสะอาดก่อนไหว้เทพเจ้า ใช้ล้างมือ และล้างปาก คือล้างมือเสร็จก็ตักน้ำใส่ฝ่ามือ ป้วนปาก จะคายน้ำออกหรือกลืนลงไปก็ได้ คนญี่ปุ่นเขาจะพกผ้าเช็ดมือของตัวเอง ล้างมือเสร็จจะได้เช็ดมือให้แห้ง เพราะเขาไม่มีกระดาษไว้ให้ และนี่คือเหตุผลที่ว่าตามร้านต่างๆ เขาถึงมีผ้าเช็ดมือน่ารักๆ ขายกันมากมาย ไม่พกไปล้างมือเสร็จก็ต้องเช็ดกับเสื้อตัวเอง แล้วน้ำก็เย็นเจี๊ยบเลยละ
น้ำใสสะอาด อ่างก็จัดอย่างสวยงาม อ่างน้ำของแต่ละแห่งจะแตกต่างกันไปไม่มากก็น้อย และสวยๆ กันทั้งนั้น มีที่วางตะบวยให้เรียบร้อย แม้แต่เด็กๆ ญี่ปุ่น เมื่อล้างมือล้างปากแล้ว จะวางตะบวยเก็บที่เดิมอย่างเรียบร้อย มีระเบียบกันจริงๆ
แผ่นไม้เอะมะ (Ema) เป็นแผ่นไม้สำหรับเขียนคำอธิษฐานของลัทธิชินโต มีหลายรูปแบบแตกกันแต่ละศาลเจ้า อยากทราบที่มาที่ไปของแผ่นไม้นี้ อ่านได้ที่ “แผ่นเอะมะ แผ่นไม้อธิษฐาน เขียนคำอธิษฐาน ส่งสารแด่เทพเจ้า” อ้อยหวานเขียนไว้ค่อนข้างละเอียด และมีรูปให้ดูด้วย แต่ที่ลืมบอกไปในบทความก็คือ พอถึงปีเขาเก็บรวบรวมและมีงานก่อกองไฟ ก็มีแผ่นไม้นี่แหละเป็นฟืน คำอธิษฐานลอยล่องเป็นควันถึงเทพเจ้า
เมื่อสองสามเดือนก่อนน้องเบลลูกสาวของอ้อยหวานไปเที่ยวญี่ปุ่นกับน้องชาย ขากลับซื้อมาเป็นของฝากใหอ้อยหวาน เพราะเขาเห็นว่ามีรูปดอกไฮเดรนเยียสวยดี แม่ชอบดอกไม้ ทำเอาแม่ร้องเสียงหลง ก็ไม่เคยเห็นใครซื้อเอากลับบ้านนะสิ แล้วนี่เขามีเคล็ดอะไรหรือเปล่าก็ไม่รู้!
ออกจากศาลเจ้า ก็มาเจอกับสวนสมุนไพร ที่นี่มีปลูกอยู่หลายชนิด แต่ดูเหมือนว่ามีลาเวนเดอร์มากที่สุด เดือนกรกฎาคมคงจะเป็นทุ่งสีม่วงสวย รูปฟูจิกับทุ่งลาเวนเดอร์คงงามน่าดู เลยมาฝั่งนี้ ก็อยู่ตรงเชิงฟูเขาฟูจิพอดี ไม่มีทะเลสาบคั่น
ปั่นจักรยานรอบทะเลสาบ 35 กิโลเมตร และได้ชมโฉมเธอจนหนำใจ เสียดายที่ดอกซากุระของที่นี่ยังไม่บานกัน เพราะอากาศหนาวกว่าที่อื่นๆ แต่ไม่เป็นไรเพราะเราตั้งใจมาชมโฉมเธอเท่านั้น
ในที่สุดอ้อยหวานได้ขีดถูกในรายการสถานที่ที่ฝันอยากไปปั่นจักรยาน ….ปั่นจักรยานชมภูเขาฟูจิ ไปมาแล้วนะ
ฝาครอบท่อระบายน้ำของแถบนี้ แน่นอนต้องมีเธอ!
โปรดติดตามอ้อยหวานเล่าเรื่อง “ก้าวเท้าที่นำไป ” ในตอนต่อไป
อ่าน “ก้าวเท้าที่นำไป ” ตอนแรก
ก้าวเท้าเดิน..ตามเสียงเรียกร้องของหัวใจ
สองล้อเที่ยวชมวิถีชีวิตเมืองคอน 1
สองล้อเที่ยวชมวิถีชีวิตเมืองคอน 2
ขอให้เพื่อนๆ มีแต่ความสุข
อ้อยหวาน