ทุกๆเช้าที่อ้อยหวานออกไปปั่นจักรยาน ถึงแม้จะเป็นการออกกำลังกาย แต่อ้อยหวานจะออกจากบ้านไปเหมือนไปปั่นจักรยานเที่ยว มีวางแผนเส้นทาง จะ 25 หรือ 30 หรือ บางครั้ง 45 กิโล จะเลี้ยวซ้าย ขวาหรือตรงไป ริมแม่น้ำหรือ ริมคลอง ทำให้สนุกมาก
ถึงแม้ว่าเส้นทางเล่านี้เคยผ่านมานับไม่ถ้วน
เช้านี้ก็เช่นเคย จุดหมายปลายทางที่ผ่านมา ผ่านไป นับไม่ถ้วน ตรงจุดนี้ที่ใจรัก ต้องหยุดแวะทุกๆครั้ง ครั้งละนานๆ
ประติมากรรมหินสมดุล (Rock Balance)
อ้อยหวานเคยพามาชมเมื่อปีที่แล้ว อ่าน..พาไปดูหินธรรมดาๆที่ไม่ธรรมดา…ได้ที่นี่่ค่ะ
http://www.bansuanporpeang.com/node/23739
จุดนี้ที่เป็นจุดๆเดียวกับที่คน อีกคนหนึ่งชอบและหลงรัก
จอห์น เฟลิส เซปราโน (John Felice Ceprano) อาชีพนายพยาบาล งานอดิเรก ประติมากรรมหินสมดุล (Rock Balance) พอหิมะละลาย และเริ่มฤดูใบไม้ผลิของทุกๆปีจอห์นมาทำ‘หินสมดุล’ ของเขาเงียบๆ ทีละอัน สองอัน
ขอบคุณภาพจาก นสพ ออตตาวา ซิตี้เซ็น
เมื่อหมดฤดูหนาวแล้ว อ้อยหวานก็ปั่นจักรยานมาชมเงียบๆ ทุกๆปี เดือนแรกๆอาจจะมีไม่มากนัก
แต่ในเดือนสิงหาคมของทุกปี เมืองออตตาวาจะมี ‘งานประติมากรรมหินสมดุล’ โดยมีจอห์นเป็นหัวเรี่ยวหัวแรง เชื้อเชิญเพื่อนๆร่วมอุดมการจากหลายๆประเทศ มาร่วมกันสร้างสรร และมีเทศบาลเมืองออตตาวาเป็นผู้สนับสนุน
กว่าจอห์นจะมาถึงจุดนี้ได้ ใช้เวลาสิบกว่าปี
หลายคนรวมทั้งอ้อยหวาน ซาบซึ้งในงานศิลปของเขา
แต่หลายคนไม่ บางคน (ที่ไม่มีหัวสร้างสรร) ก็หัวเราะเยาะ ปากก็ว่า ไร้ประโยชน์ เปลืองที่ เปลืองเวลา และเปลืองเงิน
ในขณะที่อีกบางคน (ที่ไม่มีหัวสร้างสรรเช่นกัน) ก็ต่อต้าน หาว่าเขาทำลายธรรมชาติ อ้างประเด็นแบบเดียวกับ ‘สวนสัตว์’ ว่าก้อนหินควรจะอยู่ตามที่ทางของมัน
ความคิด ความเห็น ที่แตกต่างกันมีอยู่ในทุกๆมุมโลก เพราะมนุษย์เราชอบมองแค่จุดเดียว ด้านเดียว หรือมุมเดียว โดยเฉพาะมุมที่ตัวเองคุ้นเคย แล้วก็ก็ตัดสินลงไปว่า ‘ถูกหรือผิด’
โชคดีที่ที่นี่เขามีการเปิดโอกาสให้บุคคลทุกๆฝ่าย ตั้งแต่ผู้เชี่ยวชาญ นักธรรมชาตินิยม ไปจนถึงบุคคลธรรมดาทั่วๆไป ให้ได้แสดงความคิดเห็น มีการชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสีย ไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่จะคิดถึงชนส่วนรวมเป็นหลักใหญ่
แล้วจอห์นได้สิทธิในการทำงานศิลปของเขาที่นี่ ริมแม่น้ำออตตาวา และยังได้รับการสนับสนุนจากเทศบาลเมืองออตตาวาด้วย
ทั้งหมดนี้เขาไม่ได้อะไรเป็นสิ่งตอบแทนเลย นอกจากความสุขใจ แต่เจ้าตัวบอกว่า
‘ในทุกๆวัน..ได้เปิดโอกาสให้ผมได้สร้างสรร และได้ให้บางสิ่งบางอย่างแก่โลก’
‘Every day is an opportunity to produce something, to contribute something.’
ศิลปะของการสมดุลหินก็เหมือนกับศิลปะของการสมดุลของชีวิต
ในชีวิตประจำวันของเราต้องมีการดูแลและรักษาความสมดุล ความสมดุลทางกายภาพ (Physical balance) ความสมดุลทางจิตใจ (Mental balance) และ ความสมดุลทางจิตวิญญาณ (Spiritual balance) เพื่อให้ชีวิตดำเนินไปอย่างราบเรียบ และเป็นสุข
ความสมดุลทางกายภาพ (Physical balance) กินดี อยู่ดี พักผ่อนนอนหลับดี และออกกำลังกายดี
ความสมดุลทางจิตใจ (Mental balance) พักผ่อนหย่อนใจดี คลายความเครียด ส่วนความสมดุลทางจิตวิญญาณ (Spiritual balance) คือการทำสมาธิ และวิปัสสนา
การทำสมาธิ ช่วยให้ใจตั้งมั่น มีสติ จิตใจที่ตั้งมั่น มีสติ จะไม่หวั่นไหว สั่นคลอนได้ง่าย
การวิปัสสนา ช่วยเปิดประตูใจให้ยอมรับความจริง ยอมรับกฎธรรมชาติ ไม่ฝืนธรรมชาติ
บ่อยครั้งที่ คลื่น สายน้ำ แรงลม มรสุม หรือในชีวิตเราก็คงจะเป็นสิ่งที่มากระทบ …ตั้งแต่ โกรธ เกลียด เจ็บป่วย การสูญเสีย และความพลัดพราก หินบางก้อนอาจจะเคลื่อน ถ้าเคลื่อนมากก็ทำให้เสียศูนย์ หรือเสียสมดุล ทำให้หินทุกก้อนหล่นคลืนกองกับพื้น
แต่คนที่มีความสมดุลทางจิตวิญญาณจะหลุกขึ้น ..ปัดแข้งปัดขา แล้วเริ่มก่อหินขึ้นอีกในทันทีทันใด
คนที่มีความสมดุลทางจิตวิญญาณน้อยหน่อย ก็จะใช้เวลามาก เริ่มตั้งแต่ใจที่หวั่นไหว สั่นคลอนอยู่ตลอดเวลา โดนโน่นนิด นี่หน่อย ก็กระเด้ง กระดอน เป็นลูกปิงปอง ใจที่ไม่ตั้งมั่น ก็จะไม่มองเห็นความจริง ไม่ยอมรับธรรมชาติ ทำให้เสียศูนย์ หรือเสียสมดุลอยู่ตลอดเวลา
สำหรับอ้อยหวานก็อยู่ในระหว่างการเรียนรู้และปฎิบัติ ทั้งศิลปะของการสมดุลหินและศิลปะของการสมดุลของชีวิต
ศิลปะของการสมดุลหินเป็นการช่วยฝึกสมาธิ ฝึกใจให้ตั้งมั่น ฝึกใจไม่ให้กระเด้ง กระดอน เหมือนลูกปิงปอง เมื่อโดนกระทบ
อ้อยหวานเริ่มจากการเก็บหินเลยทีเดียว เก็บอย่างนี้ทีละก้อน ทีละก้อน หินแม่น้ำเกลี้ยงเกลา ด้วยการขัดเกลาจากกระแสน้ำ การได้สัมผัสหิน ดิน ช่วยให้ใจเปิดรับธรรมชาติ
เวลาวางหินทีละก้อนให้ซ้อนและสมดุลกัน ช่วยให้มีสมาธิ ช่วยใจให้ตั้งมั่นและมุ่งมั่น เวลาเห็นหินล้มครืนลงกับพื้น ช่วยเปิดใจให้ยอมรับความเป็นจริง
ประติมากรรมหินสมดุลทุกชิ้น ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ จะมีค่าเท่ากันหมด คือ ประมาณค่ามิได้ มันอยู่ที่ใจล้วนๆ
ขอให้เพื่อนๆมีแต่ความสุข
ขอบคุณค่ะ
อ้อยหวาน
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
บทความในบล็อกนี้ อ้อยหวานขออุทิศให้แก่ย่าผู้เป็นที่รักยิ่ง
ย่าจากไปอย่างสงบในวันที่ 12 สิงหาคม ที่ผ่านมา ด้วยอายุ 102 ปี กับ 6 เดือน
ในช่วงชีวิตของย่าได้ผ่านลม คลื่น มรสุม หรือสิ่งกระทบ หลายครั้งนับไม่ถ้วน บางครั้งก็ทำให้หินสมดุลของย่าล้มระเนระนาด แต่ย่าก็ค่อยก่อขึ้นมาใหม่ทุกๆครั้ง
จวนจนครั้งนี้ครั้งสุดท้าย หินทุกก้อนได้กลับคืนสู่สภาพเดิม สู่ธรรมชาติ
เหลือไว้แต่ความทรงจำของลูกๆ หลานๆ เหลนๆ ทุกคน
ชีวิตนี้เปรียบเหมือนละครโรงใหญ่
เรานั้นไซร้คือตัวละคร
เมื่อถึงตอนละครปิดฉากลง
ขอจงโค้งรับเสียงตบมือ