แม้แต่เทพสวรรค์ even the heavenly gods
ยังรายล้อม crowd 'round...
รอบดอกพลัม plum blossoms
กลอนไฮกุของท่านอิสสะ (Issa)
ไปญี่ปุ่นคราวนี้ อ้อยหวานหมายมั่นปั้นมือ หมายใจ และปรารถนา (มุ่งมั่นมากๆ จริงๆ นะเออ) ที่จะไปชมดอกพลัม นิมิตหมายแรกของฤดูใบไม้ผลิ แล้วก็เป็นอย่างในกลอนไฮกุของท่านอิสสะจริงๆ ดอกพลัมงามเสียจน (เกือบ) ลืมหายใจ
ช่วงที่อ้อยหวานกับคุณผู้ชายแวะไปญี่ปุ่นคือเดือนมีนาคม ดอกพลัมกำลังเบ่งบานกันอย่างสุดขีด อย่างที่เรียกกันว่าเบ่งบาน ‘ทะลุจอ’ อ้อยหวานไม่ได้เว่อร์เลยนะ ถ่ายรูปดอกพลัมกันมาเป็นร้อยๆ รูป (สองกล้อง) เลือกมาลงบล็อกจนตาลายเลยละ
เรามีโอกาสชมดอกพลัมกันหลายที่ ที่โน่นนิด ที่นี่หน่อย ตามบ้านเรือน สวนเล็ก สวนน้อย วัดและศาลเจ้าแต่ละแห่ง จะมีต้นพลัมกันที่ละต้นสองต้น แต่ที่มีต้นพลัมเยอะๆ เป็นร้อย เป็นพันต้น ก็ได้ไปชมอยู่สามแห่ง
แห่งแรกคือที่ ปราสาทนะโกะยะ เมืองนะโกะยะ ที่นี่มีต้นพลัมร้อยกว่าต้น 13 สายพันธ์ ภาพปราสาทกับสวนพลัมสวยงามมาก เพียงแต่วันนั้นอากาศไม่เป็นใจ มีทั้งฝนและหิมะตกเป็นระยะๆ ท้องฟ้ามืดครึ้ม ไม่มีแสงดีๆ สำหรับถ่ายรูป
อ่านเวอร์ชั่นที่มีรายละเอียดการท่องเที่ยวและการเดินทางได้ที่ลิงค์ข้างล่างค่ะ
ดอกพลัมบานสะพรั่งที่ปราสาทนะโกะยะ
อีกแห่งคือ พระราชวังเกียวโต อิมพีเรียล วันนั้นเราเช่าจักรยานของโรงแรม แล้วปั่นเที่ยวชมดอกพลัมและแม่น้ำของเกียวโต เป็นวันเดียวที่ได้ปั่นจักรยานเที่ยวในทริปญี่ปุ่นคราวนี้
อ่านเวอร์ชั่นที่มีรายละเอียดการท่องเที่ยวและการเดินทางได้ที่ลิงค์ข้างล่างค่ะ
สวนพลัมของพระราชวังเกียวโต อิมพีเรียล
สวนพลัมของพระราชวังเกียวโต อิมพีเรียล มีต้นพลัมทั้งหมด 250 ต้น 35 สายพันธ์
งามสุดใจ
เราปั่นจักรยานแวะไปที่สวนตอนแปดโมงเช้า ผู้คนบางตา มีแต่ตากล้องและชาวบ้านเอาหมามาเดินเล่นไม่กี่คน ทำให้ได้ใช้เวลาดื่มด่ำชมและดมกับดอกพลัมได้อย่างเต็มที่ บ่ายๆจะมีคนมากางเสื่อปิคนิค ชมดอกพลัม หรือที่คนญี่ปุ่นเรียกว่า ฮานามิ กันเต็มไปหมด คนญี่ปุ่นชอบฮานามิกันมาก ขนลูก ขนหลาน ออกมานั่งชมดอกไม้ ขนข้าวเย็นกันมานั่งทานใต้ต้นพลัม
นายแบบทั้งสองตัวก็มาชมดอกพลัม
หลังจากสวนพลัมของพระราชวังเกียวโต อิมพีเรียล เราก็ปั่นจักรยานไปสถานที่แห่งสุดท้าย ที่เราไปชมดอกพลัม เป็นสถานที่ที่ไม่ธรรมดาเลย เพราะเป็นสถานที่ชมดอกพลัมที่เรืองชื่อที่สุดของเมืองเกียวโต
ศาลเจ้าคิทะโนะ เท็นมันกุ มีต้นพลัม 2,000 ต้น 200 สายพันธุ์
อ่านเวอร์ชั่นที่มีรายละเอียดการท่องเที่ยวและการเดินทางได้ที่ลิงค์ข้างล่างค่ะ
ดอกพลัมที่ศาลเจ้าคิทะโนะ เท็นมันกุ
ปรกติศาลเจ้าคิทะโนะ เท็นมันกุ จะเปิดให้เข้าชมฟรี แต่ช่วงฤดูดอกพลัมจะมีการขึงผ้ากั้นสวนพลัม และเก็บเงินค่าเข้าชมคนละ 600 เยน = 180 บาท แต่ก็คุ้มสุดคุ้ม ผู้คนมากมาย แต่สวนกว้างขวาง และไม่อนุญาติให้ปิคนิคฮานามิ เลยไม่รู้สึกว่าแออัด
อ้อยหวานแทบจะโบยบินดั่งผีเสื้อ ทั้งชม ทั้งดม ทั้งถ่ายรูป
เลือกไม่ถูกเลยว่าชอบดอกไหน เพราะว่างามไปเสียหมด รูปถ่ายในบล็อกนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นดอกพลัมของศาลเจ้าคิทะโนะ เท็นมันกุ
ดอกพลัมบานสะพรั่ง อากาศดี แสงเช้าสดใส และใจของคนถ่ายรูปเบิกบาน
อา..ช่างเป็นวันที่น่าจดจำ
ต้นพลัมญี่ปุ่น หรือเรียกกันในภาษาญี่ปุ่นว่า ‘อุเมะ’ (Ume) ก็คือ ต้นบ้วย นั่นเอง แต่อ้อยหวานชอบชื่อ พลัม มากกว่า บ้วย
ที่ญี่ปุ่น ดอกพลัมเปรียบเหมือนลูกเมียน้อย โดยที่มีดอกซากุระเป็นลูกเมียหลวง ทั้งๆ ที่เทียบกันแล้ว ความงามของดอกพลัมไม่แพ้ดอกซากุระเลย
ดอกพลัมมีกลิ่นหอมมาก หอมหวานเสียจนเทพสวรรค์หรือคนเดินดินธรรมดาๆ อย่างอ้อยหวาน หลงไหลนัก นี่คือข้อแตกต่างระหว่างดอกพลัมกับดอกซากุระ ดอก ซากุระจะไม่ค่อยมีกลิ่นหอม ถ้ามีก็จางๆ ซากุระทั้งสวนยังมีกลิ่นหอมน้อยกว่าดอกพลัมแค่หนึ่งต้น อ้อยหวานขอยืนยัน ดมมาเต็มปอด
ดอกพลัมจะบานก่อนดอกซากุระ และบานทนกว่า ดอกซากุระจะบนแค่ 1-2 อาทิตย์ แต่ดอกพลัมจะบาน 5-6 อาทิตย์ เรียกว่า ทั้งสวย ทั้งอึด
‘พลัมญี่ปุ่น’ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Prunus mume มีถิ่นกำเนิดที่ประเทศจีน บริเวณลุ่มแม่น้ำแยงซี ต่อมาแพร่หลายไปยังญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน และเวียดนาม โตเต็มที่จะสูงประมาณ 4-10 เมตร
ส่วนใหญ่แล้วดอกพลัมญี่ปุ่นจะมีห้ากลีบ แต่มีบางพันธ์มีมากว่าห้ากลีบ มีเฉดสีตั้งแต่สีขาว ชมพูอ่อน ไปจนถึงชมพูเข้ม
และต้นพลัมที่หาดูได้ยากคือพันธ์ดอกสีแดง ที่จริงก็ไม่แดงเอาทีเดียว เป็นแดงที่มีชมพูปนอยู่
ลูกพลัมญี่ปุ่นไม่นิยมทานสดกัน เพราะมีรสเปรี้ยวมาก ปีที่แล้วอ้อยหวานไปที่ญี่ปุ่นตอนเดือนพฤษภาคม ก่อนกลับบ้านได้ไปชมสวนที่เมืองนาริตะ ต้นพลัมกำลังเป็นลูกอ่อน เห็นแล้วเปรี้ยวปาก เลยเก็บมาชิม (ไปหลายลูก) ถ้ามีพริกกะเกลือคงจะชิมไปหมดสวน
ที่ญี่ปุ่นเขานิยมนำมาดองไว้ทานกับข้าวสวย ซึ่งอร่อยมาก อาหารเช้าที่โรงแรมจะเป็นบุฟเฟ่ต์ มีทั้งอาหารฝรั่ง และอาหารญี่ปุ่น แต่ละแห่งจะต้องมีผักดอง(ของชอบของอ้อยหวาน) อยู่ 3-4 ชนิด และจะต้องมี ‘อุเมะโบะชิ’ (umeboshi) หรือลูกพลัมดอง
นอกจากนี้ลูกพลัมญี่ปุ่นยังนิยมนำมาทำ ‘อุเมะชุ’ (Umeshu) เหล้าลูกพลัม รสชาติเป็นอย่างไรไม่รู้ แต่กลิ่นหอมดี
โปรดติดตามอ้อยหวานเล่าเรื่องญี่ปุ่น ในตอนต่อไป
อ่านชีวิตคือการเดินทาง ตอนแรกๆ ได้ที่นี่่ค่ะ
ชีวิตคือการเดินทาง ตอน ทำไมต้องท่องเที่ยว
ชีวิตคือการเดินทาง ตอน ฉันรักสวนลุม
ชีวิตคือการเดินทาง ตอน มีรักที่ราชบุรี
ชีวิตคือการเดินทาง ตอน ดับเบิ้ลดีที่อัมพวา
ชีวิตคือการเดินทาง ตอน ทะเล หาดทราย สายลม และสองเรา
ชีวิตคือการเดินทาง ตอน หัวหิน..ไม่สิ้นเสน่หา
ชีวิตคือการเดินทาง ตอน หากเธอคือฟ้า ฉันจะเป็นทะเล
ชีวิตคือการเดินทาง ตอน ปั่นช้าๆ ตาม..เสียงเกลียวคลื่นและกลิ่นไอทะเล
ชีวิตคือการเดินทาง ตอน ปั่นตามใจ ไปตามฝัน
ชีวิตคือการเดินทาง ตอน ดั่งหนึ่งเม็ดทราย
ชีวิตคือการเดินทาง ตอน สุขใจ@นครศรีธรรมราช
ชีวิตคือการเดินทาง ตอน เที่ยวเมืองลุง ไม่ยุ่งหัวใจ
ชีวิตคือการเดินทาง ตอน วันฟ้าใส..ในภูเก็ต
ชีวิตคือการเดินทาง ตอน ลาก่อนเมืองฟ้าอมร สวัสดีแดนอาทิตย์อุทัย
ขอให้เพื่อนๆ มีแต่ความสุข
ขอบคุณค่ะ
อ้อยหวาน