อ้อยหวานเป็นคนช่างฝันมาตั้งแต่ดึกดําบรรพ์ คือตั้งแต่อ่านออกเขียนได้ เป็นคนที่รักการอ่าน ชอบอ่านหนังสือทุกชนิด ยกเว้นหนังสือที่เกี่ยวกับสงครามและการเมือง ที่ชอบมากเป็นพิเศษคือหนังสือสารคดีต่างๆ โดยเฉพาะสารคดีท่องเที่ยว อ่านเรื่องไหนที่ชอบและติดใจ ก็จะค้นคว้าอ่านลืกลงไป คุดคุ้ย แคะเขี่ย จน (เกือบจะ) เหมือนกับได้ไปเดินท่องเที่ยวด้วยตัวเอง ยิ่งอ่านก็ยิ่งใฝ่ฝัน สักวันคงต้องมีวันของเรา
จนกระทั้งเรียนจบมหาลัย ในตอนนั้นคิดแต่ว่าอาชีพที่ได้เดินทางท่องเที่ยวมากที่สุด คงไม่มีใครเกินอาชีพ ‘สาวใช้บนเครื่องบิน’ หรือชื่อที่หรูขึ้นมาหน่อย ‘แอร์โฮสเตส’ ว่าแล้วคนช่างฝันก็ตลุยสมัครงานไปที่สายการบินหลากหลายแห่ง ทั้งไทย จีน แขก ทั้งที่รู้ว่าภาษาอังกฤษยังไม่ถึงระดับ ผลออกมาสาวน้อยอ้อยหวานก็พลาดตำแหน่งสาวใช้ประจำเครื่อง (บิน) ไม่กี่เดือนต่อมาเธอได้งานอย่างไม่คาดฝันกับบริษัทผลิตแผนที่ของแคนนาดา ที่มาได้งานใหญ่ในเมืองไทย วันแรกที่ไปทำงานเธอพบตัวเองท่ามกลางฝรั่งทั้งหนุ่มและแก่ หนื่งในนั้นคือหนุ่มผมทองที่เงียบขรึม แต่หล่อได้ใจ คบหากันมาสามปี ก็ถืงเวลาจับมือกันท่องเที่ยว
ต่อมามีเด็กอีกสองคนมาร่วมจับมือท่องเที่ยว แผนการเที่ยวและที่เที่ยวก็เปลี่ยนไปเป็นแนวเอาใจเด็กๆ ทั้งพิพิธภัณฑ์ สวนสนุก พ่อแม่ก็สนุกไปกับลูกๆ ทุกแห่ง
กิจกรรมโปรดของลูกๆ ที่เมืองไทยคือการขี่ช้าง เราไปขี่ช้างกันหลายหน หลายแห่ง ทุกครั้งที่กลับไปเมืองไทย การขี่ช้างจะต้องมีในโปรแกรม ส่วนพ่อกับแม่ก็ต้องฝืนทนทุกครั้งไป ถ้าไม่ใช่เพื่อลูก ต่อให้เอาช้างมาฉุดก็ไม่ไป
จนกระทั้งในวันหนึ่งที่อ้อยหวานตกหลุมรักจักรยานอย่างถอนตัวไม่ขึ้น ความใฝ่ฝันดั้งเดิมก็อัพเกรดมาเป็นความใฝ่ฝันติดล้อ นี่แหละ! ใช่เลย! ทัวร์ริ่งกับจักรยาน ช่างเป็นการท่องเที่ยวสุดบรรเจิด มันสว่างสดใส ปิ้ง! ปิ้ง! เข้ามาในหัวใจ อ้อยหวานมุ่งมั่นฝึกฝน จากปั่นหนึ่งกิโลก็หมดแรง ก็ปั่นได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ 80 กิโลก็ยังไหว (ไม่ได้โม้เลยนะเนี่ย) สี่ปีต่อมา ทัวร์ริ่งกับจักรยานครั้งแรกได้ถือกำเนิด โปรวองค์ ฝรั่งเศษ เมืองแห่งความใฝ่ฝัน แล้วอ้อยหวานก็ได้ ทำหัวใจหล่นไว้ที่โปรวองซ์ เป็นทริปแรกที่ประทับใจจนล้นอก จากนั้นก็มีทริปอื่นๆ เดินขบวนตามหลังมาไม่ห่าง
แล้วคนช่างฝันคนนี้ก็สนุกในการวางแผนทริป เปิดดูแผนที่กูเกิลบ่อยๆ สรรหาอ่านเรื่องราวประสบการณ์ของคนอื่น หากเห็นภาพสถานที่ที่ไหนที่สวยต้องใจก็ปักหมุดไว้ หนื่งในความใฝ่ฝันของอ้อยหวานและเพื่อนร่วมปั่นคือ ปั่นจักรยานเที่ยวเมืองไทย หลังจาก ทริปปั่นเลียบอ่าวไทยเมื่อต้นปีประสบความสำเร็จไปด้วยดี คือ เราสองคนไม่ถูกแดดเผาคาจักรยาน ถนนหนทางก็โอเค โดนหมาไล่ก็พอรับได้ ทริปที่สองจึงถึอกำเนิดขึ้น โดยอ้อยหวานหลับตาแล้วเอานิ้วจิ้มลงไปบนแผนที่ประเทศไทย เปิดตาดูพบว่านิ้วได้จิ้มอยู่บนจังหวัดกาญจนบุรี (ว่าไปนั่น)
แล้วนิ้วก็จิ้มได้ถูกที่จริงๆ
เมืองไทยมีสถานที่สวยๆ ไม่แพ้ใคร
ทริปปั่นจักรยานตามเก็บฝันครั้งนี้เน้นภูเขา จะมีทะเลใต้อยู่เล็กน้อยในตอนจบ ก็เด็กใต้อย่างอ้อยหวานจะไม่ให้เท้าก้บล้อเยียบทะเลคงเป็นไปไม่ได้
ข้อแตกต่างระหว่างคนช่างฝันและคนเพ้อฝัน คนช่างฝันจะไม่มีฝันมากมายหลายอย่าง คือฝันแล้วรักเลย มุ่งมั่นสานฝันให้เป็นจริง และที่สำคัญคือไม่ใฝ่ฝันเกินตัว คนเพ้อฝัน..นั่งก็ฝัน นอนก็ฝัน อยากได้โน่น อยากทำนี่ มีแต่ลม และความแห้งแล้ง ความฝันที่ผุดๆ ดับๆ เหมือนฟองน้ำ เช่นนี้จะมีรางวัลรอให้รับที่ปลายทางอยู่หรือ?
อย่ารั้งรอ เก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า แล้วเตรียมจักรยานออกไปปั่นเที่ยวไทยกับอ้อยหวานในตอนต่อไป
ขอให้เพื่อนๆ มีแต่ความสุข
ขอบคุณค่ะ
อ้อยหวาน